xs
xsm
sm
md
lg

1 เดือนคดีลอบสังหารสนธิคำตอบสุดท้ายจะมาเมื่อไหร่?(ตอนจบ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรณีเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมคนขับรถ และ ผู้ติดตามมาถึงวันนี้กว่า 1 เดือนผ่านมาแล้ว การคลี่คลายคดีมีลำดับความเป็นไปทีละก้าว และ ตอนนี้จะเป็นตอนต่อเนื่องจากเมื่อวันก่อนหน้านี้

วันที่สิบ (26 เม.ย.)
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ให้สัมภาษณ์ว่า การสืบสวนมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อรูปคดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ ในการสรุปวิถีกระสุนและทิศทางการยิงของคนร้าย
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผบก.พฐ. ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิถีกระสุน เข้าตรวจหาวิถีกระสุนภายในรถโดยสารประจำทาง ขสมก.สาย 53 ซึ่งขณะเกิดเหตุวิ่งสวนกับรถของ นายสนธิ เบื้องต้นพบรอยกระสุนปืนอาก้า บริเวณกระจกด้านหน้า และกระจกข้างคนขับ รวม 2 จุด คาดว่า กระสุนมาจากด้านขวา เข้าทางกระจกข้างไปทะลุกระจกด้านหน้า ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลกับผลการตรวจสอบรถยนต์ของ นายสนธิ และรถโดยสารประจำทางสาย 30 ที่ได้รับความเสียหายเช่นกัน คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถสรุปทิศทางการยิงได้
ข้อสังเกต : หลัง พล.ต.อ.ธานี พุ่งประเด็นสาเหตุการยิงนายสนธิไปที่ปมประเด็นการเมือง ตำรวจต่างปิดปากเงียบ ไม่มีใครกล้าให้ข่าว โดยเฉพาะชุดสืบสวนชุดใหญ่ต่างลงพื้นที่ควานหาเบาะแสคนร้ายกันหมด ซึ่งเชื่อว่าตำรวจน่าจะได้เค้าลางอะไรบางอย่างบ้างแล้ว

วันที่สิบเอ็ด (27 เม.ย.)
มีรายงานในวันนี้ว่า มีพยานผู้หนึ่งโทรศัพท์ไปแจ้งให้ชุดสืบสวน ว่า ก่อนจะเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสามเสน ก่อนถึงที่เกิดเหตุไม่มากนัก จากนั้นถูกรถกระบะ 2 คันขับปาดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และจำได้ว่า รถ 1 ใน 2 คันเป็นรถกระบะโตโยต้า จำทะเบียนได้เพียงว่า เป็นหมวดจังหวัดสระบุรี ในขณะที่อีกคันไม่สามารถจดจำได้ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับศูนย์สืบสวนดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว
ขณะที่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวเพียงว่า ยังไม่ได้พบกับ นายสนธิ ก่อนหน้านี้ ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ ดังนั้นจะไม่พูดแล้ว ถ้าพูดแล้วต้องได้เรื่อง ถ้าไม่ได้เรื่องไม่พูด แต่คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ความชัดเจนเรื่องการสอบสวน
ข้อสังเกต : มีความชัดเจนในเรื่องรถของคนร้ายมากขึ้น แต่ตำรวจยังปิดเงียบถึงความคืบหน้าของคดี

วันที่สิบสอง (28 เม.ย.)
ช่วงเช้า มีข่าวตำรวจลพบุรี จับกุมพ่อค้ายาบ้าได้พร้อมอาวุธปืนอาก้า และได้ส่งอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้มายังกองพิสูจน์หลักฐานในทันที กระทั่งเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรพล พินิชอบ ผบก.พฐ. จึงกล่าวยอมรับว่า เรื่องการส่งอาวุธปืนที่ต้องสงสัยในการนำมาใช้ก่อคดีนั้น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ได้ทำหนังสือเวียนส่งไปยังหน่วยงานของตำรวจเพื่อขอความร่วมมือในการขอให้หน่วยงานตำรวจที่ตรวจพบอาวุธต้องสงสัยที่ใช้ก่อคดียิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งมาตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานแล้วตั้งแต่ 2-3วันที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งมาตรวจแล้วจำนวน 3 ราย
ส่วนการติดตามพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีมีรายงานความคืบหน้าว่า ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อย่านเทเวศร์ ที่บันทึกภาพรถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงิน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งมีคนร้ายนั่งอยู่กระบะหลังไว้ได้ ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนว่าตรงกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์หรือไม่
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนอีกชุดลงพื้นที่ตรวจหารถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงินในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร พบว่ามีทั้งหมด 19 คัน และมีรถต้องสงสัย 1 คัน ซึ่งอยู่ในความครอบครองของสิบเอกรายหนึ่งใน จ.ราชบุรี ซึ่งยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดในการใช้รถในวันเกิดเหตุได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางทหารเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพัก และสอบปากคำ
ข้อสังเกต: เหตุการณ์ผ่านมาได้ 12 วันทั้งเรื่องอาวุธปืนและพาหนะของคนร้าย เริ่มมีความชัดเจนขึ้น ในขณะที่ตำรวจยังคงปิดปากเงียบ ไม่มีการแพร่งพรายให้สื่อรู้ระแคะระคายว่าลงพื้นที่ไหน ซึ่งต่างจากคดีอื่น ที่มักมีความคืบหน้าของคดีชัดเจนมากขึ้น

วันที่สิบสาม (29 เม.ย.)
พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผบก.พฐ.กล่าวว่า ตำรวจทุกพื้นที่ที่พบอาวุธปืนต้องสงสัยที่ใช้ในการก่อเหตุยิงนายสนธิ ได้ทยอยส่งมาตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับรอยกระสุนบนรถของนายสนธิที่ถูกยิงแล้ว ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.
ส่วนความคืบหน้าในการคลี่คลายคดี ปรากฏรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28-29 เม.ย.ไม่มีการประชุมใหญ่ชุดคลี่คลายคดี อันเนื่องมาจาก ชุดทำงานและสายสืบส่วนใหญ่ ถูกส่งลงไปยังพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เกือบครบชุด มีเพียงชุดสืบสวนชุดเดียวที่อยู่ในเขตนครบาล เพื่อเร่งคลี่คลายภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งจับภาพรถกระบะมาสด้าไว้ได้ ซึ่งล่าสุด มีรายงานว่า ชุดสืบสวนชุดนี้ ได้ข้อสรุปแล้วว่า รถกระบะมาสด้าคันดังกล่าว ใครเป็นเจ้าของผู้ครอบครอง และอยู่ระหว่างการสืบสวนในเชิงลึกต่อไปว่า เจ้าของผู้ครอบครองรถกระบะมาสด้าคันดังกล่าว รู้จักและมีความสนิทชิดเชื้อกับทหารคนใดหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ชุดคลี่คลายคดีชุดใหญ่ที่ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี นั้น สามารถรู้ตัวคนร้าย ทั้งคนรับงาน ทีมยิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมีสีแล้ว โดยรายงานข่าวระบุว่า แม้จะรู้ตัวทีมยิงแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าไม่น่าจะสามารถสาวถึงผู้บงการตัวใหญ่ได้ เนื่องจากการใช้ทีมงานให้ลงมือสังหารนายสนธิในครั้งนี้เป็นเพียงมือสมัครเล่น เพื่อจุดประสงค์ไม่ให้ต้องการสาวถึงผู้บงการตัวจริง
ข้อสังเกต : จิ๊กซอว์แต่ละตัว เริ่มถูกนำมาเชื่อมต่อกันโดยมีเค้าลางที่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้ กระทั่งมีข่าวการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน และผู้อยู่เบื้องหลัง

วันที่สิบสี่ (30 เม.ย.)
เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. เดินทางเข้าสอบปากคำนายสนธิที่บ้านพระอาทิตย์ โดย นายสนธิ กล่าวภายหลังให้ปากคำเสร็จว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.ธานี ได้นำพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ ซึ่งได้ให้การไปหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามคำให้การที่ปรากฏ และจะไม่ขอให้ปากคำใดๆ เพิ่มเติม เพราะมีความเชื่อมั่นและไว้ใจคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ ที่มี พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าทีม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางคดีอย่างไร และจะหาตัวผู้ต้องหาได้เมื่อไหร่ ตนไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคนใดไว้ ชุดสืบสวนไม่ว่าทีมใดก็ตามยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น โดยตอนนี้มีแต่พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น ส่วนเรื่องผู้บงการหรือผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้ให้คณะทำงานเร่งตรวจสอบ หลักฐานต่างๆ ตามจุดเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดต่างๆ ส่วนเรื่องกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้ให้ ผบช.น.ทำหนังสือ ประสานไปยังกองทัพบกแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะทราบผล
พล.ต.อ.ธานี กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในคณะทำงานได้พยายามเร่งคลี่คลายคดีกันอย่างเต็มที่ มีการส่งกำลังกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อหาข่าว แต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มใดเป็นพิเศษ
ข้อสังเกต : นายสนธิแสดงความมั่นใจในตัว พล.ต.อ.ธานี หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ ในขณะที่พล.ต.อ.ธานีเอง กล่าวยอมรับตามแนวทางการสืบสวนสอบสวน ที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวต่างๆมาโดยลำดับ ไม่ว่าเรื่องการตรวจสอบอาวุธปืนสงคราม หรือการส่งทีมงานลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวพัน ยกเว้นแต่ได้ปฏิเสธเรื่องการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

วันที่สิบเจ็ด (3 พ.ค.)
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาให้สัมภาษณ์เหตุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ประเด็นในการลอบสังหารครั้งนี้ แยกได้เป็น 2 มิติ คือ 1.การลอบสังหารในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ถือเป็นการคุกคามสื่อที่ไม่เคยมีมาก่อน และ 2.คือ ในฐานะแกนนำมวลชนที่ต่อสู้เรียกร้อง เพราะการกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประเด็นการลอบสังหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และเปรียบเสมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างว่าใครที่มีอำนาจ มีอาวุธในมือสามารถที่จะทำอะไรก็ได้
"คนร้ายที่ยิง ผมยืนยันชัดด้วยสายตาว่า ถูกยิงจากคนที่ถูกฝึก เพราะเป็นท่านั่งประทับยิง เป็นท่าที่ฝึกทางการทหาร ใช้รถจำนวน 4 คัน มีผู้ที่กระทำการประมาณ 10-16 คน เชื่อว่า การกระทำครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของผู้ที่มีอำนาจ และคนที่ลงมือ รู้เส้นทางเดินรถ มีรถจอดรอเป็นจุด แต่การยิงไม่ใช่มืออาชีพ แต่เป็นขบวนการล่าสังหาร เชื่อว่า เป็นฝีมือของทหารบางคน ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพ เชื่อว่ากองทัพไม่ทำเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้"

วันที่ ยี่สิบ ( 6พ.ค.)
หลังจากที่นายสนธิ ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก จากนั้นมาอีก 3 วัน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. จึงออกมากล่าวถึงรูปคดี ภายหลังการประชุมพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่ว โดยได้แสดงความมั่นใจว่า คดีนี้ จะต้องเสร็จก่อนที่ตัวเองจะเกษียณภายใน 4 เดือนข้างหน้า พร้อมทั้งย้ำว่า คดีมีความคืบหน้า แต่ปฏิเสธเรื่องสตรีผู้สูงศักดิ์ และไม่รู้เรื่องที่นายสนธิแฉว่ามี จ.ส.อ.เป็นมือยิงเอ็ม 79 ถล่มใส่ ขณะที่ยังไม่ได้รับคำยืนยันจากกองทัพว่ากระสุนปืน RTA มาจาก พล.ร.9 หรือไม่

วันที่ ยี่สิบเอ็ด (7 พ.ค.)
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงคดีเพียงว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปิดคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระดมกำลังทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเข้าคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ในทุกประเด็น แต่จะมีข่าวดีในเร็วๆนี้หรือไม่ต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ที่ตนเองมอบหมายให้เข้าไปควบคุมการสืบสวนสอบสวน

วันที่ ยี่สิบหก (12 พ.ค.)
พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกนาย ซึ่งประกอบด้วย กก.สส.น.1-9 และ ศูนย์สืบสวน บช.น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในการสืบสวน 2 ประเด็นหลักที่ได้มอบให้ไป
พล.ต.อ.ธานี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามงานที่สั่งการไป ซึ่งต้องรายงานภายใน 5 วัน และได้ครบกำหนดวันนี้ โดยงานที่มอบไปก็ทำได้เยอะมาก ในกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งที่เป็นวันหยุด โดยสั่งให้ไปดูพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เท่าที่มียังไม่สามารถโยงถึงใครได้กำลังรวบรวมอยู่ ต้องรอให้พยานหลักฐานที่สั่งการไปครบถ้วนสมบูรณ์ เสียก่อน ตอนนี้ยังขาดอีกหลายอย่างยังไม่ครบตามที่สั่งการไป ต้องใช้เวลา
"ขณะนี้ยังไม่มีการพาผู้ต้องสงสัยมาสอบ เพราะคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ทำตามขั้นตอน กระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีการทำนอกลู่นอกทาง ถ้าได้พยานหลักฐานชี้ชัดได้ก็จะมีข่าวดี ตอนนี้พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับคดียังไม่ครบถ้วน หลายอย่างยังไม่ได้ รวมถึงภาพแท็กซี่ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็ยังไม่ได้เลย ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไรต้องเอามาดูเพราะว่าใกล้เคียงในตอนเกิดเหตุ" พล.ต.อ.ธานี กล่าวและว่า แม้พยานหลักฐานยังได้ไม่ครบ แต่การสืบสวนสอบสวนก็น่าพอใจเพราะเดินมาได้เยอะแล้ว ขณะนี้ถือว่าคืบหน้า ไม่ตัน ส่วนชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้นก็คุยกันตลอด คืบหน้าไปพอสมควร โดยชุดสืบสวนทุกชุดแบ่งงานกันไปทำเพื่อให้ได้ข้อมูลรวดเร็ว ยืนยันว่าไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย

ข้อสังเกต : วันที่ 17 พ.ค.นี้ ถือเป็นวันครบรอบ 1 เดือนพอดิบพอดี สำหรับคดีลอบสังหารนายสนธิ ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ ถือเป็นคดีที่โด่งดังที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ในด้านการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในช่วงสัปดาห์แรก สื่อทุกสื่อยังคงเกาะติดสถานการณ์การคลี่คลายคดีของตำรวจ แต่ทว่า เมื่อกาลเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นว่า คดีลอบสังหารนายสนธิ ถือเป็นคดีที่เงียบที่สุด เงียบชนิดที่ไม่มีความคืบหน้า ไม่ปรากฏแม้เพียงเป็นข่าวสั้นของสื่อต่างๆ ซึ่งผิดกับคดีอาชญากรรมในลักษณะเดียวกันที่คนถูกลอบสังหารไม่ได้ชื่อ"สนธิ ลิ้มทองกุล"
จะอย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อมั่นในตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนที่ชื่อ"พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์" แม้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน พล.ต.อ.ธานี ก็จะเปิดหมวกอำลาชีวิตราชการแล้ว แต่เชื่อว่า สุดท้าย ตำรวจจะสามารถลากคออาชญากรและผู้ร่วมขบวนการลอบสังหารทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น