xs
xsm
sm
md
lg

คนภูเก็ตร้อยละ68เห็นด้วย พธม.ตั้งพรรค ที่เหลือไม่เห็นด้วยไม่ค้าน-หนุนหากทำสิ่งถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรเชษฐ์ แก้วผลึก
ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จ.ภูเก็ต” ทำแบบถามความเห็นประชาชน 1 พันคน “พันธมิตรฯ ควรตั้งพรรคการเมืองหรือไม่” ร้อยละ 68 เห็นด้วย เหตุเบื่อปชป.-การเมืองน้ำเน่า ต้องการสร้างการเมืองใหม่ให้ชัดเจนด้วย ส.ส.คนของพันธมิตรฯ ที่แท้จริง ส่วนร้อยละ 32 ไม่เห็นด้วย แต่ไม่คัดค้าน เพราะมองภาคประชาชนสำคัญกว่า ขณะที่ความพร้อมริ้วขบวนที่จะร่วมงาน 25 พ.ค.นี้ เกือบ 100% เชื่อประทับใจแน่นอน

เมื่อคืนวันที่ 21 พฤษภาคม ที่สำนักงาน ASTV-ผู้จัดการรายวัน ศูนย์ข่าวภูเก็ต คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต รวมตัวประชุมหารือถึงการจัดริ้วขบวนของพันธมิตรฯ ภูเก็ต ที่จะร่วมในงาน “รำลึก 193 วัน และงานครบรอบ 1 ปี การรวมตัวของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” วันที่ 25 พฤษภาคม 2552 ณ สนามกีฬา เมนสเตเดียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กรุงเทพมหานคร

เตรียมขบวนล้อการเมืองร่วมงาน “รำลึก 193 วัน” พร้อม100%

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของพันธมิตรฯ ภูเก็ต จากการประชุมร่วมกันในกลุ่มพันธมิตรฯ ในแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน ประกอบด้วย จ.ภูเก็ต จ.ตรัง จ.พังงา จ.กระบี่ และ จ.ระนอง ที่ห้องประชุม สำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม2552 พันธมิตรฯ ภูเก็ต ได้รับมอบหมายให้มีกิจกรรมการแสดงร่วมในขบวนสำหรับงานวันที่ 25 พฤษภาคม คือ การล้อเลียนการเมือง หรือล้อระบอบทักษิณ ซึ่งขณะนี้การเตรียมความพร้อมทุกด้านเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวบุคคลที่จะมาสวมบทบาทเป็น นักโทษชายทักษิณ วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ และจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น

คณะทำงานของพันธมิตรฯ ภูเก็ต จะเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต ช่วงค่ำวันที่ 23 พฤษภาคม52 ส่วนกลุ่มของพลังมวลชน จะเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต ช่วงค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม 52 ถึงกรุงเทพมหานครช่วงเช้า เข้าร่วมงานได้ทันที เชื่อว่า ขบวนล้อเลียนการเมืองของพันธมิตรฯ ภูเก็ต ที่จะนำไปร่วมงานในครั้งนี้ จะสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงาน พี่น้องพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศอย่างแน่นอน

มติคนภูเก็ตร้อยละ 68 หนุน พธม.ตั้งพรรค

ส่วนความคิดเห็นเรื่องการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งคาดว่า จะมีการหารือกลุ่มพี่น้องชาวพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศที่จะเดินทางไปร่วมงานวันที่ 25 พฤษภาคม 52 น.ส.อาภารัตน์ กล่าวว่า จากการทำแบบสอบถามความคิดเห็นให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กะทู้ และ อ.ถลาง จำนวน 1,000 คน ด้วยคำถามที่ว่า “พันธมิตรฯ ควรตั้งพรรคการเมืองหรือไม่”

ทั้งนี้ ความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย จำนวน 680 คน หรือร้อยละ 68 ซึ่งหลายคนมีการให้ความเห็นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลที่พันธมิตรฯ ควรตั้งพรรคการเมือง เนื่องจากหากจะมีการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยในสภาก็ต้องมีการตั้งพรรคการเมือง และนำคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนดี และรักประเทศชาติเป็นที่ตั้งเข้าไปในสภา เพื่อคานอำนาจกลุ่มนักการเมืองในระบบการเมืองเก่า

อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมีการตั้งพรรคการเมือง ควรที่จะใช้ชื่ออื่น ไม่ใช่ชื่อ พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และสมาชิกอื่นที่มีแนวทำงานเพื่อชาติเหมือนกัน หรือการเมืองภาคประชาชนมีอิสระในการทำงาน การแสดงความคิดเห็น และอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสมากกว่าพรรคการเมือง และพรรคการเมืองที่เราฝันการเมืองใหม่ ต้องสร้างไปเรื่อย ๆ เป็นต้น

ร้อยละ 32 ไม่เห็นด้วยแต่ไม่ค้าน เหตุมองภาค ปชช.สำคัญ

ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยอีกจำนวน 320 คน หรือร้อยละ 32 เนื่องจากมองว่า การที่พันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง เพื่อส่งคนเข้าไปในสภา เพื่อคัดค้านเสียงของนักการเมืองของกลุ่มการเมืองเก่า ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน
กฤช เทพบำรุง
เพียงแต่ต้องการให้พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย เฝ้าจับตาการทำงานของนักการเมืองมากกว่า หากพบความไม่ชอบมาพากล หรือความไม่โปร่งใสการบริหารประเทศของกลุ่มก้อนทางการเมือง แล้วออกมารวมตัวต่อต้าน ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวบริสุทธิ์ เพราะเป็นพลังของกลุ่มประชาชนอย่างแท้จริง ที่ไม่มีการแอบแฝงทางการเมือง

ทั้งนี้ หากว่า พันธมิตรฯ เข้าไปในสภาแล้ว โอกาสที่จะออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนอีกก็จะเป็นไปได้ยาก แต่การที่พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมือง ก็มีเหตุผลที่เหมาะสม เนื่องจากพรรคการเมืองเดิมที่มีอยู่ไม่สามารถพึ่งพา หรือไว้ใจให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างเช่นในปัจจุบันได้เลย

เห็นด้วย พธม.ตั้งพรรค แต่ไม่ชอบการเมือง

นายสุรเชษฐ์ แก้วผลึก กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการที่พันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบการเมือง และมองว่า พันธมิตรฯ ควรรักษาสถานะความเป็นพันธมิตรฯ ที่ต้องคงไว้ด้านการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมืองในรูปแบบของการเคลื่อนไหวภาคประชาชนมากกว่าที่จะลงไปเล่นการเมืองในสภา

เปรียบเสมือนเรามีกรอบไว้สำหรับการต่อสู้ เฝ้าจับตาการทำงานของทุกรัฐบาล หากเห็นว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใด ประชาชน ประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด ก็สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ แต่หากว่า รัฐบาลชุดนั้นโกงกิน สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติบ้านเมือง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากฝีมือของนักการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องเป็นที่ตั้ง เราก็ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน

เมื่อวันหนึ่งการต่อสู้ของเราประสบความสำเร็จ สามารถขับไล่นักการเมืองโกงกินออกไปได้ เมื่อนั้นภารกิจการต่อสู้ของเราก็จบ ส่วนการต่อสู้ในระบบสภา ก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความเหมาะสม และจะช่วยสนับสนุน ให้กำลังใจการทำงานของบุคคลผู้นั้น แต่ถามว่า พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองเห็นด้วยหรือไม่ ตนเห็นด้วย เพียงแต่ไม่ชอบการเมืองเท่านั้น

เชื่อหาก พธม.ตั้งพรรคเข้าสู่สภาเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองได้แน่

ด้าน นายปลื้ม รอดแก้ว กล่าวว่า กรณีการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนเห็นด้วย เพราะโดยส่วนตัวมองว่า การต่อสู้กับระบบการเมืองเก่า กับอำนาจรัฐที่มีเงินเป็นกองหนุน ตลอด 193 วันที่ผ่านมาของพันธมิตรฯ ถึงจุดสูงสุดแล้ว เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองระบบเก่าได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ หากว่า ไม่เข้าไปต่อสู้ในสภา เพราะดูได้จากที่เราฝากความหวังไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีอยู่ในประเทศตอนนี้ ที่เป็นพรรคการเมืองน้ำดี แต่ก็ไม่ใช่ดีที่สุด แต่เป็นพรรคที่เราวางใจได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น แต่สิ่งต่าง ๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้นำรัฐบาลดำเนินการ ไม่มีความชัดเจนใด ๆ ทั้งสิ้น และมองว่า ไม่สามารถที่จะช่วยเปลี่ยนการเมืองเก่า ให้เป็นการเมืองใหม่อย่างที่พันธมิตรฯ ต้องการ เพราะยังมีการคานอำนาจกันเองอยู่ เพราะอำนาจการบริหารประเทศไม่ใช่อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์โดยเด็ดขาด การตั้งพรรคของพันธมิตรฯ จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของเรา หากต้องการสร้างการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นจริง แม้จะยอมรับว่า เสี่ยงก็ตาม

ฉะนั้น การจะดำเนินการใด ๆ เพื่อเอาผิดกับผู้ที่โกงกินชาติบ้านเมืองอย่างนักโทษชายทักษิณ และกลุ่มเสื้อแดงที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติจนย่อยยับจึงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นมองว่า การตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ เพื่อส่งตัวแทนเข้าไปมีสิทธิมีเสียงในสภา จึงเป็นวิถีทางเดียวที่สามารถทำได้ และอาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน

พร้อมหนุนพรรค พธม.เต็มที่ หากทำสิ่งถูกต้อง

ขณะที่ นายกฤช เทพบำรุง กล่าวว่า ตนไม่ขัดข้องข้องหากพันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ หากว่า ส.ส.ตัวแทนของพันธมิตรฯ ที่ได้รับเลือกเข้าไปอยู่ในสภา ใช้สิทธิ ใช้เสียง ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง

พันธมิตรฯ จะต้องแบ่งภาคให้ชัดเจนระหว่างภาคที่จะเข้าไปต่อสู้ในสภา กับภาคที่จะต่อสู้เคลื่อนไหวทางภาคประชาชน และภาคประชาชนของพันธมิตรฯ จะต้องเข้มแข็ง ชัดเจน เพื่อคอยคานอำนาจหากว่า นักการเมืองต่าง ๆ ยังคงเดินหน้าเพื่อทำร้ายประเทศชาติบ้านเมือง

“เราจะยังคงทำหน้าที่เฝ้าจับตาการทำงาน บริหารงานของนักการเมืองกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับคัดเลือก คัดสรรเข้าไปอยู่ในสภา และจะยังคงต่อสู้ คัดค้านอย่างต่อเนื่องหากว่า นักการเมืองเหล่านั้น ไม่สนใจประเทศ เอาประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ไม่เว้นแม้แต่ ส.ส.หรือพรรคพันธมิตรฯ ก็ตาม หากทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เราจะคัดค้านอำนาจของท่านอย่างเต็มที่ เพราะเราจะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น และพรรคพันธมิตรฯ ก็ต้องพร้อมที่จะให้ประชาชนตรวจสอบด้วย หากเข้าไปอยู่ในระบบสภาแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชน เคลือบแคลงใจ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่า มีพี่น้องจำนวนมากที่มีแนวคิดเช่นนี้” นายกฤช กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น