“มาร์ค” แย้ม “ชาติชาย” ประสานขอพบ ก่อนตัดสินใจไขก๊อก

“มาร์ค” เผย “ชาติชาย” ขอพบก่อนไขก๊อก รอจังหวะ “เสาร์-อาทิตย์” มีเวลาให้ปรับทุกข์ ยันภูมิใจไทยยังไม่ส่งชื่อรัฐมนตรีแทน ระบุปรับเล็ก-ใหญ่ รอแต่ละพรรคเสนอมาก่อน ยัน "เพื่อแผ่นดิน" ไม่เคยคุยขอโค้วต้าเพิ่ม ไม่หวั่น “เหลิม” เดินเกมนอกสภา เตรียมจัดตารางลงพื้นที่พบประชาชน หลังปิดสมัยประชุมสภาฯไม่กลัว “แดงถ่อย”ดักไล่

วันนี้(22 พ.ค.) ที่โรงแรมสยามซิตี้ เมื่อเวลา 11.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ที่พรรคภูมิใจไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลาออกจากตำแหน่งว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือการลาออกจากตำแหน่งของนายชาติชาย โดยนายชาติชายติดต่อจะขอพบตนเองก่อนที่จะมีการตัดสินใจอะไร พอดีวันนี้(22 พ.ค.)ยังหาเวลาไม่ได้ เพราะในช่วงเช้าตนได้เดินทางไปจังหวัดราชบุรีและช่วงบ่ายจะเดินทางไปต่างจังหวัด คิดว่าช่วงสุดสัปดาห์จะพยายามจัดเวลาให้นายชาติชายเข้ามาพบ เพราะนายชาติชายบอกว่ายังไงต้อมาพูดคุยกับตนก่อนในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ทั้งนี้นายาติชายยังไม่ได้บอกเหตุรายละเอียดการขอเข้าพบ เบื้องต้นพยายามนัดหมายกันเฉยๆ แต่เข้าใจว่าคงเป็นผลจากการประชุมพรรคภูมิใจไทยวานนี้(21 พ.ค.)

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายชาติชายเข้าพบจะมีผลอะไรเปลี่ยนแปลงมติของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้พบกัน แต่นายชาติชายบอกว่าเนื่องจากเป็นเรื่องที่จะกระทบต่อการทำงาน ท่านต้องมาพบกับตนก่อน คิดว่าเสาร์-อาทิตย์นี้คงจะทราบ เมื่อถามว่า การที่พรรคภูมิใจไทยมีมติออกมาแบบนี้ต้องเคารพการตัดสินใจของลูกพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ให้แนวไว้ว่าทางรัฐมนตรีกับทางพรรคน่าจะคุยกัน แต่ตนยังไม่ทราบว่าได้มีโอกาสการพูดคุยกันหรือไม่ อย่างไร และเข้าใจว่านายชาติชายจะมารายงานผลของมติพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีการเสนอชื่อรัฐมนตรีใหม่มาหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังเลย ยังไม่มีการแจ้งอะไร มีแต่นายชาติชายที่ติดต่อมา ตนบอกว่าสุดสัปดาห์จะหาเวลาให้คุย เมื่อถามว่าจะกลายเป็นว่าดึงนายกรัฐมนตรีลงไปสู่ความขัดแย้งของพรรคภิใจไทยหรือเปล่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหรอก เมื่อถามว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงขณะนี้จะมีผลหรือมีปัญหาอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะถามรัฐมนตรีถึงงานต่างๆที่ทำอยู่

เมื่อถามว่า หากมีการรปรับ ครม.จะปรับตำแหน่งเดียวนี้หรือมีตำแหน่งอื่นๆอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะมีการปรับ ครม.ก็เป็นไปตามที่มีการตกลงเสนอมาในส่วนของสัดส่วนพรรคเขา ที่อื่นยังไม่มีอไร เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อแผ่นดินออกมาบอกว่าเขาต้องได้เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เคยมีมาคุยกันในลักษณะนั้น และตอนที่มาทำงานร่วมรัฐบาลกัน แนวที่เราใช้คือเนื่องจากพรรคต่างๆเคยดูแลรับผิดชอบหน่วยงานต่างๆอยู่แล้ว ส่วนใหญ่คือให้ดูแลงานเดิมและมีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไป ไม่ได้นับเป็นลักษณะของโควต้าอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การพูดขอตำแหน่งเพิ่มผ่านสื่อถือว่าผิดมารยาทหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่า เป็นการเอา ส.ส.ที่อยู่กับพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาโชว์ว่ามาอยู่กับเขาแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนนิดหนึ่งว่าตอนที่ตัดสินใจมาทำงาน่วมกันก็แบ่งความรับผิดชอบไปตามความรับผิดชอบเดิมและเติมในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไป

“ถ้าพูดกันจริงๆแล้ว หากพูดตามตัวเลข อย่างที่ผมเรียนหลายครั้งกลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเพิ่มเยอะเลยครับ”นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำ

เมื่อถามว่าหากเขายังยึดเรื่องตัวเลขมาต่อรอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่หรอก เพราะเราคุยกันตั้งแต่ต้น เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม.ครั้งนี้จะปรับใหญ่หรือปรับเล็ก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอให้แต่ละพรรคที่เขาคิดจะเปลี่ยนแปลงส่งมา แต่ตอนนี้ยังไม่ส่งมา เมื่อถามว่า แรกงกระเพื่อมที่เกิดจะกระทบต่อกฎหมายการเงินที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาสมัยนิติบัญญัติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ ตนมั่นใจว่ากลางเดือนมิถุนายนหรือช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เราจำเป็นต้องให้ผ่านทั้งเรื่องงบประมาณและเรื่อง พ.ร.ก.จะได้รับการสนับสนุน เพราะทุกคนทราบดีว่าอันนี้เป็นงานที่มีความจำเป็นในการผฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า แม้จะไม่ได้รับการจัดสรรค์ตำแหน่งตามคำเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินการเรียกร้องอะไร ทำงานร่วมกันก็ปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าหากปิดสมัยประชุมจะมีการลงพื้นที่ได้มีการวางแผนอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังจัดเวลา เพราะในช่วงเดือนมิถุนายน มีกำหนดการที่จะเดินทางไปต่างประเทศบวกกับเรื่องของสภาอยู่ แต่จะดูเรื่องการลงพื้นที่ด้วย เมื่อถามว่า จะไปเหนือ-อีสานด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียดทั้งหมด เมือถามว่า นายกรัฐมนตรีกล้าลงไปในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานไหนที่คิดว่าเหมาะสมและจำเป็นก็จะไป ก่อนหน้านี้ก็ไป อ.อ่างขางมาแล้ว วันนี้ก็ไป จ.ราชบุรีเรื่องปลูกป่ามา คิดว่างานไหนที่เหมาะสมจะไปก็ไป

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่จะพิจารณาเรื่องความปลอดภัยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายรักษาความปลอดภัย เมื่อถามว่า ห่วงจะเกิดเหตุการณ์แบบเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเพียงไม่อยากให้เห็นปัญหาขอความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้นในเมื่อเราได้จัดเวทีไว้สำหรับการแสดงความคิดเห็นต่างๆและรับประเด็นต่างๆเข้ามาแล้วในส่วนของสภาฯ ฉะนั้นไม่เหตุผลอะไรที่จะต้องมาสร้างความขัดแย้งกัน เพราะไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น หากมีภาพความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องมันเป็นการลดน้ำหนัก กระบวนการของการทำงานอกในร่วมกัน ประเด็นต่างๆก็กลายเป็นว่าไม่ใช่ประเด็นที่เป็นข้อเรียกร้องอย่างแท้จริง เพราะในข้อเรียกร้องต่างๆกำลังดูอยู่และไม่ได้ช่วยประเทศเลย ขณะนี้อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงตรงนี้ แต่การแสดงออกในการที่จะชุมนุมในทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญก็ทำได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยออกมาระบุจะไล่ทั้งในและนอกสภาฯเจอที่ไหนก็จะไล่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าคุณเฉลิมคิดว่านั่นเป็นบทบาทของฝ่ายค้านก็ทำ แต่ต้องทำในกรอบของกฎหมาย เมื่อถามว่า การที่เขาประกาศจะเดินเกมทั้งนอกสภาและในสภาควบคู่กันจะมีผลอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าคำว่านอกสภาเป็นเพียงการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นปัญหา