นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 13-14 มิ.ย.ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันพุธที่ 13 พ.ค.นี้ จะยังไม่มีการพิจารณา พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ ที่จะนำมาบังคับใช้ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ จ.ภูเก็ต เพราะต้องรอกระทรวงการต่างประเทศสรุปความคืบหน้าการตอบรับเข้าร่วมการประชุมจากผู้นำทั้ง 15 ประเทศ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ เบื้องต้นมีหลายประเทศติดปัญหากำหนดการประชุม เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ที่ติดการเลือกตั้ง หรือประเทศอินเดีย ที่ติดปัญหาการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวโน้มเลื่อนการประชุมตามที่ไทยได้เสนอ ส่วนกรณีที่มีผู้นำบางประเทศขอนำชุดรักษาความปลอดภัยพร้อมติดอาวุธมาด้วย เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาทุกประเทศก็มีชุดรักษาความปลอดภัยส่วนตัวมาด้วย แต่จะเป็นจำนวนเท่าใด ต้องตกลงอีกครั้ง
"หากจะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ จะต้องประกาศใช้ล่วงหน้าก่อนวันประชุมจริงเพื่อเตรียมการ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายอริสมัน พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่ม นปช.ขู่ว่า ถ้ารัฐบาลไม่จัดการคดีกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงิน ที่พัทยา ทางกลุ่มนปช.จะยกพลไปล้มการประชุมที่ภูเก็ตอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทั้งคดีคนเสื้อแดง และคนเสื้อน้ำเงินที่พัทยา กำลังเดินหน้า เชื่อว่าทุกฝ่ายคงไม่มีใครอยากเห็นการล้มการประชุมอาเซียนอีกรอบ เพราะจะทำให้ประเทศเสียหาย
เมื่อถามว่า ตั้งความหวังอย่างไรบ้างกับการประชุมครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางลงไปที่จ.ภูเก็ต ได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด และภาคเอกชน ดูว่ามีความต้องการให้การประชุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยประสบสำเร็จ และหวังมากด้วยว่าจะฟื้นการท่องเที่ยวเนื่องจากรายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยวกลุ่มอันดามัน เดือน พ.ค.-มิ.ย.ได้รับผลกระทบแรง คิดว่าจะช่วยได้ เพราะเป็นฤดูที่ขายได้เยอะ
ด้านนายเรวัตร อารีย์รอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ออกมาข่มขู่ว่าจะระดมคนเสื้อแดงไปประท้วงการจัดประชุมอาเซียนซัมมิต บวก 3 บวก 6 ที่ภูเก็ตว่า ขณะนี้คนภูเก็ตทุกสาขาอาชีพและทุกภาคส่วน มีความพร้อมในการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาคนภูเก็ตเห็นภาพเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง และป่วนการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา จ.ชลบุรี ต่างรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทำเหมือนไม่ใช่เป็นคนไทยด้วยกัน ทั้งที่ผลประโยชน์จากการประชุมสุดยอดดังกล่าวจะตกกับคนไทยทั้งชาติ และสมาชิกของกลุ่มประเทศอาเซียน และคู่สัญญาอีกรวมแล้วกว่าสองพันล้านคน
ดังนั้น ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 22 พ.คนี้ ชาวจ.ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงจะร่วมชุมนุมแสดงออกถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ที่บริเวณแหลมสะพานหิน เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาล และคนไทยทั้งชาติรับรู้ว่าจังหวัดภูเก็ตยินดีต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่จะมาร่วมประชุม นอกจากจะกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ ยังเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะส่งผลดีทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ให้กลับมาสู่ประเทศไทยเพราะ จ.ภูเก็ต มีแหล่งรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวเท่านั้น
ดังนั้นจึงขอเตือนผู้ที่คิดจะทำลายชาติบ้านเมืองที่จะมาป่วนงานประชุมดังกล่าว ขอให้แสดงออกความเห็นต่างทางการเมืองด้านอื่น เพราะขณะนี้รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้นำปัญหาการเมือง และการปฏิรูปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา2 ชุด จึงยืนยันว่าการจัดงานประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาแน่นอน ชาวภูเก็ตพร้อมจะร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ประเทศ
"หากจะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ จะต้องประกาศใช้ล่วงหน้าก่อนวันประชุมจริงเพื่อเตรียมการ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายอริสมัน พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่ม นปช.ขู่ว่า ถ้ารัฐบาลไม่จัดการคดีกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงิน ที่พัทยา ทางกลุ่มนปช.จะยกพลไปล้มการประชุมที่ภูเก็ตอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทั้งคดีคนเสื้อแดง และคนเสื้อน้ำเงินที่พัทยา กำลังเดินหน้า เชื่อว่าทุกฝ่ายคงไม่มีใครอยากเห็นการล้มการประชุมอาเซียนอีกรอบ เพราะจะทำให้ประเทศเสียหาย
เมื่อถามว่า ตั้งความหวังอย่างไรบ้างกับการประชุมครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางลงไปที่จ.ภูเก็ต ได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด และภาคเอกชน ดูว่ามีความต้องการให้การประชุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยประสบสำเร็จ และหวังมากด้วยว่าจะฟื้นการท่องเที่ยวเนื่องจากรายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยวกลุ่มอันดามัน เดือน พ.ค.-มิ.ย.ได้รับผลกระทบแรง คิดว่าจะช่วยได้ เพราะเป็นฤดูที่ขายได้เยอะ
ด้านนายเรวัตร อารีย์รอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ออกมาข่มขู่ว่าจะระดมคนเสื้อแดงไปประท้วงการจัดประชุมอาเซียนซัมมิต บวก 3 บวก 6 ที่ภูเก็ตว่า ขณะนี้คนภูเก็ตทุกสาขาอาชีพและทุกภาคส่วน มีความพร้อมในการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาคนภูเก็ตเห็นภาพเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง และป่วนการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา จ.ชลบุรี ต่างรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทำเหมือนไม่ใช่เป็นคนไทยด้วยกัน ทั้งที่ผลประโยชน์จากการประชุมสุดยอดดังกล่าวจะตกกับคนไทยทั้งชาติ และสมาชิกของกลุ่มประเทศอาเซียน และคู่สัญญาอีกรวมแล้วกว่าสองพันล้านคน
ดังนั้น ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 22 พ.คนี้ ชาวจ.ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงจะร่วมชุมนุมแสดงออกถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ที่บริเวณแหลมสะพานหิน เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาล และคนไทยทั้งชาติรับรู้ว่าจังหวัดภูเก็ตยินดีต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่จะมาร่วมประชุม นอกจากจะกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ ยังเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะส่งผลดีทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ให้กลับมาสู่ประเทศไทยเพราะ จ.ภูเก็ต มีแหล่งรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวเท่านั้น
ดังนั้นจึงขอเตือนผู้ที่คิดจะทำลายชาติบ้านเมืองที่จะมาป่วนงานประชุมดังกล่าว ขอให้แสดงออกความเห็นต่างทางการเมืองด้านอื่น เพราะขณะนี้รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้นำปัญหาการเมือง และการปฏิรูปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา2 ชุด จึงยืนยันว่าการจัดงานประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาแน่นอน ชาวภูเก็ตพร้อมจะร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ประเทศ
