นายสุรพงษ์ วัฒนพานิช อัยการพิเศษฝ่านคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เปิดเผยว่า พนักงานอัยการได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาในความผิด ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ด้วยการมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ดังนั้น เมื่อผู้ต้องหาเดินทางมารายงานตัวตามนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้ 27 พ.ค. เวลา 09.00 น.พนักงานอัยการก็จะนำตัวไปส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแขวงดุสิตทันที
ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความนายสุภรณ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจในคดีนี้ โดยหากพนักงานอัยการนำตัวนายสุภรณ์ส่งฟ้องศาล ตนก็เตรียมเงินสด 1 แสนบาท ไว้เป็นหลักทรัพย์ เพื่อยื่นขอประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีโทษน้อย คือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท เท่านั้น
วันเดียวกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่10 คนขึ้นไป ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ ตาม ป.อาญามาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
พร้อมด้วย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาในความผิดฐาน กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นมาจนรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเดือนเม.ย. พร้อมสำนวนการสอบสวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้องส่งมอบให้ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อพิจารณาสั่งคดี โดยมีคำสั่งให้ผู้ต้องหามารับฟังการสั่งคดีในวันที่ 10 มิ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. พร้อมกับ นายวีระ มุกสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำคนเสื้อแดงที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายจตุพร กล่าวว่าในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตนจะมอบให้ทนายความยื่นหนังสือร้อง ขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากอยากให้กระบวนการยุติธรรมในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการ มีมาตรฐานเดียวกันระหว่างคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง และคนเสื้อน้ำเงิน ที่ผ่านมาคนเสื้อเหลืองก็กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหลายครั้งหลายข้อหา แต่กระบวนการยุติธรรมในชั้นนี้กลับไม่เร่งรัดเอาตัวมาดำเนินคดี ต่างกับพวกตนที่ตำรวจเร่งรัด บางครั้งนัดมาให้การแต่ไม่ยอมรับคำให้การ จู่ๆก็นัดมาส่งสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ
จากนั้น นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ในคดีหิ้วถุงขนม 2 ล้าน ได้เป็น นายประกันโดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท ขอประกันตัวนายอริสมันต์ ส่วนนายจตุพร ใช้ตำแหน่ง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ขอประกันตัวออกไป
ขณะที่ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความของกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ในวันนี้ 27 พ.ค. นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องในคดีนี้เช่นกัน จะเดินทางเข้ารายงานต่อพนักงานอัยการในเวลา 10.00 น.
วันเดียวกัน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติให้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ กรณีที่สำนักงาน กกต.จ.แพร่ ส่งเรื่องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ร้องเรียนให้ตรวจสอบนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.จ.แพร่ พรรคเพื่อไทย หลังนำผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปปิดล้อมสถานีวิทยุชุมนุม จ.แพร่ ซึ่งถือเป็น การกระทำที่เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา และรัฐธรรมนูญ ม. 266(1) เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทาง กกต.จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบและมอบหมายให้คณะอนุกรรมการรับไปดำเนินการไต่สวนต่อไป
นอกจากนี้ กกต.ยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนครั้งที่ 1 ให้อนุกรรมการไต่สวนกรณี นายวรวัจน์ ถูกร้อง ทำผิดรัฐธรรมนุญ ม.106 (6) ฐานแสดงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไม่ครบขณะดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม
ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความนายสุภรณ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจในคดีนี้ โดยหากพนักงานอัยการนำตัวนายสุภรณ์ส่งฟ้องศาล ตนก็เตรียมเงินสด 1 แสนบาท ไว้เป็นหลักทรัพย์ เพื่อยื่นขอประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีโทษน้อย คือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท เท่านั้น
วันเดียวกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่10 คนขึ้นไป ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ ตาม ป.อาญามาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
พร้อมด้วย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาในความผิดฐาน กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นมาจนรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเดือนเม.ย. พร้อมสำนวนการสอบสวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้องส่งมอบให้ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อพิจารณาสั่งคดี โดยมีคำสั่งให้ผู้ต้องหามารับฟังการสั่งคดีในวันที่ 10 มิ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. พร้อมกับ นายวีระ มุกสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำคนเสื้อแดงที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายจตุพร กล่าวว่าในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตนจะมอบให้ทนายความยื่นหนังสือร้อง ขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากอยากให้กระบวนการยุติธรรมในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการ มีมาตรฐานเดียวกันระหว่างคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง และคนเสื้อน้ำเงิน ที่ผ่านมาคนเสื้อเหลืองก็กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหลายครั้งหลายข้อหา แต่กระบวนการยุติธรรมในชั้นนี้กลับไม่เร่งรัดเอาตัวมาดำเนินคดี ต่างกับพวกตนที่ตำรวจเร่งรัด บางครั้งนัดมาให้การแต่ไม่ยอมรับคำให้การ จู่ๆก็นัดมาส่งสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ
จากนั้น นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ในคดีหิ้วถุงขนม 2 ล้าน ได้เป็น นายประกันโดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท ขอประกันตัวนายอริสมันต์ ส่วนนายจตุพร ใช้ตำแหน่ง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ขอประกันตัวออกไป
ขณะที่ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความของกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ในวันนี้ 27 พ.ค. นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องในคดีนี้เช่นกัน จะเดินทางเข้ารายงานต่อพนักงานอัยการในเวลา 10.00 น.
วันเดียวกัน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติให้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ กรณีที่สำนักงาน กกต.จ.แพร่ ส่งเรื่องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ร้องเรียนให้ตรวจสอบนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.จ.แพร่ พรรคเพื่อไทย หลังนำผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปปิดล้อมสถานีวิทยุชุมนุม จ.แพร่ ซึ่งถือเป็น การกระทำที่เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา และรัฐธรรมนูญ ม. 266(1) เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทาง กกต.จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบและมอบหมายให้คณะอนุกรรมการรับไปดำเนินการไต่สวนต่อไป
นอกจากนี้ กกต.ยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนครั้งที่ 1 ให้อนุกรรมการไต่สวนกรณี นายวรวัจน์ ถูกร้อง ทำผิดรัฐธรรมนุญ ม.106 (6) ฐานแสดงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไม่ครบขณะดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม
