xs
xsm
sm
md
lg

ให้สร้างผลงานไม่ใช่สร้างภาพ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 ตื่นตัวกันเป็นการใหญ่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากผลโพลล์ออกมาตีแสกหน้าว่า มีรัฐมนตรีหลายคนทำงานไม่เอาอ่าว คนไม่รู้จักว่ายังมีรัฐมนตรีหลายคนอาศัยอยู่บนโลกอันเส็งเคร็งใบนี้ด้วย ทำให้ล่าสุด“เฮียสุเทพ” ในฐานะแม่บ้าน และเป็นหัวเรือใหญ่ สั่งรัฐมนตรีของพรรคทุกคนให้เร่งประชาสัมพันธ์ผลงานของตัวเองและของรัฐบาลให้ชาวบ้านได้รับรู้มากขึ้น แม้ไม่อยากจะขัดคอ แต่ก็จำเป็นต้องบอกกันหน่อยว่าหาก“มีผลงาน” แม้ตัวเองไม่ได้ “ตีปี๊บ” คนก็จะรู้จะเห็นเอง
00 ส่วนคนที่ไม่มีผลงานหรือไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แม้ประชาสัมพันธ์ให้ตาย มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในที่สุดแล้วมันก็กลายเป็น “โฆษณาชวนเชื่อ” ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกัน อย่างไรก็ดี เพื่อความเป็นธรรมก็ไม่อยากเหมารวมไปเสียทีเดียว เนื่องจากยังมีบางคนที่พอ “เค้น” ผลงานออกมาได้บ้าง อย่างกรณี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รมว.ศึกษาฯ ที่ขับเคลื่อนนโยบายเรียนฟรีได้อย่างมีคุณภาพพอสมควร ในช่วงดำเนินการปีแรก
00 แต่กลายเป็นว่า “งานประชาสัมพันธ์” กลับไม่ดีพอเสียอีก แทนที่รัฐบาลหรือตัวเองจะได้แต้มก็กลับ “เสมอตัว” หรือถูกด่าเสียอีก เพราะพูดก็พูดเถอะ โครงการแบบนี้ถ้าทำดีๆ ขี้คร้านจะซื้อใจผู้ปกครองได้ทั่วประเทศนับแสนนับล้านคน ไม่เชื่อลองสังเกตตามโรงรับจำนำตอนช่วงเปิดเทอมปีนี้ มีข่าวคราวน้อยลง หรือไม่คึกคักเหมือนปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาระในเรื่องอุปกรณ์การเรียนลดลงฮวบฮาบ
00 หรือแม้แต่โครงการ “เบี้ยยังชีพ” ให้ผู้สูงอายุ ของกระทรวงพัฒนาสังคม ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ลุงป้าน้าอา ได้ทราบอย่างทั่วถึง เพราะเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เป็นวันสุดท้ายของการยื่นเอกสารกับทางการ แต่ปรากฏว่า มีน้อยคนนักที่รู้เรื่อง ทำให้สูญเสียโอกาส หรือต้องรอไปอีก 6 เดือน ของแบบนี้ถ้าโฆษณาดีๆมีแต่ได้แต้ม กลับตรงกันข้ามถูกด่าเสียอีก
00 นาทีนี้เลิกกังวลกันได้แล้ว หากขวางโครงการเช่ารถเมล์ “เน่าๆ” 4 พันคันของ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” จนล้มไปแล้ว คนกลุ่มนี้จะพาเหรดถอนตัวทำให้รัฐบาลพังครืนนั้น ขอให้วางใจได้ เพราะต้อง“อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” อย่างน้อยต้องรอให้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านไปก่อน นั่นแหละคือ “เค้ก” ก้อนใหญ่ ที่นักการเมืองจับจ้องกันตาเป็นมัน
00 การชะลอโครงการเช่ารถเมล์ ออกไปก่อน ก็เป็นแค่ซื้อเวลาทีละสัปดาห์เท่านั้น แทนที่จะยกเลิกโดยสิ้นเชิงแล้วนำเงิน 6-7 หมื่นล้านบาทมาใช้ทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ได้อีกตั้งเยอะ หรือไม่ทำก็ประหยัดงบในช่วงที่บ้านเมืองกำลัง “กระเป๋าฉีก” แบบนี้ แต่อีกบรรยากาศหนึ่งก็อยากรอดูว่ารัฐบาลจะกล้า “ไฟเขียว” หรือไม่ เพราะเวลานี้มีแต่เสียงด่ากันทั้งเมือง และเชื่อว่าอีกไม่นานความ “หน้าด้าน” ของนักการเมือง ก็จะโผล่ออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น