xs
xsm
sm
md
lg

จ่อฟัน"วิสิฐ"โทษไล่ออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดกบข.ตั้งคณะกรรมการสอบจรรยาบรรณ"วิสิฐ"ใช้ข้อมูลอินไซด์ซื้อขายหุ้น ขีดเส้นลงดาบใน 30 วัน พร้อมแจงเหตุขาดทุนเป็นตามภาวะตลาด ส่วนการลงทุนของกองทุนถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ ชี้โทษสูงสุดแค่ไล่ออก หรือตัดลดเงินเดือนเท่านั้น ขณะเดียวกันเครือข่ายสมาชิกฯ จี้คลัง ปลดเลขาฯกบข.-ยุบกองทุนขอรับบำนาญตามเดิม พร้อมขู่ชุมนุมใหญ่อีก 20 มิ.ย.นี้หากไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้น ด้าน"อภิสิทธิ์"สั่งบิ๊กกบข.เร่งแจงข้อมูลหุ้นฉาว หลังป.ป.ท.พบการบริหารกองทุนอาจไม่โปรงใส

นายพิสิฐ ลีลาวชิโรภาศ รองผู้ว่าการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หนึ่งในคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กบข.ครั้งที่ผ่านมาเป็นวาระพิเศษเพื่อรายงานการพิจารณาผลการตรวจสอบกรณีการขาดทุนของกองทุนกบข. ที่มีนายสมพล เกียรติไพบูลย์ เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเด็นคือ 1.กระบวนการลงทุนนั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ 2.สาเหตุของการขาดทุนในครั้งนี้มาจากอะไร และ3.การประชาสัมพันธ์ของกบข.เพื่อสร้างความรับรู้มีมากน้อยขนาดไหน
ทั้งนี้ จากการพิจารณากระบวนการลงทุนพบว่าการลงทุนของ กบข.ในปีที่ผ่านมาเป็นไปตามกฎหมายที่ระบุไว้ทุกประการ ส่วนสาเหตุที่กองทุน กบข.ขาดทุน เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดฯปรับตัวลดลงตามภาวะการลงทุนโดยทั่วไป เมื่อมีการบันทึกทางบัญชี แต่เชื่อว่าเงินต้นของข้าราชากรยังอยู่เพียงแต่กำไรที่ได้มันลดลงเท่านั้น โดยมิได้หมายความว่ามีบุคคลใดได้ประโยชน์จากกระบวนการซื้อขายที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมพบว่าพฤติกรรมของ นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข.และเจ้าหน้าที่อีก 6 คนรวมเป็น 7 คนมีการซื้อขายหุ้นที่กองทุนกบข.เข้าไปลงทุน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรงกับกองทุน โดยเรื่องนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยเอาไว้แล้วและน่าจะมีผลสอบออกมาได้อีกประมาณ 30 วันตามกรอบที่ตั้งไว้
"มันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณ ซึ่งหากมีหน้าที่บริหารเงินทุนก็ทำไป และรับเงินเดือนตามหน้าที่ก็พอ เหมือนกับโบรก์ที่มีหน้าที่ซื้อขายในตลาดก็ทำไป ไม่ควรนำข้อมูลอินไซด์มาใช้ ซึ่งกรณีของคุณวิสิฐนั้นเป็นเลขาธิการ รู้สึกว่าจำนวนเงินที่ซื้อก็ประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่เหลือลงทุนไม่เยอะ แต่ต้องดูว่าคณะกรรมการที่ตั้งมานั้นจะพิจารณาอย่างไร เพราะไม่มีระบุความผิดเอาไว้ชัดเจน"นายพิสิฐกล่าว
ด้าน นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า เรื่องการพิจารณาความผิดของนายวิสิฐ นั้นต้องรอคณะกรรมที่ตั้งขึ้นใหม่พิจารณาก่อน แต่ยอมรับว่า โดยตำแหน่ง เลขาธิการ กบข.นั้น สามารถซื้อขายหุ้นได้ แต่ต้องรายงานข้อมูลให้คณะกรรมการรับทราบ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ต้องพิจารณาถึงจรรยาบรรณด้วย รวมถึงกรณีการใช้ข้อมูลภายใน (Insider)ว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่
"ผมติดภาระกิจจึงไม่ได้เข้าประชุม แต่ตอนนี้เรายังถือว่า คุณวิสิฐ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพราะยังไม่ได้สรุปว่าผิดจริงหรือไม่ คงต้องรอกรรมการชุดท่านปกรณ์ สรุปผลสอบ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องไปดูว่ามีการ Insider หรือไม่ ทำไมต้องมีการซื้อหุ้น ก่อนที่ กบข.จะเข้าไปซื้อ และ ขายก่อน ที่กบข.จะขาย" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามขั้นตอน หากพบว่า มีการกระทำผิดจริง นั้น คณะกรรมการ จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อพิจารณาความผิดว่าร้ายแรงหรือไม่ และมีการกระทำผิดทางอาญาด้วยหรือไม่ โดยไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบของคณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่เตรียมยืนเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ
สำหรับ คณะกรรมการที่บอรด์กบข.ตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาความผิดของ นายวิสิฐนั้น ประกอบด้วยนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นประธาน นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการก.พ. น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นางทิพยสุดา ถาวรามร ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกบข.ระบุว่า ฐานความผิดกรณีผิดจรรยาบรรณนั้นไม่ได้มีระบุเอาไว้ชัดเจน โดยอาจต้องนำกรณีของมาตรฐานการลงทุน และบทลงโทษของตลาดหลักทรัพย์มาเทียบเคียง ซึ่งถ้าทำให้เกิดความเสียหายแก่ องค์กร มีโทษสูงสุดถึงเลิกจ้าง แต่กรณีที่ไม่เกิดความเสียหายแก่องค์กร โทษเบื้องต้นตั้งแต่ลดเงินเดือน หรือ ตัดเงินเดือน ส่วน ตำแหน่ง เลขา กบข. ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง จะต้องถูกลงโทษรุนแรงกว่าพนักงานหรือไม่นั้นต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้อีกครั้ง
**สมาชิกจี้ยุบกบข.-ปลด"วิสิฐ"**
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(28 พ.ค.52) กลุ่มองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข. ประมาณ 30 คนได้เข้ายื่นหนังสือเดินทางมายื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลังอีกครั้ง หลังจากเคยยื่นคำร้อง 5ข้อ ต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีการรับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้ได้คำตอบภายใน 1 เดือน โดยระบุว่าหากยังไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงการคลัง สมาชิกกองทุน กบข. จะมีนัดชุมนุมครั้งใหญ่ ในวันที่ 20 มิถุนายน ที่หน้ากระทรวงการคลังและทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดัน บอร์ดกบข. ที่จะมีการประชุมกัน 28-29 มิถุนายน
สำหรับข้อเรียกร้องของสมาชิกในครั้งนี้ นายวิศร์ อัครสันตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข. แห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าภายหลังยื่นหนังสือต่อนายกรณ์ เมื่อครั้งที่แล้วที่ประชุมคณะกรรมการองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข. แห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ที่จังหวัดมหาสารคาม มีมติให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการประกอบด้วย 1. ให้ ปลดเลขาธิการ กบข. และกรรมการ กบข. ชุดนี้ ออกจากตำแหน่งโดยด่วน เพราะบริหารงานผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ทำให้เงินของสมาชิกขาดหายไปทุกคน จนถูกแจ้งความดำเนินคดีและถูกฟ้องร้องจำนวนมากและทำหูทวนลมไม่สนใจรับฟังเสียงเรียกร้องของสมาชิกที่เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า บริหารเงินสมาชิกตามอำเภอใจเหมือนเป็นเงินของตนเอง
2. เนื่อจากปัจจุบัน สมาชิกส่วนใหญ่เจอปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจดิ่งเหว เงินเดือนไม่พอใช้จ่าย ส่งผลกระทบทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จึงมีความจำเป็นที่ขอให้งดหักเงินเข้ากองทุน กบข. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และ3. ให้ยกเลิกกองทุน คืนเงินให้สมาชิกให้ไปรับบำนาญตามปกติ
4. ขอเรียกร้องให้นายกสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทยในฐานะองค์ของข้าราชการทั่วประเทศ ออกมาดูแลความเดือดร้อนของข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ด้วย
มาร์ค" สั่งบิ๊ก กบข.ชี้แจงข่าวหุ้นฉาว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบพบความไม่โปร่งใสในการบริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จนประสบภาวะขาดทุนว่า โดยระบุว่า ตนเองได้เรียกนายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข. เข้ารายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว
"ถ้ามีการสรุปผลมาอย่างไรก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป คงต้องรอดูรายงานก่อนจึงจะทราบว่าใครต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเคยสั่งการให้ทำรายงานในเรื่องความเสียหายมาแล้ว และจะสั่งให้สรุปอีกครั้งว่าปัญหานี้กระทบกับข้าราชการจำนวนมากน้อยแค่ไหน และอย่างไร"
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงอยู่คือกองทุนประกันสังคม (สปส.) ที่จะต้องปรับปรุงเรื่องการบริหารจัดการด้วย และการทำงานทั้ง 2 กองทุนนั้นต้องให้มืออาชีพเป็นผู้บริหาร แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา แม้แต่มือบริหารเองยังบริหารจนเกิดความเสียหาย
ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมเล็งหามืออาชีพคนใหม่ไว้แล้ว หากนายวิสิฐ ต้องออกจากตำแหน่งเลขาธิการ กบข. พร้อมกับกระแสข่าวลือในวงการตลาดหุ้นว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในทีมของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และเคยเป็นกรรมการบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) อยุธยา เอวายเอฟ มาก่อนจะโดดเข้ามาสู่แวดวงการเมือง ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น