ASTVผู้จัดการรายวัน- “วรรณรัตน์”เล็งถก”ชาญชัย” หลังการนำเข้ารถยนต์อี 85 ตามมติครม.ยังไม่คืบทั้งที่กำหนดเป้าหมายนำเข้าปีนี้ 2 พันคัน เหตุกระทรวงอุตสสาหกรรมทดสอบมาตรฐานรถยนต์ล่าช้า
น.พ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เร็วๆนี้จะหารือกับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรมในการเร่งรัดนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 (เอฟเอฟวี ให้เป็นไปตามมติครม.ที่อนุมัติให้นำเข้ารถยนต์อี 85 จำนวน 2,000 คันภายในปี 52 โดยภาครัฐจะลดภาษีนำเข้าจาก 80% เหลือ 60% และลดภาษีสรรพสามิตลงอีก 3% เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่ใช้เอทานอลถึง 85% แต่ล่าสุดยังไม่สามารถนำเข้ารถได้เพราะหลักเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานของรถยนต์ต้องใช้เวลานาน เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมต้องทดสอบรถยนต์กับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ น้ำมัน อี20 และ อี 85 ซึ่งล่าช้าจนส่งผลกระทบต่อแผนกระตุ้นการใช้พลังงานทดแทนและการขยายปั๊มน้ำมันอี 85
“ภายในปี 61 กระทรวงพลังงานตั้งเป็นการใช้รถยนต์อี 85 ในไทยให้ได้ 1 ล้านคัน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เกษตรกรที่ปลูกพืชพลังงานทดแทน แต่หากยังติดระเบียบของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีขั้นตอนทดสอบที่นานก็ไม่มั่นใจว่าจะนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้มาใช้ในไทยได้ 2,000 คันหรือไม่ โดยกระทรวงพลังงานต้องการให้ทดสอบกับน้ำมันอี 85 ก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำมันประเภทอื่นคงไม่มีปัญหาแน่นอน แต่มั่นใจว่าหลังหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมอาจทำให้ปัญหาคลี่คลายลง”รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นกระทรวง
พลังงานได้ติดตามบริหารนโยบายให้เหมาะสม โดยจะยังไม่มีการเพิ่มการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อนหน้านี้ได้ลดลงไป เพื่อร่วมรับภาระกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีรัฐบาลปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม สถานะกองทุนคงไม่สามารถแบกรับภาระไปตลอด เพราะในแต่ละเดือนจะต้องรับภาระประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยจะดูแลได้นานสุดและจะขยายไปมากกว่า4เดือนหรือไม่คงจะต้องดูราคาตลาดโลกเป็นหลัก ซึ่งในภาวะเช่นนี้คงต้องขอให้ประชาชนประหยัดพลังงานมากขึ้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะนำเข้ารถยนต์ อี 85 เพราะมีราคาแพงเกือบคันละ 3 ล้านบาท ดังนั้นต้องการให้รอค่ายรถยนต์ในไทยมีความพร้อมที่จะผลิตรถยนต์ประเภทจะเกิดประโยชน์มากกว่าการส่งเสริมให้นำเข้า
น.พ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เร็วๆนี้จะหารือกับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรมในการเร่งรัดนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 (เอฟเอฟวี ให้เป็นไปตามมติครม.ที่อนุมัติให้นำเข้ารถยนต์อี 85 จำนวน 2,000 คันภายในปี 52 โดยภาครัฐจะลดภาษีนำเข้าจาก 80% เหลือ 60% และลดภาษีสรรพสามิตลงอีก 3% เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่ใช้เอทานอลถึง 85% แต่ล่าสุดยังไม่สามารถนำเข้ารถได้เพราะหลักเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานของรถยนต์ต้องใช้เวลานาน เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมต้องทดสอบรถยนต์กับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ น้ำมัน อี20 และ อี 85 ซึ่งล่าช้าจนส่งผลกระทบต่อแผนกระตุ้นการใช้พลังงานทดแทนและการขยายปั๊มน้ำมันอี 85
“ภายในปี 61 กระทรวงพลังงานตั้งเป็นการใช้รถยนต์อี 85 ในไทยให้ได้ 1 ล้านคัน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เกษตรกรที่ปลูกพืชพลังงานทดแทน แต่หากยังติดระเบียบของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีขั้นตอนทดสอบที่นานก็ไม่มั่นใจว่าจะนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้มาใช้ในไทยได้ 2,000 คันหรือไม่ โดยกระทรวงพลังงานต้องการให้ทดสอบกับน้ำมันอี 85 ก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำมันประเภทอื่นคงไม่มีปัญหาแน่นอน แต่มั่นใจว่าหลังหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมอาจทำให้ปัญหาคลี่คลายลง”รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นกระทรวง
พลังงานได้ติดตามบริหารนโยบายให้เหมาะสม โดยจะยังไม่มีการเพิ่มการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อนหน้านี้ได้ลดลงไป เพื่อร่วมรับภาระกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีรัฐบาลปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม สถานะกองทุนคงไม่สามารถแบกรับภาระไปตลอด เพราะในแต่ละเดือนจะต้องรับภาระประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยจะดูแลได้นานสุดและจะขยายไปมากกว่า4เดือนหรือไม่คงจะต้องดูราคาตลาดโลกเป็นหลัก ซึ่งในภาวะเช่นนี้คงต้องขอให้ประชาชนประหยัดพลังงานมากขึ้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะนำเข้ารถยนต์ อี 85 เพราะมีราคาแพงเกือบคันละ 3 ล้านบาท ดังนั้นต้องการให้รอค่ายรถยนต์ในไทยมีความพร้อมที่จะผลิตรถยนต์ประเภทจะเกิดประโยชน์มากกว่าการส่งเสริมให้นำเข้า