“นพ.บุรณัชย์” แจงแทน “สุรสิทธิ์” ดอดร่วมประชุมพรรคภูมิใจไทย แค่ยื่นเรื่องขอแก้ปัญหากระเทียมและถนนชำรุด ที่แม่ฮ่องสอน ซัดมีกระบวนการปล่อยข่าว สร้างความสับสน มั่นใจพรรคยังแน่นปึ้ก ไร้กลุ่ม-แก๊ง หวังกดดันให้ปรับ ครม.เชื่อสัมมนาพรรคสุดสัปดาห์นี้ช่วยทำรัฐมนตรี-ส.ส.ใกล้ชิดกันมากขึ้น
วันนี้ (21 พ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เช่น กรณี นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไปยังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนทราบมาว่าเป็นการเข้าไปยื่นเรื่องต่อรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหากระเทียมและถนนที่ชำรุดใน จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ได้เป็นการเข้าร่วมประชุมพรรคตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด หรือกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ร่วมรับประทานอาหารกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ถือว่าเป็นการพบปะเป็นปกติในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และเป็น ส.ส.รุ่นเดียวกันกับตน และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า มีกระบวนการปล่อยข่าวเพื่อสร้างความสับสนถึงเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล และของพรรคประชาธิปัตย์เองจากผู้ไม่หวังดี เช่น กรณีกลุ่ม ส.ส.หน้าใหม่ 40 คน ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มดังกล่าวในพรรคประชาธิปัตย์ที่เคลื่อนไหว เพื่อกดดันหรือต่อรองตำแหน่งอย่างแน่นอน ส่วน นายเฉลิมชัย ก็รับผิดชอบเขตพื้นที่สำคัญของพรรค คือ ภาคกลางที่เป็นเขตที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ส.ส.สมัยแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ทำงานใกล้ชิดกับพรรคมาโดยตลอด และส่วนตัวก็เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่พูดลับหลัง และสะท้อนสภาพปัญหาของประชาชนในพื้นที่ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า นายกฯ จะไปร่วมสัมมนาด้วยจะทำให้บรรยากาศของพรรคดีขึ้นหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การสัมมนาดังกล่าวจะเป็นการพูดคุยถึงปัญหาวิกฤตของประเทศและบทบาทของพรรคในการทำงานในฐานะแกนนำรัฐบาล ซึ่ง ส.ส.และรัฐมนตรีส่วนใหญ่ยืนยันที่จะเข้าร่วมสัมมนาโดยพร้อมเพรียง ตนจึงมั่นใจว่า จะทำให้รัฐบาลสามารถได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาของประชาชน และเป็นการทำให้ ส.ส.ใช้เวลาใกล้ชิดกับรัฐมนตรีได้อย่างเต็มที่ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นได้โดยตรง จึงมั่นใจว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า มี ส.ส.ไม่พอใจเรื่องการจัดงบลงพื้นที่ที่มองว่าอยู่ในกลุ่มแก๊งออฟโฟร์ พรรคจะแก้ปัญหาอย่างไร นพ.บุรณัชย์ ตอบยืนยันว่า แนวทางของพรรคและรัฐบาลในการจัดงบประมาณทุกครั้งถือหลักของความเป็นธรรม การกระจายตัวไปยังทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง และไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าโดยกระบวนการตัดสินใจหรือเขตพื้นที่ที่ได้รับ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของนายกฯ ที่ได้รับฟังปัญหาและความจำเป็นผ่าน ส.ส.ไม่เฉพาะแต่พรรคประชาธิปัตย์ แต่รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านมาโดยตลอด ส่วนกระแสข่าวที่กล่าวถึงแก๊งออฟโฟร์นั้น ยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มบุคคลที่ถืออำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใด แต่หลักเกณฑ์ได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสมาตลอด ซึ่งเป็นสาเหตุให้การออก พ.ร.ก.กู้เงินมีรายละเอียดโครงการต่างๆ แนบท้ายเป็นครั้งแรก
“ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลลอกนโยบายเศรษฐกิจมาจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น พรรคขอท้าให้ ร.ต.อ.เฉลิม แสดงหลักฐานว่าโครงการเบี้ยกตัญญู โครงการเรียนฟรี 15 ปี เช็คช่วยชาติ หรือโครงการชุมชนพอเพียง เคยปรากฏอยู่ตรงไหนในสมัยรัฐบาลก่อน และถ้าลอกจริงก็ขอให้เปิดเผยโครงการสัมปทานเอื้อประโยชน์ธุรกิจพวกพ้องดังเช่นที่เคยทำมาในอดีตว่าวันนี้ยังมีอยู่หรือไม่อย่างไร” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
