ปัตตานี – เตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจะมีการผนึกกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน ให้ดูแลครูเป็นพิเศษ รวมถึงขอให้ทาง ชรบ. อรบ.ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาร่วมกันดูแลครูและนักเรียนรับมือเปิดเทอมนี้อีกด้วย
พล.ต.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร กล่าวถึง มาตรการการดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียนในช่วงเปิดเทอมว่า ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปิดเทอมได้มีการฝึกทบทวนให้กับครูเพื่อให้มีความรู้ในการป้องกันตนเอง และได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่อำเภอ ร่วมกับฝ่ายปกครองและประชาชนในการพัฒนา 2 ข้างทางที่ครูจะต้องเดินทางไปโรงเรียนทั้ง 3 จังหวัด ส่วนการดูแลในช่วงเปิดเทอม ได้มีการผนึกกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน ให้ดูแลครูเป็นพิเศษ และขอให้ทาง ชรบ. อรบ.ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาร่วมกันดูแลครูและนักเรียนอีกด้วย
ผบ.พตท. กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ว่า สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 เป็นต้นมาถ้านับจำนวนเหตุการณ์ลดลงมาก สามารถสรุปได้ว่าแนวโน้มสถานการณ์จะลดลง แต่อาจจะมีบ้างเป็นลักษณะการก่อกวน เช่น ยิงหม้อแปลงไฟฟ้า เผายางรถยนต์ แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาในพื้นที่ถึงแม้สถานการณ์จะลดลง เจ้าหน้าที่คงต้องทำงานเชิงรุกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นยุทธการ การติดตาม ตรวจค้น จับกุม กลุ่มก่อความไม่สงบที่มีหมายจับตาม พ.ร.ก. หรือ ป.วิอาญา และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ทั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร และ พลเรือน เข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่างๆตามความต้องการของประชาชน
ต่อข้อถามที่ว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการยกเลิกประกาศใช้ พรก.หรือไม่ ผบ.พตท. กล่าวว่า ยังไว้วางใจไม่ได้ ถึงแม้ 6 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์จะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคงต้องมีการติดตาม ป้องกันอีกสักระยะ ขณะนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนจะมีการยกเลิกเมื่อไหร่ คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อาจจะอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
พล.ต.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร กล่าวถึง มาตรการการดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียนในช่วงเปิดเทอมว่า ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปิดเทอมได้มีการฝึกทบทวนให้กับครูเพื่อให้มีความรู้ในการป้องกันตนเอง และได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่อำเภอ ร่วมกับฝ่ายปกครองและประชาชนในการพัฒนา 2 ข้างทางที่ครูจะต้องเดินทางไปโรงเรียนทั้ง 3 จังหวัด ส่วนการดูแลในช่วงเปิดเทอม ได้มีการผนึกกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน ให้ดูแลครูเป็นพิเศษ และขอให้ทาง ชรบ. อรบ.ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาร่วมกันดูแลครูและนักเรียนอีกด้วย
ผบ.พตท. กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ว่า สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 เป็นต้นมาถ้านับจำนวนเหตุการณ์ลดลงมาก สามารถสรุปได้ว่าแนวโน้มสถานการณ์จะลดลง แต่อาจจะมีบ้างเป็นลักษณะการก่อกวน เช่น ยิงหม้อแปลงไฟฟ้า เผายางรถยนต์ แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาในพื้นที่ถึงแม้สถานการณ์จะลดลง เจ้าหน้าที่คงต้องทำงานเชิงรุกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นยุทธการ การติดตาม ตรวจค้น จับกุม กลุ่มก่อความไม่สงบที่มีหมายจับตาม พ.ร.ก. หรือ ป.วิอาญา และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ทั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร และ พลเรือน เข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่างๆตามความต้องการของประชาชน
ต่อข้อถามที่ว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการยกเลิกประกาศใช้ พรก.หรือไม่ ผบ.พตท. กล่าวว่า ยังไว้วางใจไม่ได้ ถึงแม้ 6 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์จะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคงต้องมีการติดตาม ป้องกันอีกสักระยะ ขณะนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนจะมีการยกเลิกเมื่อไหร่ คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อาจจะอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์