คณะรัฐมนตรีที่ประชุมเป็นประจำทุกวันอังคาร เลื่อนการประชุมสำหรับวันอังคารนี้เป็นวันพุธ เพราะนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ติดภารกิจที่ประเทศเกาหลีใต้
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันพุธนี้มีเรื่องระทึกใจที่จะเข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่อย่างไร นั่นก็คือ เรื่องการเช่ารถเมล์ 4,000 คันของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย โดยนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันนี้เป็นโครงการเก่าของพรรคพลังประชาชน สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ และคัดค้านโครงการดังกล่าวนี้อย่างแข็งขันจริงจัง
พร้อมกับบอกกล่าวประชาชนว่า โครงการดังกล่าวนี้มีกลิ่นที่ไม่สะอาด เป็นโครงการที่ผลาญงบประมาณแผ่นดินมากมายมหาศาล และงบที่ผลาญไปนั้นจะต้องไปตุงอยู่ในกระเป๋าของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นอย่างแน่นอน
พ้นรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โครงการดังกล่าวนี้ก็ไม่เลิกรา เพียงแต่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้มเค้เก้ไปเสียก่อน
ส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชาชนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค รวมกลุ่มกันหันมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี
โครงการเช่ารถเมล์ของกระทรวงคมนาคมโดยนายโสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย (พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ กลุ่มที่รับใช้ทักษิณไปตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านอยู่ขณะนี้) เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาอีก
ทันทีที่เสนอขึ้นมาเสียงคัดค้านก็กระหึ่มขึ้นทันที ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยซึ่งเคยเห็นดีเห็นงามมาด้วยกันเมื่อครั้งที่เป็นพรรคพลังประชาชน ในยุคที่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยคัดค้านโครงการนี้อย่างแข็งขัน มาวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาพอึกๆ อักๆ พูดจาไม่ชัดถ้อยชัดคำเหมือนก่อนเสียแล้ว เพราะถ้าหากยืนยันในหลักการเดิมของพรรคประชาธิปัตย์คือ ไม่เอาด้วยกับโครงการดังกล่าว ก็อาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย
รัฐบาลก็ต้องเค้เก้ลงอย่างไม่เป็นท่า
ทางเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้ในขณะนี้ก็คือ พยายามยืดเวลา พยายามชะลอโครงการให้ยืดยาวออกไปซึ่งเท่ากับเป็นการยืดอายุรัฐบาลอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่งหวังว่าเวลาที่ยืดยาวจะทำให้พรรคภูมิใจไทยกลับกลายเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะเกิดจากเสียงคัดค้านของประชาชนวงการต่างๆ ที่ดังกระหึ่มอยู่เวลานี้
แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ทั้งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่างก็ประสานเสียงว่า วันที่ 3 มิถุนายนนี้ จะเสนอโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันเข้า ครม.อีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ล่าช้ามานานแล้ว
โครงการดังกล่าวนี้ล่าช้ามานานแล้วจริงๆ เพราะกระเหี้ยนกระหือรือมาตั้งแต่สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีโน่นแล้ว
นักข่าวถามนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ดูเหมือนนายอภิสิทธิ์จะตั้งแง่โครงการดังกล่าว
นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่ได้ตั้งแง่อะไร เพียงแต่นายกรัฐมนตรีต้องการความกระจ่าง เพราะในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ
นั่นสิ ก็แล้วในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เสนอโครงการดังกล่าวนี้ให้ความกระจ่างได้ไหมเล่า
1. ทำไมจึงทะลึ่งคิดจะเช่ารถ 4,000 คันๆ ละ 4,445 บาท (ค่าเช่า 2,195 บาท ค่าซ่อมวันละ 2,250 บาท) เป็นเวลา 10 ปี คิดเป็นเงินแล้วตกคันละ 17.4 ล้านบาท
ทำไมไม่ซื้อคันละ 5 ล้านบาท 6 ล้านบาท ครบ 10 ปีก็ยังมีซากรถหรือรถเก่าให้เห็น อาจจะทยอยขายตั้งแต่ปีที่ 5 ปีที่ 6 แล้วซื้อคันใหม่เข้ามา
ทำไมมุ่งแต่จะเช่าสถานเดียว
2. ก่อนที่จะได้ตัวเลขค่าเช่า ค่าซ่อมตกคันละ 4,445 บาทต่อวันเป็นเวลา 10 ปี ได้เสนอให้เอกชนที่มีรถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คัน หรือ 4,000 คันกี่รายเสนอราคา
บริษัทหรือเอกชนที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นปากเป็นเสียงแทนเขาอยู่ตลอดเวลาขณะนี้ เป็นบริษัทของใคร มีใครถือหุ้นอยู่บ้าง?
3. ถ้าหากโครงการนี้ผ่าน ครม.รถเมล์ที่เช่ามาจะมีค่าใช้จ่าย ค่าประกันภัย ค่าภาษี ค่าอีทิคเกต เป็นเงิน 4,780 บาท
ยังมีค่าคนขับรถ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าอู่จอดรถ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 10,000 บาทต่อวัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเก็บค่าโดยสารให้ได้มากกว่า 10,000 บาทต่อวันต่อคันเป็นเวลา 10 ปี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายโสภณ ซารัมย์ ลองตอบหน่อยซิว่า จะทำอย่างไรให้รถเมล์มีรายได้วันละมากกว่า 10,000 บาท ถ้าหาไม่ได้จะทำอย่างไร เพราะถึงตอนนั้นทั้งนายชวรัตน์ และนายโสภณก็ไม่อยู่แล้ว
ถึงประชาชนก่นด่าตามหลังก็จะไปทำอะไรได้ ด่าโต้งๆ อยู่ทุกวันนี้ยังไม่รู้สึกรู้สาเลย
ลูกพรรคประชาธิปัตย์นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พูดไว้ถูกต้อง ถ้าหาก ครม.ผ่านโครงการดังกล่าวนี้ก็แสดงว่า ครม.ชุดนี้สติแตก
มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละครับที่ยอมจ่ายเงิน 17.4 ล้านบาทเช่ารถ ทั้งๆ ที่ราคาซื้ออยู่ที่ 5 หรือ 6 ล้านบาทเท่านั้นเอง
แทนที่จะเป็นรถเมล์ปรับอากาศทั้งหมด 4,000 คันก็เปลี่ยนเป็นมีทางเลือกให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย แทนที่จะเสียค่ารถเมล์ไป 30 บาท กลับ 30 บาท ก็เปลี่ยนเป็นรถร้อน 7 บาท 8 บาทต่อเที่ยว
ราคารถที่ตั้งไว้ก็จะไม่สูงถึงคันละ 5/6 ล้านบาท
โครงการนี้ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอจะต้องใช้งบประมาณถึง 69,788 ล้านบาท
เอาเงินไปซื้อรถแอร์ และรถร้อนมาวิ่งไม่ถึงหรอกครับ
เพียงแต่จะไม่มีใครได้งาบ ได้ปากมัน เท่านั้นแหละครับ
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันพุธนี้มีเรื่องระทึกใจที่จะเข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่อย่างไร นั่นก็คือ เรื่องการเช่ารถเมล์ 4,000 คันของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย โดยนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันนี้เป็นโครงการเก่าของพรรคพลังประชาชน สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ และคัดค้านโครงการดังกล่าวนี้อย่างแข็งขันจริงจัง
พร้อมกับบอกกล่าวประชาชนว่า โครงการดังกล่าวนี้มีกลิ่นที่ไม่สะอาด เป็นโครงการที่ผลาญงบประมาณแผ่นดินมากมายมหาศาล และงบที่ผลาญไปนั้นจะต้องไปตุงอยู่ในกระเป๋าของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นอย่างแน่นอน
พ้นรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โครงการดังกล่าวนี้ก็ไม่เลิกรา เพียงแต่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้มเค้เก้ไปเสียก่อน
ส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชาชนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค รวมกลุ่มกันหันมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี
โครงการเช่ารถเมล์ของกระทรวงคมนาคมโดยนายโสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย (พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ กลุ่มที่รับใช้ทักษิณไปตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านอยู่ขณะนี้) เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาอีก
ทันทีที่เสนอขึ้นมาเสียงคัดค้านก็กระหึ่มขึ้นทันที ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยซึ่งเคยเห็นดีเห็นงามมาด้วยกันเมื่อครั้งที่เป็นพรรคพลังประชาชน ในยุคที่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยคัดค้านโครงการนี้อย่างแข็งขัน มาวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาพอึกๆ อักๆ พูดจาไม่ชัดถ้อยชัดคำเหมือนก่อนเสียแล้ว เพราะถ้าหากยืนยันในหลักการเดิมของพรรคประชาธิปัตย์คือ ไม่เอาด้วยกับโครงการดังกล่าว ก็อาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย
รัฐบาลก็ต้องเค้เก้ลงอย่างไม่เป็นท่า
ทางเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้ในขณะนี้ก็คือ พยายามยืดเวลา พยายามชะลอโครงการให้ยืดยาวออกไปซึ่งเท่ากับเป็นการยืดอายุรัฐบาลอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่งหวังว่าเวลาที่ยืดยาวจะทำให้พรรคภูมิใจไทยกลับกลายเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะเกิดจากเสียงคัดค้านของประชาชนวงการต่างๆ ที่ดังกระหึ่มอยู่เวลานี้
แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ทั้งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่างก็ประสานเสียงว่า วันที่ 3 มิถุนายนนี้ จะเสนอโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันเข้า ครม.อีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ล่าช้ามานานแล้ว
โครงการดังกล่าวนี้ล่าช้ามานานแล้วจริงๆ เพราะกระเหี้ยนกระหือรือมาตั้งแต่สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีโน่นแล้ว
นักข่าวถามนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ดูเหมือนนายอภิสิทธิ์จะตั้งแง่โครงการดังกล่าว
นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่ได้ตั้งแง่อะไร เพียงแต่นายกรัฐมนตรีต้องการความกระจ่าง เพราะในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ
นั่นสิ ก็แล้วในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เสนอโครงการดังกล่าวนี้ให้ความกระจ่างได้ไหมเล่า
1. ทำไมจึงทะลึ่งคิดจะเช่ารถ 4,000 คันๆ ละ 4,445 บาท (ค่าเช่า 2,195 บาท ค่าซ่อมวันละ 2,250 บาท) เป็นเวลา 10 ปี คิดเป็นเงินแล้วตกคันละ 17.4 ล้านบาท
ทำไมไม่ซื้อคันละ 5 ล้านบาท 6 ล้านบาท ครบ 10 ปีก็ยังมีซากรถหรือรถเก่าให้เห็น อาจจะทยอยขายตั้งแต่ปีที่ 5 ปีที่ 6 แล้วซื้อคันใหม่เข้ามา
ทำไมมุ่งแต่จะเช่าสถานเดียว
2. ก่อนที่จะได้ตัวเลขค่าเช่า ค่าซ่อมตกคันละ 4,445 บาทต่อวันเป็นเวลา 10 ปี ได้เสนอให้เอกชนที่มีรถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คัน หรือ 4,000 คันกี่รายเสนอราคา
บริษัทหรือเอกชนที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นปากเป็นเสียงแทนเขาอยู่ตลอดเวลาขณะนี้ เป็นบริษัทของใคร มีใครถือหุ้นอยู่บ้าง?
3. ถ้าหากโครงการนี้ผ่าน ครม.รถเมล์ที่เช่ามาจะมีค่าใช้จ่าย ค่าประกันภัย ค่าภาษี ค่าอีทิคเกต เป็นเงิน 4,780 บาท
ยังมีค่าคนขับรถ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าอู่จอดรถ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 10,000 บาทต่อวัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเก็บค่าโดยสารให้ได้มากกว่า 10,000 บาทต่อวันต่อคันเป็นเวลา 10 ปี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายโสภณ ซารัมย์ ลองตอบหน่อยซิว่า จะทำอย่างไรให้รถเมล์มีรายได้วันละมากกว่า 10,000 บาท ถ้าหาไม่ได้จะทำอย่างไร เพราะถึงตอนนั้นทั้งนายชวรัตน์ และนายโสภณก็ไม่อยู่แล้ว
ถึงประชาชนก่นด่าตามหลังก็จะไปทำอะไรได้ ด่าโต้งๆ อยู่ทุกวันนี้ยังไม่รู้สึกรู้สาเลย
ลูกพรรคประชาธิปัตย์นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พูดไว้ถูกต้อง ถ้าหาก ครม.ผ่านโครงการดังกล่าวนี้ก็แสดงว่า ครม.ชุดนี้สติแตก
มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละครับที่ยอมจ่ายเงิน 17.4 ล้านบาทเช่ารถ ทั้งๆ ที่ราคาซื้ออยู่ที่ 5 หรือ 6 ล้านบาทเท่านั้นเอง
แทนที่จะเป็นรถเมล์ปรับอากาศทั้งหมด 4,000 คันก็เปลี่ยนเป็นมีทางเลือกให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย แทนที่จะเสียค่ารถเมล์ไป 30 บาท กลับ 30 บาท ก็เปลี่ยนเป็นรถร้อน 7 บาท 8 บาทต่อเที่ยว
ราคารถที่ตั้งไว้ก็จะไม่สูงถึงคันละ 5/6 ล้านบาท
โครงการนี้ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอจะต้องใช้งบประมาณถึง 69,788 ล้านบาท
เอาเงินไปซื้อรถแอร์ และรถร้อนมาวิ่งไม่ถึงหรอกครับ
เพียงแต่จะไม่มีใครได้งาบ ได้ปากมัน เท่านั้นแหละครับ
