สุราษฎร์ธานี - ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ยื่นหนังสือ กกต.ร้องเรียนคู่แข่งน้องชาย “เทพเทือก” ทุจริต ไม่โปร่งใส เตรียมยื่นเรื่อง กกต.กลางพิจารณา มอบเอกสาร หลักฐาน พร้อมภาพถ่ายชัดเจน ขณะกำลังลงพื้นที่แจกของชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า วานนี้ (22 เม.ย.) นายมนตรี เพชรขุ้ม ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี หมายเลข 1 และนายสุวพัฒน์ สมหวัง ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต อ.เกาะสมุย หมายเลข 1 เดินทางเข้ายื่นร้องค้านการประกาศผลการเลือกตั้ง อบจ. สุราษฎร์ธานี ต่อนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤติ ผอ.กกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยระบุว่า นายธานี เทือกสุบรรณ พล.ต.ต.ภูวดล กระแสอินทร์ ผู้สมัคร นายก อบจ.หมายเลข 2 และ 3 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุริญญา ยืนนาน ผู้สมัคร ส.อบจ.เกาะสมุย พรรคประชาธิปัตย์ กระทำผิดมาตรา 57 (1),(2) พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2546 เป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้นายก อบจ.และ ส.อบจ.ที่เป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นายมนตรีได้มอบภาพถ่ายและแผ่นซีดีบันทึกภาพการมอบเงินทุน และมอบสิ่งของจำนวน 4 ชุด ผ้าห่มจำนวน 2 ผืน รายชื่อโรงเรียน และนักเรียนที่รับเงินทุน 2 ชุด และแผ่นโฆษณาผู้สมัครเบอร์ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ไว้เป็นหลักฐาน
นายมนตรี กล่าวว่า กรณีนายธานี เมื่อวันที่ 3 มี.ค.51 ช่วง 60 วันก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ได้มอบเงินทุนการศึกษาแก่นักเรียน 52 โรงเรียน ทั้งที่ พรบ.กำหนดช่วงดังกล่าวให้ปลัด อบจ.เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ส่วนนายสุเทพ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.51 สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์แจกผ้าห่มปักชื่อพรรค และชื่อ ส.ส.3 คน มอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน อ.เกาะสมุย มีนายสุริญญา ร่วมอยู่ด้วย และกรณี พล.ต.ต.ภูวดล มีการโฆษณาในแผ่นประกาศเป็นรองนายก อบจ.ทีมนายธานี แต่ลงสมัคร นายก อบจ.ในเวลาถัดมา เป็นการจูงใจให้ประชาชนเข้าใจผิด ถือว่าการกระทำของนายธานี และนายสุเทพ เป็นการเอาเปรียบผู้สมัครรายอื่น และผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจนจึงขอให้มีการสอบสวนตามระเบียบของ กกต. ซึ่งจะเดินทางไปยื่นคัดค้านต่อ กกต.กลางด้วย เนื่องจากนายสุเทพมีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเลขาธิการพรรคด้วย
ด้านนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผอ.กกต.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และนิติกร เร่งตรวจสอบเอกสาร และสอบสวนเบื้องต้น เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนเสนอต่อ กกต.จังหวัด และ กกต.กลาง พิจารณา นับเป็นกรณีแรกของจังหวัดที่มีการร้องคัดค้าน ซึ่งอาจประกาศรับรองผลไปก่อน หากสอบพบการกระทำผิดค่อยเพิกถอนภายหลังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า วานนี้ (22 เม.ย.) นายมนตรี เพชรขุ้ม ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี หมายเลข 1 และนายสุวพัฒน์ สมหวัง ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต อ.เกาะสมุย หมายเลข 1 เดินทางเข้ายื่นร้องค้านการประกาศผลการเลือกตั้ง อบจ. สุราษฎร์ธานี ต่อนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤติ ผอ.กกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยระบุว่า นายธานี เทือกสุบรรณ พล.ต.ต.ภูวดล กระแสอินทร์ ผู้สมัคร นายก อบจ.หมายเลข 2 และ 3 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุริญญา ยืนนาน ผู้สมัคร ส.อบจ.เกาะสมุย พรรคประชาธิปัตย์ กระทำผิดมาตรา 57 (1),(2) พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2546 เป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้นายก อบจ.และ ส.อบจ.ที่เป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นายมนตรีได้มอบภาพถ่ายและแผ่นซีดีบันทึกภาพการมอบเงินทุน และมอบสิ่งของจำนวน 4 ชุด ผ้าห่มจำนวน 2 ผืน รายชื่อโรงเรียน และนักเรียนที่รับเงินทุน 2 ชุด และแผ่นโฆษณาผู้สมัครเบอร์ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ไว้เป็นหลักฐาน
นายมนตรี กล่าวว่า กรณีนายธานี เมื่อวันที่ 3 มี.ค.51 ช่วง 60 วันก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ได้มอบเงินทุนการศึกษาแก่นักเรียน 52 โรงเรียน ทั้งที่ พรบ.กำหนดช่วงดังกล่าวให้ปลัด อบจ.เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ส่วนนายสุเทพ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.51 สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์แจกผ้าห่มปักชื่อพรรค และชื่อ ส.ส.3 คน มอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน อ.เกาะสมุย มีนายสุริญญา ร่วมอยู่ด้วย และกรณี พล.ต.ต.ภูวดล มีการโฆษณาในแผ่นประกาศเป็นรองนายก อบจ.ทีมนายธานี แต่ลงสมัคร นายก อบจ.ในเวลาถัดมา เป็นการจูงใจให้ประชาชนเข้าใจผิด ถือว่าการกระทำของนายธานี และนายสุเทพ เป็นการเอาเปรียบผู้สมัครรายอื่น และผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจนจึงขอให้มีการสอบสวนตามระเบียบของ กกต. ซึ่งจะเดินทางไปยื่นคัดค้านต่อ กกต.กลางด้วย เนื่องจากนายสุเทพมีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเลขาธิการพรรคด้วย
ด้านนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผอ.กกต.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และนิติกร เร่งตรวจสอบเอกสาร และสอบสวนเบื้องต้น เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนเสนอต่อ กกต.จังหวัด และ กกต.กลาง พิจารณา นับเป็นกรณีแรกของจังหวัดที่มีการร้องคัดค้าน ซึ่งอาจประกาศรับรองผลไปก่อน หากสอบพบการกระทำผิดค่อยเพิกถอนภายหลังได้
