เอเอฟพี/เอเจนซี - รัฐบาลบราซิล ยืนยันเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (2) ว่า วัตถุที่เครื่องบินค้นหาส่องพบในมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 228 ที่สูญหายไปท่ามกลางพายุหนึ่งวันก่อนหน้านี้
เนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลแถลงต่อผู้สื่อข่าวที่ริโอ เดจาเนโร ว่า “ไม่มีข้อสงสัย” ว่า คราบน้ำมันและซากปรักหักพังที่รวมไปถึงเก้าอี้เครื่องบินเป็นของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ เอเอฟ 447 ซึ่งกำลังบินจากริโอ ปลายทางกรุงปารีส และสูญหายเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (1)"
ซากชิ้นส่วนของเครื่องบินถูกพบกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณรัศมี 5 กิโลเมตร โจบิมกล่าว พร้อมระบุว่า “สามารถยืนยันได้ว่าเครื่องบินตกในจุดนี้”
รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลบอกต่อว่ามีเรือสินค้า 3 ลำแล่นอยู่ในพื้นที่ที่พบซากของเครื่องบิน ขณะที่เรือของกองทัพเรือบราซิลลำแรกจะเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้(3) “พวกเขาจะเริ่มกู้วัตถุเหล่านั้นที่ถูกพบ” โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศบราซิลก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(2)
เขาบอกต่อว่า หากพบศพผู้โดยสารและลูกเรือรายใด ศพเหล่านั้นจะถูกเคลื่อนย้ายโดยเรือไปยังสนามบินที่ใกล้ที่สุด บนเกาะเฟอร์นันโด เดอ นอรอนญา ของบราซิล ห่างจากจุดพบซากเครื่องบินราว 460 กิโลเมตร
แม้จะพบซากเครื่องบิน แต่เจ้าหน้าที่ยังคงฉงนต่อข้อสมมติฐานที่ว่า พายุสามารถสร้างปัญหากับเครื่องบินสมัยใหม่ที่สร้างมาเพื่อต้านทานฝนฟ้ารุนแรง และขับโดยนักบินที่มากประสบการณ์ 3 คนได้อย่างไร แถมเครื่องบินยังประสบอุบัติเหตุโดยไม่มีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหรือส่งสัญญาณบ่งบอกถึงสถานการณ์ฉุกเฉินตามข้อปฏิบัติตามปกติในกรณีที่เครื่องตกอีกด้วย
สมมติฐานหนึ่ง คือ เครื่องบินอาจถูกฟ้าผ่า หรือเผชิญความผิดปกติของบรรยากาศอย่างรุนแรงจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แต่ครอบครัวผู้เสียชีวิตคงต้องเฝ้ารอคำตอบไปอีกนาน ขณะที่ทีมกู้ภัยกำลังค้นหากล่องบันทึกการบินของเครื่องที่ดูเหมือนจะเป็นปฏิบัติการค้นหาครั้งที่ยากเย็นแสนเข็ญที่สุดเท่าที่เคยพบมา
โจบิม บอกว่า กล่องบันทึกการบิน หรือกล่องดำ อาจร่วงลงสู่พื้นทะเลที่มีความลึก 2,000-3,000 เมตร และผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งบอกว่า ครั้งนี้อาจเป็นปฏิบัติการค้นหาครั้งยากเย็นที่สุดนับตั้งแต่การค้นหาเรือไททานิกเลยทีเดียว
“คุณคิดว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการค้นหาไททานิก แต่ซากปรักหักพังนี้มันเล็กกว่า คุณกำลังมองหาเข็มในกองหญ้า” ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่ง ระบุ
ด้านญาติผู้โศกเศร้าของผู้โดยสารของเครื่องบิน ที่มากกว่าครึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสหรือบราซิล ได้รับการอนุเคราะห์จากทีมจิตวิทยาทั้งที่กรุงปารีสและริโอ
ทั้งนี้ เครื่องบิน 2 ลำของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในบริเวณเดียวกันนั้น 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนหน้าที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์หายไป คาดว่า จะเข้าให้เงื่อนปมแก่เจ้าหน้าที่สืบสวน เพื่อทำการเสาะหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
แอร์เว โมแรง รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส บอกว่า รัฐบาลยังไม่ตัดประเด็นก่อการร้าย แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ได้ว่าเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้เกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย