วานนี้ (27 พ.ค.) ตั้งแต่เวลา 04.00-09.00 น. คนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวนออกมาก่อเหตุร้ายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 8 จุด ทำให้ร้านค้า สถานประกอบการได้รับความเสียหาย
จุดที่ 1 คนร้ายลอบวางเพลิงโกดังขายสินค้าของร้านศรีสมัย ถนนเฉลิมชัย จุดที่ 2 ร้านอภิรักษ์เฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 68 ถนนเปรมจิต-สุรพันธ์ ตลาดเมืองใหม่ยะลา อ.เมืองยะลา เฟอร์นิเจอร์ได้รับความเสียหายทั้งหมด รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีขาว แผ่นป้ายทะเบียน บล.1396 กทม. เสียหาย จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 1 คัน,
จุดที่ 3 โกดังศรีสมัย ที่อยู่ 1085/1 สิโรรส บ้านจารู ชุดชนตลาดเก่า อ.เมืองยะลา สินค้าประเภทน้ำอัดลม ขนมต่างๆ ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง จุดที่ 4 โกดังเก็บสินค้า และวัสดุก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ยะลาย่งฮวด ซึ่งจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ยะลา ตั้งที่อยู่ 14/4 หมู่ที่ 3 บ้านท่าสาป ต.สะเตง อ.เมืองยะลา อุปกรณ์ก่อสร้างที่อยู่ภายในโกดังได้รับความเสียหายทั้งหมด
จุดที่ 5 คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องหนักประมาณ 3-5 กก. ไปวางไว้ด้านหลังป้ายโชว์รูม อีซูซุ (ISUZU) ของบริษัทปัตตานี เจริญเทรดดิ้ง จำกัด ริมบนถนนเทศบาล 1 อ. เมืองยะลา แรงระเบิดทำให้กระจกแตกกระจาย เสาโฆษณาได้รับความเสียหายเล็กน้อย
จุดที่ 5 ในเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำวัตถุระเบิดหนัก 3-5 กก.ไปวางไว้ริมฟุตบาต ด้านหน้าประตูกระจก หน้ารามาคาเฟ่ โรงแรมยะลารามา ทำให้กระจกหน้าคาเฟ่แตก เสียหาย และ รถยนต์ของลูกค้าที่มาพักในโรงแรม ถูกแรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 4 คัน
จุดที่ 6 คนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่อง หนัก 3-5 กก.ไปวางไว้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย จำนวน 1 ตู้ กระจกด้านหน้าธนาคารแตกเสียหายจำนวน 3 บาน
จุดที่ 7 บริเวณตลาดสามแยกบ้านเนียง หมู่ที่ 4 ต.เปาะเส้ง อ.เมือง จ.ยะลา คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ระบบทรูมูพ ได้รับความเสียหาย 1 เสา
จุดที่ 8 เวลาประมาณ 09.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากพนักงานห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ยะลา ว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของห้าง หลังได้รับแจ้งแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดศรศึก-ศรชัย (EOD ARMY) จึงรีบเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นขายเสื้อผ้า พบว่ามีข้าวของกระจุยกระจายตกเต็มพื้นจากแรงระเบิด
สำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 3 จุด พบชิ้นส่วนเศษกล่องเหล็กที่ใช้บรรจุระเบิด และเศษสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดขนาด 1 ซม. รวมทั้งเศษของวงจรอีเล็กทรอนิกส์ และเศษสายไฟตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้ทุกๆ สภ.ให้เพิ่มความเข้มงวด จัดกำลังตำรวจ สายตรวจออกลาดตระเวนดูแลพื้นที่เป้าหมาย ย่านชุมชน สถานที่ราชการ ห้างร้าน บริษัทต่างๆ และให้จัดตั้งด่านตรวจลอยเพื่อกดดัน กลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งได้กำชับให้มีการเร่งหาข้อมูลของคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มก่อเหตุได้เปลี่ยนเวลาจากที่เคยปฏิบัติการช่วง 20.00-22.00 น. มาเป็นช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ขาดความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้หวังให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต นอกจากทำลายทรัพย์สิน และเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเดินทางลงพื้นที่ จ. ยะลา ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ เหมือนกำลังส่งสัญญาณบางอย่างถึงรัฐบาล
**"เทพเทือก"ควง"บิ๊กป๊อก"ลงใต้
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ (28 พ.ค.) โดยจะค้างคืนที่ จ.ปัตตานี 1 คืน ทั้งนี้ ตนจะไปอธิบายให้ข้าราชการ และประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลมีแผนงานมีโครงการ มีเป้าหมายที่จะมาแก้ปัญหาในภาคใตอย่างไร โดยเฉพาะการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และจะบอกว่าเขาจะต้องร่วมมืออย่างไรบ้าง และจะไปเยี่ยมตำรวจ ทหาร รวมถึงประชาชน และจะไปดูโครงการต่างๆ หลายโครงการ
ส่วนเรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดนั้น รองนายกฯกล่าวว่า ทราบแล้ว ก็กังวลใจเหมือนกัน แต่ก็ต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับนายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะชี้แจงนายสุเทพ ว่ามีการดำเนินการอย่างไร จะได้ดูว่ามีข้อขัดข้องอะไร เพื่อให้การทำงานดี ซึ่งเราจะเตรียมการที่จะสรุปผลการปฏิบัติที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจ และศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งท่านคงมีแนวทางแก้ปัญหา ทั้งนี้ การตัดงบประมาณคงไม่มีผลกระทบกับการแก้ปัญหาภาคใต้
สำหรับการลอบวางระเบิดสถานที่ต่างๆ รวม 7 จุด ในจ.ยะลานั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่น่ามีอะไรมาก เป็นเหตุการณ์ในลักษณะก่อกวน ไม่รุนแรง ไม่มีอะไรมาก ทั้งนี้มาตรการทุกอย่างดี แต่คิดว่าเหตุการณ์ไม่มีอะไรก่อกวนธรรมดา
เมื่อถามว่า มีการใช้ระเบิดเพลิงในการจัดงานในพื้นที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นการใช้ระเบิดเพลิงเล็กน้อย คิดว่าต้องให้งานเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ เจ้าหน้าที่ควรทำให้ประชาชนอยู่ในสภาพปกติได้ แต่การแก้ไขต้องใช้เวลา เพราะการทำงานเราใช้การพัฒนา เอาชนะจิตใจด้วยการเมืองและการพัฒนา ทำให้เขาไม่เป็นผู้ก่อความไม่สงบ ขณะนี้การข่าวยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด แต่ในพื้นที่คงมีฐานข้อมูลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป และใช้ฐานข่าวไปปิดล้อมตรวจค้นจับกุมดำเนินคดี
**มาร์คถกป๊อกจัดพลเรือนคุมกอ.รมน.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน. ) จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอโครงสร้าง ของกอ.รมน. ที่มีการปรับปรุงใหม่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน ซี่งมีนายกฯ เป็น ผอ.กอรมน.
"นายกฯ จะให้นโยบายเพิ่มเติมในการทำงานร่วมกันกับกองทัพ ตามโครงสร้าง กอ.รมน.ในส่วนของพื้นที่3 จังหวัดชายแดนใต้ การบริหารจัดการพื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และมีเรื่องงบประมาณบางส่วน นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ จะได้รายงานภาพรวมสถานการณ์ทั่วไป" นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า ตามโครงสร้างใหม่ เมื่อนายกฯ มีอีกบทบาทหนึ่งคือ ผอ.กอ.รมน จะต้องจัดทีมงานเข้าไปอยู่ใน กอ.รมน. ซึ่งจากเดิมเป็นเรื่องของฝ่ายทหาร แต่โครงสร้างใหม่ เป็นเรื่องของฝ่ายพลเรือน จัดตั้งสำนักงาน มีผลคือ นายกฯในฐานะ ผอ.กอ.รมน. กำหนดอัตรากำลังเข้าไป ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนต้องพิจารณาอีกครั้ง
จุดที่ 1 คนร้ายลอบวางเพลิงโกดังขายสินค้าของร้านศรีสมัย ถนนเฉลิมชัย จุดที่ 2 ร้านอภิรักษ์เฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 68 ถนนเปรมจิต-สุรพันธ์ ตลาดเมืองใหม่ยะลา อ.เมืองยะลา เฟอร์นิเจอร์ได้รับความเสียหายทั้งหมด รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีขาว แผ่นป้ายทะเบียน บล.1396 กทม. เสียหาย จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 1 คัน,
จุดที่ 3 โกดังศรีสมัย ที่อยู่ 1085/1 สิโรรส บ้านจารู ชุดชนตลาดเก่า อ.เมืองยะลา สินค้าประเภทน้ำอัดลม ขนมต่างๆ ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง จุดที่ 4 โกดังเก็บสินค้า และวัสดุก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ยะลาย่งฮวด ซึ่งจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ยะลา ตั้งที่อยู่ 14/4 หมู่ที่ 3 บ้านท่าสาป ต.สะเตง อ.เมืองยะลา อุปกรณ์ก่อสร้างที่อยู่ภายในโกดังได้รับความเสียหายทั้งหมด
จุดที่ 5 คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องหนักประมาณ 3-5 กก. ไปวางไว้ด้านหลังป้ายโชว์รูม อีซูซุ (ISUZU) ของบริษัทปัตตานี เจริญเทรดดิ้ง จำกัด ริมบนถนนเทศบาล 1 อ. เมืองยะลา แรงระเบิดทำให้กระจกแตกกระจาย เสาโฆษณาได้รับความเสียหายเล็กน้อย
จุดที่ 5 ในเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำวัตถุระเบิดหนัก 3-5 กก.ไปวางไว้ริมฟุตบาต ด้านหน้าประตูกระจก หน้ารามาคาเฟ่ โรงแรมยะลารามา ทำให้กระจกหน้าคาเฟ่แตก เสียหาย และ รถยนต์ของลูกค้าที่มาพักในโรงแรม ถูกแรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 4 คัน
จุดที่ 6 คนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่อง หนัก 3-5 กก.ไปวางไว้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย จำนวน 1 ตู้ กระจกด้านหน้าธนาคารแตกเสียหายจำนวน 3 บาน
จุดที่ 7 บริเวณตลาดสามแยกบ้านเนียง หมู่ที่ 4 ต.เปาะเส้ง อ.เมือง จ.ยะลา คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ระบบทรูมูพ ได้รับความเสียหาย 1 เสา
จุดที่ 8 เวลาประมาณ 09.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากพนักงานห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ยะลา ว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของห้าง หลังได้รับแจ้งแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดศรศึก-ศรชัย (EOD ARMY) จึงรีบเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นขายเสื้อผ้า พบว่ามีข้าวของกระจุยกระจายตกเต็มพื้นจากแรงระเบิด
สำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 3 จุด พบชิ้นส่วนเศษกล่องเหล็กที่ใช้บรรจุระเบิด และเศษสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดขนาด 1 ซม. รวมทั้งเศษของวงจรอีเล็กทรอนิกส์ และเศษสายไฟตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้ทุกๆ สภ.ให้เพิ่มความเข้มงวด จัดกำลังตำรวจ สายตรวจออกลาดตระเวนดูแลพื้นที่เป้าหมาย ย่านชุมชน สถานที่ราชการ ห้างร้าน บริษัทต่างๆ และให้จัดตั้งด่านตรวจลอยเพื่อกดดัน กลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งได้กำชับให้มีการเร่งหาข้อมูลของคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มก่อเหตุได้เปลี่ยนเวลาจากที่เคยปฏิบัติการช่วง 20.00-22.00 น. มาเป็นช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ขาดความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้หวังให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต นอกจากทำลายทรัพย์สิน และเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเดินทางลงพื้นที่ จ. ยะลา ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ เหมือนกำลังส่งสัญญาณบางอย่างถึงรัฐบาล
**"เทพเทือก"ควง"บิ๊กป๊อก"ลงใต้
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ (28 พ.ค.) โดยจะค้างคืนที่ จ.ปัตตานี 1 คืน ทั้งนี้ ตนจะไปอธิบายให้ข้าราชการ และประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลมีแผนงานมีโครงการ มีเป้าหมายที่จะมาแก้ปัญหาในภาคใตอย่างไร โดยเฉพาะการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และจะบอกว่าเขาจะต้องร่วมมืออย่างไรบ้าง และจะไปเยี่ยมตำรวจ ทหาร รวมถึงประชาชน และจะไปดูโครงการต่างๆ หลายโครงการ
ส่วนเรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดนั้น รองนายกฯกล่าวว่า ทราบแล้ว ก็กังวลใจเหมือนกัน แต่ก็ต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับนายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะชี้แจงนายสุเทพ ว่ามีการดำเนินการอย่างไร จะได้ดูว่ามีข้อขัดข้องอะไร เพื่อให้การทำงานดี ซึ่งเราจะเตรียมการที่จะสรุปผลการปฏิบัติที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจ และศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งท่านคงมีแนวทางแก้ปัญหา ทั้งนี้ การตัดงบประมาณคงไม่มีผลกระทบกับการแก้ปัญหาภาคใต้
สำหรับการลอบวางระเบิดสถานที่ต่างๆ รวม 7 จุด ในจ.ยะลานั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่น่ามีอะไรมาก เป็นเหตุการณ์ในลักษณะก่อกวน ไม่รุนแรง ไม่มีอะไรมาก ทั้งนี้มาตรการทุกอย่างดี แต่คิดว่าเหตุการณ์ไม่มีอะไรก่อกวนธรรมดา
เมื่อถามว่า มีการใช้ระเบิดเพลิงในการจัดงานในพื้นที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นการใช้ระเบิดเพลิงเล็กน้อย คิดว่าต้องให้งานเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ เจ้าหน้าที่ควรทำให้ประชาชนอยู่ในสภาพปกติได้ แต่การแก้ไขต้องใช้เวลา เพราะการทำงานเราใช้การพัฒนา เอาชนะจิตใจด้วยการเมืองและการพัฒนา ทำให้เขาไม่เป็นผู้ก่อความไม่สงบ ขณะนี้การข่าวยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด แต่ในพื้นที่คงมีฐานข้อมูลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป และใช้ฐานข่าวไปปิดล้อมตรวจค้นจับกุมดำเนินคดี
**มาร์คถกป๊อกจัดพลเรือนคุมกอ.รมน.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน. ) จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอโครงสร้าง ของกอ.รมน. ที่มีการปรับปรุงใหม่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน ซี่งมีนายกฯ เป็น ผอ.กอรมน.
"นายกฯ จะให้นโยบายเพิ่มเติมในการทำงานร่วมกันกับกองทัพ ตามโครงสร้าง กอ.รมน.ในส่วนของพื้นที่3 จังหวัดชายแดนใต้ การบริหารจัดการพื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และมีเรื่องงบประมาณบางส่วน นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ จะได้รายงานภาพรวมสถานการณ์ทั่วไป" นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า ตามโครงสร้างใหม่ เมื่อนายกฯ มีอีกบทบาทหนึ่งคือ ผอ.กอ.รมน จะต้องจัดทีมงานเข้าไปอยู่ใน กอ.รมน. ซึ่งจากเดิมเป็นเรื่องของฝ่ายทหาร แต่โครงสร้างใหม่ เป็นเรื่องของฝ่ายพลเรือน จัดตั้งสำนักงาน มีผลคือ นายกฯในฐานะ ผอ.กอ.รมน. กำหนดอัตรากำลังเข้าไป ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนต้องพิจารณาอีกครั้ง