xs
xsm
sm
md
lg

“ชินวรณ์” จวก พท.ดูแลเด็กในสังกัด อย่าปล่อยป่วน รบ.ทำงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล
วิปรัฐบาล เตรียมการประชุมประเมินผลงานรัฐบาลรอบ 4 เดือน เน้นงานด้านนโยบาย-ประสิทธิภาพการทำงาน เชื่อ พ.ร.ก.กู้เงินผ่านการพิจารณาของศาล ก่อนเปิดประชุมวิสามัญ ซัด “เพื่อแม้ว” ดูแลลูกพรรคตัวเอง จวก “วรวัจน์” ไม่น่าเชื่อถือ หลังเล็งยื่นตีความ พ.ร.ก.กู้เงินอีก ย้ำตั้งคณะทำงานติดตามผลงานรัฐบาลไม่ซ้ำซ้อนชุดของ “สาทิตย์” ปัด ส.ส.ปชป.บีบปรับ ครม.แนะ รมต.ปรับปรุงวิสัยทัศน์-ทำความเข้าใจ ส.ส.ในเรื่องการจัดงบ ระบุ ทั้งสองฝ่ายต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

วันนี้ (26 พ.ค.) นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ในวันที่ 27 พ.ค.เวลา 13.00 น.จะมีการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวาระที่สำคัญ คือ การประเมินผลงานของวิปรัฐบาลในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของงานนิติบัญญัติ และการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งกระบวนการทำงาน เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสมัยการประชุมนิติบัญญัติ ต้องมีการเตรียมการพิจารณากฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลต้องมีความพร้อม ทั้งเรื่องการประชุม และการทำความเข้าใจกับพรรคร่วม ให้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการตั้งคณะทำงานประสาน เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นช่วงปิดสมัยประชุม ส.ส.ลงพื้นที่พบปะประชาชน วิปจึงถือโอกาสนี้ให้ ส.ส.ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในเรื่องวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งรับฟังปัญหาจากประชาชน เพื่อรวบรวมและรายงานต่อนายกฯโดยตรง เพื่อให้รัฐบาลใช้ข้อมูลเหล่านี้ขับเคลื่อนนโยบายต่อไป

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 3 มิ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย พ.ร.ก.กู้เงิน ของรัฐบาลว่าขัดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 184 หรือไม่นั้น น่าจะเสร็จ พิจารณาเสร็จสิ้นก่อนการเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวันที่ 15-25 มิ.ย.โดยวันที่ 15-16 มิ.ย.จะพิจารณา จะมีการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ในวันที่ 17-18 มิ.ย.จะพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องมีการพิจารณาในกรอบนี้อย่างชัดเจน เพื่อให้ ส.ส.ได้รับทราบอย่างทั่วกัน

นายชินวรณ์ กล่าวว่า การประชุมวิปในวันพรุ่งนี้ จะมีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจน ทั้งนี้ จะมีการประชุมวิปรัฐบาลในช่วงปิดสมัยประชุมอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 8 มิ.ย.การประชุมวิปรัฐบาล จะเชิญข้าราชการมาชี้แจง เรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 และในวันที่ 11-12 มิ.ย.จะเชิญกระทรวงการคลัง และสำนักงานบริหารหนี้ มาทำความเข้าใจเรื่องการพิจารณา พ.ร.ก.ใช้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งให้วิปรัฐบาลแต่ละพรรคได้ไปชี้แจงกับ ส.ส.ในพรรคของตัวเอง พร้อมทั้งตรวจสอบความพร้อมของ ส.ส. เนื่องจากเป็นกฎหมายที่สำคัญ เพื่อให้องค์ประชุมมีความพร้อมเพรียงกัน

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.กู้เงิน ขัดมาตรา 184 กำหนดการต่างๆ จะทำอย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะแนวทางการปฏิบัติมีชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากนี้ กระบวนการออก พ.ร.ก.ก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามต่อว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่พรรคเพื่อไทยอาจจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมาตราอื่นอีก นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่อาจจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ รวมมาตรา 196 อีก ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่จะยื่นได้ แต่ประเด็นของ นายวรวัจน์ เชื่อถือไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเตรียมการอะไร นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยก็ควรไปทบทวนบทบาทของตัวเอง ว่า ถ้าปล่อยให้สมาชิกพรรคมาป่วนในการออก พ.ร.ก.ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องนำเม็ดเงินมาใช้แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อาจถูกประชาชนมองว่าฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไป ภายใต้ความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเรื่องเช่นนี้ไม่น่าเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลตั้ง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นคณะทำงานตรวจผลงานของรัฐมนตรี จะซ้ำซ้อนกับคณะทำงานตั้งขึ้นหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า คณะทำงานของนายสาทิตย์ ตั้งขึ้นเป็นการะประเมินผลงานของฝ่ายราชการ แต่ของวิปรัฐบาลเป็นการติดตามผลกระทบของประชาชนต่อนโยบายรัฐบาลอย่างไร เมื่อถามว่า ความเป็นเอกภาพของพรรคร่วม ในขณะนี้ นายชินวรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์เริ่มลงตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปิดสมัยประชุมเป็นเรื่องธรรมดาทุกครั้งที่ ส.ส.จะสะท้อนกลับไปยังรัฐบาล เนื่องจากตัว ส.ส.ต้องรับภาระในการลงพื้นที่พบปะประชาชน เมื่อ รมช.เกษตรฯ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้ลาออกไปแล้ว ตนคิดว่าทุกอย่างคงจะนิ่ง ไม่ส่งผลกระทบส่วนอื่น โดยเฉพาะกรณีของพรรคประชาธิปัตย์เป็นกรณีที่มีความชัดเจนในตัวเอง ว่า ส.ส.ไม่มีการเรียกร้องให้ปรับ ครม.เพียงแต่อาจจะมีบางประเด็นที่รัฐมนตรีไม่สามารถทำความเข้าใจ หรือชี้แจง ในเรื่องที่ ส.ส.นำความเดือดร้อนของประชาชนเรียกร้อง เพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมต.แต่ละคนที่จะต้องนำมาปรับปรุง และเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการทำงาน เพื่อสนองตอบต่อการแก้ไขปัญหาของประชาชน การที่ รมต.จะเดินหน้าได้ ก็ต้องใช้มือของ ส.ส.ช่วยในการทำงาน ซึ่งเป็นไปตามระบบรัฐสภา ซึ่งต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจาก ส.ส.ไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณของรัฐมนตรี นายชินวรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องฝ่ายบริหารที่จะต้องจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ ซึ่งการสนองตอบของ ส.ส.เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีต้องทำความเข้าใจ และชี้แจง ส.ส.ให้ชัดเจนว่างบประมาณเป็นอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น