“สุเทพ” ย้ำปรับ ครม.แค่ “ชาติชาย” ตามข้อเสนอ “ภูมิใจไทย” เมินก๊วนเพื่อแผ่นดินขอเพิ่มเก้าอี้ ด้านงานสัมมนา ปชป.มีมติให้ ส.ส.มีส่วนช่วยนายกฯ และสามัคคีกันมากขึ้น พร้อมกำชับลงพื้นที่บอกปัญหาบ้านเมืองกับ ปชช. “กอร์ปศักดิ์” ร่วมแจงปัญหางบกระจุกตัว พร้อมมอบ ส.ส.เสนอโครงการ ไม่ซ้ำซ้อนกับภูมิใจไทย เตรียมทุ่ม 6.8 หมื่นล้าน พัฒนา 3 จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ส่งลูกพรรคขึ้นเรือแล้ว สมาชิกพรรคได้เดินทางไปยังเกาะนางยวน และได้แบ่งกลุ่มย่อยหารือกันตามอัธยาศัย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา ระบุว่ามีบางกลุ่มเสนอว่าการจัดงบประมาณลงพื้นที่ให้กับ ส.ส. ไม่ควรจัดให้กับ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากไม่มีภาระต้องลงพื้นที่เหมือนกับ ส.ส.เขต หลังจากหารือกลุ่มย่อยเสร็จแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้พารัฐมนตรีและ ส.ส.จำนวนหนึ่งลงพื้นที่พบปะประชาชนที่เกาะเต่าด้วย ขณะที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ที่มีกระแสข่าวจะย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยนั้น ก็ได้เดินทางมาร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย และได้ร่วมหารือและจับกลุ่มเดียวกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค
ต่อมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสัมมนา ส.ส.พรรค ตามที่มีการแบ่ง ส.ส.ออกเป็นกลุ่มย่อย 12 กลุ่ม โดยมอบภารกิจให้แต่ละกลุ่มไปพุดคุยและนำมาเสนอตน เพื่อนำเสนอความเห็นต่อไป โดยแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ 1.ให้ ส.ส.คิดว่าในฐานะที่เป็นรัฐบาลควรทำอะไรเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ และคิดว่า ส.ส.จะช่วยเหลือรัฐบาลในเรื่องใดได้บ้าง 2.เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องระดมความคิดว่าทำอย่างให้พรรคแข็งแรงและสามัคคีมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงปิดสมัยประชุมตนได้กำชับกับ ส.ส.ว่าขอให้ลงพื้นที่เพื่อบอกปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองให้ประชาชนได้ทราบและตระหนักว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อความมั่นคงและโอกาสอยู่รอดของประเทศไทย ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ อธิบายให้ส.ส.เข้าใจถึงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล
“ขอยืนยันว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเข้าใจตรงกันว่ามีหน้าที่ทำให้ประเทศไทยพ้นภัยเศรษฐกิจและการเมือง โดยต้องรวมกำลังกันให้เต็มที่เพื่อเป็นกำลังใจให้นายกฯ แก้ปัญหาต่อไป” นายสุเทพกล่าว และว่า ส่วนปัญหาที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง ระบุว่ามี ส.ส.ในมือมากกว่า 40 คนนั้น เป็นการพูดถึงเสียงของรัฐบาลในอนาคตที่จะมีเพิ่มมากกว่า 240 เสียง โดยปัญหาในพรรคที่เป็นข่าวตนได้พูดคุยกับทุกกลุ่มยืนยันว่าไม่ได้กดดันให้ปรับ ครม. แต่ต้องการพูดคุยให้ ส.ส.เสนอความเห็นในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯ ก็พร้อมรับฟัง
เมื่อถามว่ามี ส.ส.ติดใจเรื่องจัดงบที่ไปกระจุกอยู่ในพื้นที่ของ “แก๊งออฟโฟร์” นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีแก๊งออฟโฟร์ แต่อาจหมายถึงการไม่ฟังเสียง ส.ส. ไม่ได้หมายความว่ามีการแบ่งกลุ่มนั้นกลุ่มนี้
นายสุเทพกล่าวถึงการปรับ ครม.ว่าจะมีการปรับเพียง 1 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ของนายชาติชาย พุคยาภรณ์ (ในโควตาพรรคภูมิใจไทย) ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อแผ่นดินต่อรองขอเพิ่มโควตารัฐมนตรีนั้น ขออธิบายว่าตอนที่ตนชวนให้ร่วมรัฐบาลได้บอกชัดเจนว่า พรรคไหนเคยดูแลกระทรวงไหน มีรัฐมนตรีกี่คนก็ให้เท่านั้น จะได้ทำงานต่อเนื่อง ดังนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องการขอเพิ่มเก้าอี้รัฐมนตรี
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเปิดเผยว่า จากการหารือในเบื้องต้น รัฐบาลได้เตรียมรับลูกในการที่พรรคภูมิใจไทยจะเสนอปรับนายชาติชายออก แม้ว่านายชาติชายจะยืนยันว่าไม่ลาออก เพราะไม่มีความผิดก็ตาม โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องมีมติออกมาให้ชัดเจนว่าจะเสนอปรับนายชาติชายออก และจะเสนอใครเข้ามาแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสัมมนาในช่วงค่ำของคืนวันที่ 23 พ.ค.นี้ นายสุเทพและนายกอร์ปศักดิ์จะชี้แจงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณให้กับ ส.ส.ได้เข้าใจ โดยจะให้ ส.ส.เสนอโครงการที่ไม่ซ้ำกับพรรคภูมิใจไทย โดยงบประมาณหลักจะมาจากกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม ในโครงการถนนปลอดฝุ่น เป็นต้น หลังจากที่ ส.ส.พากันโวยวายว่าไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่เท่าที่ควร
“สุเทพ” เตรียมลง 3 จว.ใต้พฤหัสฯ นี้ ทุ่มงบ 6.8 หมื่นล้านซื้อใจ
นายสุเทพเปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 28-29 พ.ค. นี้ ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการของคณะรัฐมนตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ได้จัดทำแผนโครงการ และงบประมาณเรียบร้อยแล้ว จึงอยากแจ้งให้ประชาชนทราบ ซึ่งจะมีการพูดคุยกับข้าราชการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
นายสุเทพกล่าวอีกว่า การลงไปครั้งนี้จะให้หน่วยราชหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จัดทำแผนของบประมาณซึ่งมีเงินเตรียมไว้ให้จำนวน 8 พันล้านบาท และในงบประมาณปี 2553 จะมีอีกจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท โดยงบพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ มีทั้งหมด 6.8 หมื่นล้านบาท โดยการลงไปครั้งนี้จะช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่อาศัย เช่น การให้กู้เงินซื้อบ้าน ปัญหาราคาพืชผลการเกษตร สาธารณสุข รัฐจะทุ่มทุกอย่าง เพราะจะเป็นการดึงคนไม่เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลทุ่มเทให้คนในพื้นที่ ซึ่งก็จะให้ความร่วมมือกับรัฐมากขึ้น
