การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (Asean Summit) ที่ประเทศไทยเป็น “ประธาน-เจ้าภาพ” ในปีนี้ ได้มีการจัดประชุมอย่างเป็นทางการไปได้เพียงครั้งเดียว เมื่อเดือนมีนาคมที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี (แต่มักเรียกกันว่า ประชุมที่หัวหิน) โดยมีประเทศคู่เจรจาทั้ง 6 ประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีมาก ได้รับการชื่นชมกล่าวขวัญกันไปทั่วโลก
แต่การประชุมครั้งที่ 2 ที่จัดกันที่พัทยานั้น ต้องกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “น่าอับอายขายหน้า!” ไปทั่วโลก โดยมี “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” หรือ “กลุ่มเสื้อแดง” ได้ปฏิบัติการ “ทุบกระจก” และบุกยึดโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จนมีการตีแผ่ข่าวกระหึ่มไปทั่วโลก
ประเด็นสำคัญของ “ความอับอายขายหน้า” ที่การจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 6” เมื่อคราวที่แล้วที่พัทยา ที่ “ล่ม!” นั้น เกิดจากการถูกกลุ่มเสื้อแดงบุกทำลายสถานที่ประชุม พร้อมกับการเดินหน้ามุ่งสู่ที่ประชุมเพื่อ “ประจาน” การทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐบาลต่อหน้าบรรดา “ผู้นำสุดยอดอาเซียน” และบรรดา “ผู้นำประเทศทั้ง 6 คู่เจรจา” และอาจเลยเถิดไปกับการเข้ารุมทำร้าย “นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กับ “รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์”
“ผู้นำทั้ง 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน” ต่างตกใจอย่างมาก “ภรรยา” และ “ผู้ติดตาม” ผู้นำบางประเทศ ตลอดจน “เจ้าหน้าที่” ทุกระดับ ที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม ต่างตระหนกตกใจร้องไห้โฮออกมา เมื่อ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ได้ “บุกกรู” เข้าไปหาถึงเก้าอี้โซฟา พร้อม “สามหาว-กระโชกโฮกฮาก!-พูดจาข่มขู่” ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติ
เท่านั้นยังไม่พอ บรรดาเหล่าผู้นำสุดยอดอาเซียนที่ต้องรีบเดินทางออกจากโรงแรมสถานที่ประชุม แต่เลวร้ายไปมากกว่านั้น คือ ผู้นำสูงสุดของทั้ง จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ อินเดีย ต้องเดินทางกลับประเทศของเขาทันที ส่วนออสเตรเลียต้องรีบวกเครื่องบินหันลำกลับประเทศ
การเลื่อนจัดการประชุมอาเซียนอีกครั้ง ที่ตั้งท่าว่าจะจัดให้มีการประชุมกันได้อีกประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2552 นี้ ที่จังหวัดภูเก็ต ค่อนข้างคอนเฟิร์มว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ปรากฏว่าต้องมีอันเป็นไปด้วย “ความไม่พร้อม” ของทั้งผู้นำกลุ่มสมาชิกอาเซียนบางประเทศ ตลอดจน “ผู้นำประเทศคู่เจรจาทั้ง 6” ที่อาจไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ในเดือนมิถุนายน จนต้องเลื่อนไปประชุมประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ได้มีการยืนยันว่า “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน” กับ “ประเทศคู่เจรจาทั้ง 6” น่าจัดได้ในเดือนตุลาคม ที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องด้วย “ความพร้อม” ของผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิก ตลอดจนผู้นำประเทศคู่เจรจา แต่ถามว่า “ยืนยันเต็มเปี่ยม?” ได้หรือไม่ ก็ต้องขอตอบว่า ยังไม่น่าและกล้ายืนยันเต็มร้อย!
เหตุผลที่เกิดความไม่มั่นใจเต็มร้อย กับการจัดประชุมในเดือนตุลาคมที่ภูเก็ตนั้น เนื่องด้วยสภาวการณ์ทางการเมืองที่ยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของ “พรรคร่วมรัฐบาล” และ “พรรคฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” หรือ “กลุ่มเสื้อแดง” ที่อาจจะเพลาๆ อยู่ขณะนี้ แต่ก็มีการรวมกลุ่มเคลื่อนไหวทั้งในที่ลับและที่แจ้งตลอด
ขอย้ำว่า “เป้าหมาย” ที่ชัดเจนของ “นปช.-เสื้อแดง” นั้น สามารถทำได้ทุกอย่างในความพยายามที่จะไต่ระดับความเคลื่อนไหวจากระดับธรรมดาไปสู่ระดับรุนแรงได้ใน “การโจมตี-ดิสเครดิต” รัฐบาลทุกวิถีทาง
หรือแม้กระทั่ง “การชุมนุม” ที่น่าเชื่อว่าจะมีการจัดการรวมกลุ่มและประท้วง ถึงสถานที่จัดการประชุม ทั้งๆ ที่พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ “แสงแดด” ฟันธงเลยว่า “การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นแน่นอน!” เพียงแต่ว่า การสกัดกั้นก็ดี จำนวนผู้ชุมนุมประท้วงก็ดี ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นที่พัทยา ตลอดจนความพยายามของภาครัฐบาลที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ลุกลามใหญ่โต
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือ “พี่น้องประชาชน” จากภาคใต้คงไม่ยอมให้มีการชุมนุมและประท้วงจนบานปลาย และต้องเลิกล้มการประชุม ซึ่งขอย้ำว่า ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม “เสื้อแดง-นปช.” ต้องพยายามคิดค้นหา “กลยุทธ์” ทุกวิถีทางในการ “ดิสเครดิต” รัฐบาลเพื่อส่งผลกระทบแก่ประเทศไทย
การที่จะจัดให้มีการประชุมกันในเดือนมิถุนายนนั้น “แสงแดด” คลางแคลงใจสงสัยอยู่แล้วว่า “ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง!” เนื่องด้วยระยะเวลาที่จะจัดนั้น “กระชั้นชิด” เกินไป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่า “เหตุการณ์พัทยาเดือด!” นั้น ยัง “ร้อนระอุ!” อยู่ จึงมั่นใจว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนมิถุนายนนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เท่านั้นยังไม่พอ บรรดา “กลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน” และ “ประเทศคู่เจรจา” น่าจะยังกังวลใจกับสถานการณ์การเมืองไทย แต่ยัง “ฝุ่นตลบ!” และ “คุกรุ่น” อยู่ จึงปฏิเสธแบบนุ่มนวลว่า “ยังไม่พร้อม!”
แต่จริงๆ แล้ว “แสงแดด” วิเคราะห์แบบเพ้อเจ้อว่า น่าจะเป็นเพราะผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และผู้นำประเทศคู่เจรจาคงจะออกอาการ “เล่นตัว!” ด้วยเช่นเดียวกัน แต่เลยเถิดมากไปกว่านั้น คือ “การสั่งสอน” ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพว่า “การประชุมระดับโลก” เช่นนี้ ถ้าเจ้าภาพไม่มั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็อย่าเพิ่งจัด ตลอดจน ไม่ใช่ว่าอยากนึกจะจัดก็จัดได้นั้น “ไม่น่าจะง่ายเช่นนั้น!”
เพราะฉะนั้น “แสงแดด” มั่นใจว่า “กลุ่มประเทศสมาชิกและประเทศคู่เจรจา” ต้องการ “ให้บทเรียน!” แก่ประเทศไทยว่า “ต้องรอบคอบ-ต้องมั่นใจ” จริงๆ ว่าสามารถจัดการประชุมได้ด้วยความปลอดภัย มิให้ซ้ำรอยเหมือนคราวที่พัทยา และที่สำคัญที่สุดคือ “การเชิญระดับผู้นำ” มาประชุมนั้น ต้องชัดเจนและ “เล่นตัว-ยาก!” กับการเดินทางมา พูดง่ายๆ “อยากสั่งสอน!” ประเทศไทย
เป็นที่น่าเสียดายว่า “การล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน” ที่พัทยานั้น เป็นเรื่องที่ “อับอายขายหน้า” ไปทั่วโลก และต้องขอประณาม “นปช.กลุ่มเสื้อแดง” ว่า “ทำลายชื่อเสียงประเทศชาติ” อย่างจงใจ ด้วยการชุมนุมประท้วงหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ยังไม่พอ แต่การบุกเข้าโรงแรมก็ “เลวร้าย” แบบสุดๆ แล้ว!
แต่ “สุดระยำ!” เลย คือ การเดินตรงรี่สู่ห้องประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้วยการยกโขยงจำนวนนับร้อยคน พร้อมมีดไม้ครบมือ จนกระทั่งผู้ติดตาม และแม้กระทั่งภริยาผู้นำหลายคนที่อยู่บริเวณล็อบบี้โรงแรมต่างตกใจและร้องไห้กันระงม!
ความพยายามของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ที่ต้องจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 6 ประเทศคู่เจรจา” อีกครั้งในเดือนตุลาคม 2552 นี้ ที่จังหวัดภูเก็ต จะเป็นการสรุปและปิดฉากของประเทศไทยในการเป็น “เจ้าภาพ” และนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็น “ประธานอาเซียน” แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “การสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น” ที่จะมีต่อประเทศไทย ที่เป็นการ “กอบกู้ชื่อเสียง” ประเทศชาติให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น คนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันเป็น “เจ้าภาพ” เพราะประเทศไทยเป็นของเราคนไทยทุกคนกับ “วาระการประชุมระดับเวทีโลก” เช่นนี้ เราคนไทยไม่ควรแบ่งแยก สร้าง “ความขายขี้หน้า!” ให้แก่สังคมโลก
ถ้ากลุ่มใด ใครก็ตามแต่ พยายาม “ทำร้าย-ทำลาย” ชื่อเสียงประเทศชาติ เพื่อสนองตัณหาส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง เราคนไทยทุกคนสมควรกัน “ร่วมประณาม” กลุ่มบุคคลที่นึกถึงตนเองมากกว่าชาติ ว่า “มิใช่คนไทย!” สมควรไล่ออกจากชาติบ้านเมืองนี้!
แต่การประชุมครั้งที่ 2 ที่จัดกันที่พัทยานั้น ต้องกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “น่าอับอายขายหน้า!” ไปทั่วโลก โดยมี “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” หรือ “กลุ่มเสื้อแดง” ได้ปฏิบัติการ “ทุบกระจก” และบุกยึดโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จนมีการตีแผ่ข่าวกระหึ่มไปทั่วโลก
ประเด็นสำคัญของ “ความอับอายขายหน้า” ที่การจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 6” เมื่อคราวที่แล้วที่พัทยา ที่ “ล่ม!” นั้น เกิดจากการถูกกลุ่มเสื้อแดงบุกทำลายสถานที่ประชุม พร้อมกับการเดินหน้ามุ่งสู่ที่ประชุมเพื่อ “ประจาน” การทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐบาลต่อหน้าบรรดา “ผู้นำสุดยอดอาเซียน” และบรรดา “ผู้นำประเทศทั้ง 6 คู่เจรจา” และอาจเลยเถิดไปกับการเข้ารุมทำร้าย “นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กับ “รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์”
“ผู้นำทั้ง 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน” ต่างตกใจอย่างมาก “ภรรยา” และ “ผู้ติดตาม” ผู้นำบางประเทศ ตลอดจน “เจ้าหน้าที่” ทุกระดับ ที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม ต่างตระหนกตกใจร้องไห้โฮออกมา เมื่อ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ได้ “บุกกรู” เข้าไปหาถึงเก้าอี้โซฟา พร้อม “สามหาว-กระโชกโฮกฮาก!-พูดจาข่มขู่” ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติ
เท่านั้นยังไม่พอ บรรดาเหล่าผู้นำสุดยอดอาเซียนที่ต้องรีบเดินทางออกจากโรงแรมสถานที่ประชุม แต่เลวร้ายไปมากกว่านั้น คือ ผู้นำสูงสุดของทั้ง จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ อินเดีย ต้องเดินทางกลับประเทศของเขาทันที ส่วนออสเตรเลียต้องรีบวกเครื่องบินหันลำกลับประเทศ
การเลื่อนจัดการประชุมอาเซียนอีกครั้ง ที่ตั้งท่าว่าจะจัดให้มีการประชุมกันได้อีกประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2552 นี้ ที่จังหวัดภูเก็ต ค่อนข้างคอนเฟิร์มว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ปรากฏว่าต้องมีอันเป็นไปด้วย “ความไม่พร้อม” ของทั้งผู้นำกลุ่มสมาชิกอาเซียนบางประเทศ ตลอดจน “ผู้นำประเทศคู่เจรจาทั้ง 6” ที่อาจไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ในเดือนมิถุนายน จนต้องเลื่อนไปประชุมประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ได้มีการยืนยันว่า “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน” กับ “ประเทศคู่เจรจาทั้ง 6” น่าจัดได้ในเดือนตุลาคม ที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องด้วย “ความพร้อม” ของผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิก ตลอดจนผู้นำประเทศคู่เจรจา แต่ถามว่า “ยืนยันเต็มเปี่ยม?” ได้หรือไม่ ก็ต้องขอตอบว่า ยังไม่น่าและกล้ายืนยันเต็มร้อย!
เหตุผลที่เกิดความไม่มั่นใจเต็มร้อย กับการจัดประชุมในเดือนตุลาคมที่ภูเก็ตนั้น เนื่องด้วยสภาวการณ์ทางการเมืองที่ยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของ “พรรคร่วมรัฐบาล” และ “พรรคฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” หรือ “กลุ่มเสื้อแดง” ที่อาจจะเพลาๆ อยู่ขณะนี้ แต่ก็มีการรวมกลุ่มเคลื่อนไหวทั้งในที่ลับและที่แจ้งตลอด
ขอย้ำว่า “เป้าหมาย” ที่ชัดเจนของ “นปช.-เสื้อแดง” นั้น สามารถทำได้ทุกอย่างในความพยายามที่จะไต่ระดับความเคลื่อนไหวจากระดับธรรมดาไปสู่ระดับรุนแรงได้ใน “การโจมตี-ดิสเครดิต” รัฐบาลทุกวิถีทาง
หรือแม้กระทั่ง “การชุมนุม” ที่น่าเชื่อว่าจะมีการจัดการรวมกลุ่มและประท้วง ถึงสถานที่จัดการประชุม ทั้งๆ ที่พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ “แสงแดด” ฟันธงเลยว่า “การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นแน่นอน!” เพียงแต่ว่า การสกัดกั้นก็ดี จำนวนผู้ชุมนุมประท้วงก็ดี ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นที่พัทยา ตลอดจนความพยายามของภาครัฐบาลที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ลุกลามใหญ่โต
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือ “พี่น้องประชาชน” จากภาคใต้คงไม่ยอมให้มีการชุมนุมและประท้วงจนบานปลาย และต้องเลิกล้มการประชุม ซึ่งขอย้ำว่า ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม “เสื้อแดง-นปช.” ต้องพยายามคิดค้นหา “กลยุทธ์” ทุกวิถีทางในการ “ดิสเครดิต” รัฐบาลเพื่อส่งผลกระทบแก่ประเทศไทย
การที่จะจัดให้มีการประชุมกันในเดือนมิถุนายนนั้น “แสงแดด” คลางแคลงใจสงสัยอยู่แล้วว่า “ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง!” เนื่องด้วยระยะเวลาที่จะจัดนั้น “กระชั้นชิด” เกินไป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่า “เหตุการณ์พัทยาเดือด!” นั้น ยัง “ร้อนระอุ!” อยู่ จึงมั่นใจว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนมิถุนายนนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เท่านั้นยังไม่พอ บรรดา “กลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน” และ “ประเทศคู่เจรจา” น่าจะยังกังวลใจกับสถานการณ์การเมืองไทย แต่ยัง “ฝุ่นตลบ!” และ “คุกรุ่น” อยู่ จึงปฏิเสธแบบนุ่มนวลว่า “ยังไม่พร้อม!”
แต่จริงๆ แล้ว “แสงแดด” วิเคราะห์แบบเพ้อเจ้อว่า น่าจะเป็นเพราะผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และผู้นำประเทศคู่เจรจาคงจะออกอาการ “เล่นตัว!” ด้วยเช่นเดียวกัน แต่เลยเถิดมากไปกว่านั้น คือ “การสั่งสอน” ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพว่า “การประชุมระดับโลก” เช่นนี้ ถ้าเจ้าภาพไม่มั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็อย่าเพิ่งจัด ตลอดจน ไม่ใช่ว่าอยากนึกจะจัดก็จัดได้นั้น “ไม่น่าจะง่ายเช่นนั้น!”
เพราะฉะนั้น “แสงแดด” มั่นใจว่า “กลุ่มประเทศสมาชิกและประเทศคู่เจรจา” ต้องการ “ให้บทเรียน!” แก่ประเทศไทยว่า “ต้องรอบคอบ-ต้องมั่นใจ” จริงๆ ว่าสามารถจัดการประชุมได้ด้วยความปลอดภัย มิให้ซ้ำรอยเหมือนคราวที่พัทยา และที่สำคัญที่สุดคือ “การเชิญระดับผู้นำ” มาประชุมนั้น ต้องชัดเจนและ “เล่นตัว-ยาก!” กับการเดินทางมา พูดง่ายๆ “อยากสั่งสอน!” ประเทศไทย
เป็นที่น่าเสียดายว่า “การล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน” ที่พัทยานั้น เป็นเรื่องที่ “อับอายขายหน้า” ไปทั่วโลก และต้องขอประณาม “นปช.กลุ่มเสื้อแดง” ว่า “ทำลายชื่อเสียงประเทศชาติ” อย่างจงใจ ด้วยการชุมนุมประท้วงหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ยังไม่พอ แต่การบุกเข้าโรงแรมก็ “เลวร้าย” แบบสุดๆ แล้ว!
แต่ “สุดระยำ!” เลย คือ การเดินตรงรี่สู่ห้องประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้วยการยกโขยงจำนวนนับร้อยคน พร้อมมีดไม้ครบมือ จนกระทั่งผู้ติดตาม และแม้กระทั่งภริยาผู้นำหลายคนที่อยู่บริเวณล็อบบี้โรงแรมต่างตกใจและร้องไห้กันระงม!
ความพยายามของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ที่ต้องจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 6 ประเทศคู่เจรจา” อีกครั้งในเดือนตุลาคม 2552 นี้ ที่จังหวัดภูเก็ต จะเป็นการสรุปและปิดฉากของประเทศไทยในการเป็น “เจ้าภาพ” และนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็น “ประธานอาเซียน” แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “การสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น” ที่จะมีต่อประเทศไทย ที่เป็นการ “กอบกู้ชื่อเสียง” ประเทศชาติให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น คนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันเป็น “เจ้าภาพ” เพราะประเทศไทยเป็นของเราคนไทยทุกคนกับ “วาระการประชุมระดับเวทีโลก” เช่นนี้ เราคนไทยไม่ควรแบ่งแยก สร้าง “ความขายขี้หน้า!” ให้แก่สังคมโลก
ถ้ากลุ่มใด ใครก็ตามแต่ พยายาม “ทำร้าย-ทำลาย” ชื่อเสียงประเทศชาติ เพื่อสนองตัณหาส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง เราคนไทยทุกคนสมควรกัน “ร่วมประณาม” กลุ่มบุคคลที่นึกถึงตนเองมากกว่าชาติ ว่า “มิใช่คนไทย!” สมควรไล่ออกจากชาติบ้านเมืองนี้!