ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์แข่งเอาใจลุกค้าสินเชื่อบ้าน "กสิกรไทย"ผุด 2 มาตรการช่วยเหลือลูกค้ายามเศรษฐกิจซบเซา ประกาศลดเงินค่างวดผ่อนบ้านลง 40% พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมการชำระค่าบริการสาธารณูปโภคผ่านสาขาและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถึงกลางปีหน้า ด้าน"ไทยพาณิชย์"ระบุุพร้อมลดค่างวดให้หากลูกค้าร้องขอมา ขณะที่"นครหลวงไทย"ขยายโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 2 ปี จนถึง 30 มิ.ย.นี้
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารได้ประกาศลดวงเงินผ่อนชำระค่างวดของสินเชื่อที่อยู่อาศัยลง 40% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ โดยลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมาก สามารถเลือกลดวงเงินผ่อนชำระค่างวดลงได้ถึง 40% ของวงเงินผ่อนชำระปกติ เป็นเวลา 1 ปี คือตั้งแต่กรกฎาคม 2552 ถึงมิถุนายน 2553 อาทิ ลูกค้าที่เคยผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท ก็สามารถเลือกลดการผ่อนชำระเหลือเพียง 6,000 บาทต่อเดือน
การลดค่างวดผ่อนชำระครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ได้มีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น หรือบางคนที่มีข้อจำกัดเรื่องรายได้ในช่วงนี้ก็สามารถลดวงเงินค่างวดเพื่อช่วยลดภาระของครอบครัว รวมทั้งสามารถรักษาบ้านไว้เป็นทรัพย์สินที่มีค่าต่อไป ในขณะที่ลูกค้าใหม่ ที่มีความจำเป็นต้องซื้อบ้านในช่วงนี้ ก็สามารถใช้สิทธิ์ในการลดค่างวดได้เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้สร้างภาระการผ่อนชำระต่อเดือนที่สูงเกินไป
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ยังได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการชำระค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานให้อีกด้วย ซึ่งรวมถึง ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์พื้นฐาน ให้กับลูกค้าและประชาชน ตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2552 ถึง 30 มิถุนายน 2553 โดยลูกค้าสามารถเลือกชำระผ่านช่องทางของธนาคารที่สะดวกที่สุด ทั้งทาง อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ เครื่องเอทีเอ็มที่มี 5,760 เครื่อง หรือสาขาของธนาคารที่มีกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ
นายประสาร กล่าวว่า การลดค่างวดสินเชื่อบ้านกสิกรไทย และการยกเว้นค่าธรรมเนียมชำระค่าสาธารณูปโภค เป็นมาตรการที่ธนาคารต้องการช่วยเหลือในการลดภาระของลูกค้า ประชาชน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นขั้นพื้นฐานของทุกคน และเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้สถาบันการเงินเข้ามาช่วยเหลือลดภาระในด้านต่าง ๆ ของประชาชน
สคิบขยายโปรฯสินเชื่อบ้าน
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCIB เปิดเผยว่า ธนาคารขยายเวลาโปรโมชั่นพิเศษ "สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย"ภายใต้แนวคิด "สินเชื่อบ้านเลือกง่าย ๆ ดอกเบี้ยเบา ๆ พร้อมลดหย่อนภาษีเต็ม ๆ" สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance) ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 3.25% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ส่วนลูกค้าที่ขอกู้ในโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุดถึง 95%ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี โดยสามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้ถึงภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 เท่านั้น
นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวนและอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าอายุสัญญาเงินกู้หรือไม่ต่ำกว่า 10 ปีอีกด้วย
นายอภิชาติ กล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่าจะยังสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านรายใหม่ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ว่าการปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ในระบบจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกสามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิไปได้แล้วประมาณ 8 พันล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะมียอดการปล่อยสินเชื่อรายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารมีโครงการที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้ขอกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มเติม ตลอดจนการออกบูธของธนาคารและบริษัทในเครือเอง รวมทั้งการออกบูธร่วมกับผู้จัดงาน ต่าง ๆ และการออกบูธร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย
"การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารยังคงใช้แนวคิด การเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 2 ปีแรกเป็นหลัก ซึ่งมองว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้กู้ในระยะยาวมากกว่าที่จะเลือกใช้กลยุทธ์อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เพียงระยะเวลาสั้นๆ และดอกเบี้ยจะสูงขึ้นทันทีหลังจากนั้น เนื่องจากทำให้ผู้กู้สามารถ ใช้สิทธิประโยชน์ในการขอลดหย่อนทางภาษีสูงสุดปีละ 100,000 บาท ได้อย่างเต็มที่ทั้งในปีแรกและปีที่สอง โดยไม่เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีปีใดปีหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนการชำระเงินกู้ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นภาระสำหรับผู้กู้มากเกินไปในช่วงเริ่มต้นของการชำระหนี้อีกด้วย"
SCBยันพร้อมลดค่างวดให้ลูกค้า
นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารสื่อสารโดยตรงถึงตัวลูกค้าด้วยวิธีการส่งจดหมาย ในกรณีที่เป็นลูกค้าดี มีการผ่อนชำระค่างวดเป็นปกติ หากต้องการลดค่างวดผ่อนชำระ ธนาคารก็พร้อมดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ลูกค้าที่ผิดนัดชำระ หากติดต่อเข้ามาธนาคารก็จะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารได้ประกาศลดวงเงินผ่อนชำระค่างวดของสินเชื่อที่อยู่อาศัยลง 40% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ โดยลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมาก สามารถเลือกลดวงเงินผ่อนชำระค่างวดลงได้ถึง 40% ของวงเงินผ่อนชำระปกติ เป็นเวลา 1 ปี คือตั้งแต่กรกฎาคม 2552 ถึงมิถุนายน 2553 อาทิ ลูกค้าที่เคยผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท ก็สามารถเลือกลดการผ่อนชำระเหลือเพียง 6,000 บาทต่อเดือน
การลดค่างวดผ่อนชำระครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ได้มีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น หรือบางคนที่มีข้อจำกัดเรื่องรายได้ในช่วงนี้ก็สามารถลดวงเงินค่างวดเพื่อช่วยลดภาระของครอบครัว รวมทั้งสามารถรักษาบ้านไว้เป็นทรัพย์สินที่มีค่าต่อไป ในขณะที่ลูกค้าใหม่ ที่มีความจำเป็นต้องซื้อบ้านในช่วงนี้ ก็สามารถใช้สิทธิ์ในการลดค่างวดได้เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้สร้างภาระการผ่อนชำระต่อเดือนที่สูงเกินไป
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ยังได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการชำระค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานให้อีกด้วย ซึ่งรวมถึง ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์พื้นฐาน ให้กับลูกค้าและประชาชน ตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2552 ถึง 30 มิถุนายน 2553 โดยลูกค้าสามารถเลือกชำระผ่านช่องทางของธนาคารที่สะดวกที่สุด ทั้งทาง อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ เครื่องเอทีเอ็มที่มี 5,760 เครื่อง หรือสาขาของธนาคารที่มีกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ
นายประสาร กล่าวว่า การลดค่างวดสินเชื่อบ้านกสิกรไทย และการยกเว้นค่าธรรมเนียมชำระค่าสาธารณูปโภค เป็นมาตรการที่ธนาคารต้องการช่วยเหลือในการลดภาระของลูกค้า ประชาชน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นขั้นพื้นฐานของทุกคน และเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้สถาบันการเงินเข้ามาช่วยเหลือลดภาระในด้านต่าง ๆ ของประชาชน
สคิบขยายโปรฯสินเชื่อบ้าน
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCIB เปิดเผยว่า ธนาคารขยายเวลาโปรโมชั่นพิเศษ "สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย"ภายใต้แนวคิด "สินเชื่อบ้านเลือกง่าย ๆ ดอกเบี้ยเบา ๆ พร้อมลดหย่อนภาษีเต็ม ๆ" สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance) ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 3.25% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ส่วนลูกค้าที่ขอกู้ในโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุดถึง 95%ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี โดยสามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้ถึงภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 เท่านั้น
นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวนและอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าอายุสัญญาเงินกู้หรือไม่ต่ำกว่า 10 ปีอีกด้วย
นายอภิชาติ กล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่าจะยังสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านรายใหม่ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ว่าการปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ในระบบจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกสามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิไปได้แล้วประมาณ 8 พันล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะมียอดการปล่อยสินเชื่อรายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารมีโครงการที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้ขอกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มเติม ตลอดจนการออกบูธของธนาคารและบริษัทในเครือเอง รวมทั้งการออกบูธร่วมกับผู้จัดงาน ต่าง ๆ และการออกบูธร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย
"การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารยังคงใช้แนวคิด การเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 2 ปีแรกเป็นหลัก ซึ่งมองว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้กู้ในระยะยาวมากกว่าที่จะเลือกใช้กลยุทธ์อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เพียงระยะเวลาสั้นๆ และดอกเบี้ยจะสูงขึ้นทันทีหลังจากนั้น เนื่องจากทำให้ผู้กู้สามารถ ใช้สิทธิประโยชน์ในการขอลดหย่อนทางภาษีสูงสุดปีละ 100,000 บาท ได้อย่างเต็มที่ทั้งในปีแรกและปีที่สอง โดยไม่เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีปีใดปีหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนการชำระเงินกู้ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นภาระสำหรับผู้กู้มากเกินไปในช่วงเริ่มต้นของการชำระหนี้อีกด้วย"
SCBยันพร้อมลดค่างวดให้ลูกค้า
นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารสื่อสารโดยตรงถึงตัวลูกค้าด้วยวิธีการส่งจดหมาย ในกรณีที่เป็นลูกค้าดี มีการผ่อนชำระค่างวดเป็นปกติ หากต้องการลดค่างวดผ่อนชำระ ธนาคารก็พร้อมดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ลูกค้าที่ผิดนัดชำระ หากติดต่อเข้ามาธนาคารก็จะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้