นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีอาญาเลือกตั้ง มีคำพิพากษา ให้ใบแดงนายสุริญญา ยืนนาน ส.อบจ. สุราษฎร์ธานี และให้ใบเหลืองกับนายธานี เทือกสุบรรณ นายก อบจ. สุราษฎร์ฯ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สั่งการให้ กกต.สุราษฎร์ธานี แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายชุมพล และ นายประพนธ์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ร่วมกันทุจริตเลือกตั้ง อบจ.สุราษฎร์ธานีครั้งนี้ด้วยว่า ศาลไม่ได้มีคำพิพากษาว่าให้ดำเนินคดีกับตน นายสุเทพ และนายประพันธ์ แต่กกต.อาจจะเห็นว่าเมื่อศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ อาจเป็นไปได้ว่า พวกตนทำให้เกิดความเสียหาย กกต.ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและฟ้องร้องต่อไป
แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะกล่าวหาหรือแจ้งความพวกตนในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งถ้าแจ้งมาเราก็พร้อมให้ความร่วมมือไปให้ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่เปิดเผย ประชาชนในพิ้นที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และในส่วนของพรรคคงไม่ต้องมายุ่งในเรื่อง การสู้คดี เพราะถือเป็นเรื่องของเรา 3 ส.ส.ที่ดำเนินการเอง จึงไม่เกี่ยวกับพรรค และคำพิพากษาก็ไม่ได้บอกว่าเราอยู่ในสถานะใด ๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่กระทบต่อตำแหน่ง ต่อรัฐบาล และไม่กระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนมั่นใจว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ และคดีนี้ต้องสู้กันถึง 3 ศาล ซึ่งต้องใช้เวลาอีกยาว
ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้นายอภิสทธิ์ ดำเนินการต่อนายสุเทพจากกรณีดังกล่าวโดยอ้างกฎเหล็ก 9 ข้อที่ นายอ่ภิสิทธิ์ เคยให้ไว้ในการประชุม ครม.นัดแรกของรัฐบาลนั้น จากการตรวจสอบกฎเหล็ก 9 ข้อแล้วไม่พบว่ามีกฎเหล็กข้อใดเกี่ยวข้องกันเลย เพราะกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ควบคุมการบริหารงานราชการแผ่นดินของรัฐมนตรี แต่กรณีของนายสุเทพและคณะเป็นการถูกกล่าวหาว่าทำผิดทางอาญา ซึ่งต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามขั้นตอน ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการจนถึงศาลยุติธรรมชั้นต้น อุธรณ์และฎีกา ซึ่งยังมีกระบวนการที่ยาวไกล
ไม่แน่ใจว่าผลการพิพากษาที่จะออกมา จะเป็นอย่างไร เพราะคดีอาญา ต้องพิจารณาในเรื่องเจตนาเป็นสำคัญ และพฤติกรรมของส.ส.ทั้ง 3 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของส.ส.ตามประเพณีสงกรานต์ที่มีการปฏิบัติต่อเนื่องมาทุกปี โดยไม่มีเจตนา ที่จะไปช่วยการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.สุราษฎร์แต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยตรวจสอบประเด็นเงื่อนไขที่ออกมาเรียกร้องครั้งว่าอยู่ในกฏเหล็ก 9 หรือไม่ ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพียงเพื่อที่จะขอเป็นประเด็นข่าวและทำลายความน่าเชื่อถือ ของรัฐบาลรายวันเท่านั้น
นายเทพไทยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับขั้นตอนและกระบวนการพิพากษาคดีนี้ว่า มีความถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร เพราะทราบมาว่า องค์คณะผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวที่ลงนามในคำพิพากษานั้น ไม่ได้เป็นองค์คณะที่ออกนั่งบัลลังค์พิจารณาคดีในคดีนี้มาตั้งแต่ต้น และก็ไม่มีเหตุสุดวิสัยอันใดที่จะต้องมีการเปลี่ยนตัวองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 3 คนในช่วงท้ายของการพิจารณาเพื่อที่จะเป็นผู้อ่านคำพิพากษาและลงนามในคำพิพากษาฉบับนี้ ซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ในประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมไทย
ดังนั้นคณะทนายความและทีมกฏหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะทำคำร้อง เพื่อคัดค้านขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาคดีนี้ต่อคณะกรรมการตุลาการ ศาลยุติธรรม ( กต.) ต่อไป ภายใน 7 วันนับจากนี้ และจำดำเนินการ เพื่อขอความเป็นธรรม จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเร่งรัดให้ กกต.พิจารณาเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรับเงินบริจาค 258 ล้านบาทนั้น นายเทพไท กล่าวว่าเรื่องนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ตามวาระแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาเร่งรัดกดดันทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อมูลและยืนยันความบริสุทธิ์ต่อ กกต.
ผมอยากให้ ส.ส.เพื่อไทยไปสนใจเรื่องในพรรคตัวเองที่มีการแบ่งก๊ก แบ่งเหล่า แตกแยกจนไม่สามารถหาหัวหน้าพรรคได้ ขอแนะนำให้ใช้เวลาไปเกลี้ยกล่อม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้ใจอ่อนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะดีกว่า
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายสุเทพ รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปีตย์ภายหลังจากที่ศาลได้พิพากษาให้ใบเหลือนายธานี เทือกสุบรรณ จากกรณีที่นายสุเทพ ไปช่วยหาเสียงโดยการแจกทุนการศึกษาซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังได้ทำหนังสือคัดค้านไปยังศาล โดยพรรคเพื่อไทยขอทวงถามมาตรฐานทางจริยธรรมและความรับผิดชอบทางการเมืองไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ว่ายังมีความรับผิดชอบ ทางการเมืองอยู่หรือไม่เพราะพรรคประชาธิปัตย์มักพูดอยู่เสมือว่าไม่เคยโกงเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ได้เกิดความเสียหายขึ้นแล้วเพราะรัฐบาลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งอีกรอบหนึ่ง ทำให้ประชาชนต้องเสียเวลามาลงคะแนนเสียงด้วย
แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะกล่าวหาหรือแจ้งความพวกตนในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งถ้าแจ้งมาเราก็พร้อมให้ความร่วมมือไปให้ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่เปิดเผย ประชาชนในพิ้นที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และในส่วนของพรรคคงไม่ต้องมายุ่งในเรื่อง การสู้คดี เพราะถือเป็นเรื่องของเรา 3 ส.ส.ที่ดำเนินการเอง จึงไม่เกี่ยวกับพรรค และคำพิพากษาก็ไม่ได้บอกว่าเราอยู่ในสถานะใด ๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่กระทบต่อตำแหน่ง ต่อรัฐบาล และไม่กระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนมั่นใจว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ และคดีนี้ต้องสู้กันถึง 3 ศาล ซึ่งต้องใช้เวลาอีกยาว
ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้นายอภิสทธิ์ ดำเนินการต่อนายสุเทพจากกรณีดังกล่าวโดยอ้างกฎเหล็ก 9 ข้อที่ นายอ่ภิสิทธิ์ เคยให้ไว้ในการประชุม ครม.นัดแรกของรัฐบาลนั้น จากการตรวจสอบกฎเหล็ก 9 ข้อแล้วไม่พบว่ามีกฎเหล็กข้อใดเกี่ยวข้องกันเลย เพราะกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ควบคุมการบริหารงานราชการแผ่นดินของรัฐมนตรี แต่กรณีของนายสุเทพและคณะเป็นการถูกกล่าวหาว่าทำผิดทางอาญา ซึ่งต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามขั้นตอน ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการจนถึงศาลยุติธรรมชั้นต้น อุธรณ์และฎีกา ซึ่งยังมีกระบวนการที่ยาวไกล
ไม่แน่ใจว่าผลการพิพากษาที่จะออกมา จะเป็นอย่างไร เพราะคดีอาญา ต้องพิจารณาในเรื่องเจตนาเป็นสำคัญ และพฤติกรรมของส.ส.ทั้ง 3 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของส.ส.ตามประเพณีสงกรานต์ที่มีการปฏิบัติต่อเนื่องมาทุกปี โดยไม่มีเจตนา ที่จะไปช่วยการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.สุราษฎร์แต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยตรวจสอบประเด็นเงื่อนไขที่ออกมาเรียกร้องครั้งว่าอยู่ในกฏเหล็ก 9 หรือไม่ ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพียงเพื่อที่จะขอเป็นประเด็นข่าวและทำลายความน่าเชื่อถือ ของรัฐบาลรายวันเท่านั้น
นายเทพไทยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับขั้นตอนและกระบวนการพิพากษาคดีนี้ว่า มีความถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร เพราะทราบมาว่า องค์คณะผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวที่ลงนามในคำพิพากษานั้น ไม่ได้เป็นองค์คณะที่ออกนั่งบัลลังค์พิจารณาคดีในคดีนี้มาตั้งแต่ต้น และก็ไม่มีเหตุสุดวิสัยอันใดที่จะต้องมีการเปลี่ยนตัวองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 3 คนในช่วงท้ายของการพิจารณาเพื่อที่จะเป็นผู้อ่านคำพิพากษาและลงนามในคำพิพากษาฉบับนี้ ซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ในประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมไทย
ดังนั้นคณะทนายความและทีมกฏหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะทำคำร้อง เพื่อคัดค้านขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาคดีนี้ต่อคณะกรรมการตุลาการ ศาลยุติธรรม ( กต.) ต่อไป ภายใน 7 วันนับจากนี้ และจำดำเนินการ เพื่อขอความเป็นธรรม จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเร่งรัดให้ กกต.พิจารณาเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรับเงินบริจาค 258 ล้านบาทนั้น นายเทพไท กล่าวว่าเรื่องนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ตามวาระแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาเร่งรัดกดดันทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อมูลและยืนยันความบริสุทธิ์ต่อ กกต.
ผมอยากให้ ส.ส.เพื่อไทยไปสนใจเรื่องในพรรคตัวเองที่มีการแบ่งก๊ก แบ่งเหล่า แตกแยกจนไม่สามารถหาหัวหน้าพรรคได้ ขอแนะนำให้ใช้เวลาไปเกลี้ยกล่อม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้ใจอ่อนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะดีกว่า
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายสุเทพ รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปีตย์ภายหลังจากที่ศาลได้พิพากษาให้ใบเหลือนายธานี เทือกสุบรรณ จากกรณีที่นายสุเทพ ไปช่วยหาเสียงโดยการแจกทุนการศึกษาซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังได้ทำหนังสือคัดค้านไปยังศาล โดยพรรคเพื่อไทยขอทวงถามมาตรฐานทางจริยธรรมและความรับผิดชอบทางการเมืองไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ว่ายังมีความรับผิดชอบ ทางการเมืองอยู่หรือไม่เพราะพรรคประชาธิปัตย์มักพูดอยู่เสมือว่าไม่เคยโกงเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ได้เกิดความเสียหายขึ้นแล้วเพราะรัฐบาลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งอีกรอบหนึ่ง ทำให้ประชาชนต้องเสียเวลามาลงคะแนนเสียงด้วย