ASTVผู้จัดการรายวัน-"ธานี สมบูรณ์ทรัพย์"รอง ผบ.ตร.ประชุมคลี่คลายคดีลอบสังหาร“สนธิ ลิ้มทองกุล” ยันไม่มีตัน แต่ยอมรับหลักฐานที่รวบรวมได้ขณะนี้ ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงใครได้ เผยผลการสอบสวนสืบสวนเป็นที่น่าพอใจ แย้มหากพยานหลักฐานชัดกว่านี้ จะมีข่าวดี
วานนี้(12 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประชุมเร่งรัดคณะพนักงานสอบสวนคดีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยใช้เวลาประชุมหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามงานที่สั่งการไป ซึ่งต้องรายงานภายใน 5 วัน และได้ครบกำหนด โดยงานที่มอบหมายไปก็ทำได้เยอะมาก ในกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งที่เป็นวันหยุด โดยสั่งให้ไปดูเกี่ยวกับเรื่องของพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เท่าที่มียังไม่สามารถโยงไปถึงใครได้ และกำลังรวบรวมอยู่ โดยจะต้องรอให้พยานหลักฐานที่สั่งการไปครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน ตอนนี้ยังขาดอีกหลายอย่าง ยังไม่ครบตามที่สั่งการไป ต้องใช้เวลา
"ขณะนี้ยังไม่มีการพาผู้ต้องสงสัยมาสอบ เพราะคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ทำตามขั้นตอน กระบวนการของกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีการทำนอกลู่นอกทาง ถ้าได้พยานหลักฐานชี้ชัดได้ ก็จะมีข่าวดี ตอนนี้พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับคดียังไม่ครบถ้วน หลายอย่างยังไม่ได้ รวมถึงภาพแท็กซี่ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็ยังไม่ได้เลย ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องเอามาดูเพราะว่าใกล้เคียงในตอนเกิดเหตุ" พล.ต.อ.ธานีกล่าว
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่าแม้พยานหลักฐานยังได้ไม่ครบ แต่ทางการสืบสวนสอบสวนก็เป็นที่น่าพอใจเพราะเดินมาได้เยอะแล้ว ขณะนี้ถือว่าคืบหน้า ไม่ตัน ส่วนชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้นก็คุยกันตลอดเวลา โดยทราบว่าคืบหน้าไปพอสมควร โดยชุดสืบสวนทุกชุดแบ่งงานกันไปทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลรวดเร็ว ยืนยันว่าไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสอบสวนเจอตอบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ตออะไร ยังไม่รู้ตออะไร ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครมาบอก มาให้แนวทางอะไร เป็นหน้าที่ต้องทำก็ทำไป ทุกคนก็หวังจะมีข่าวดี แม้กระทั่งตำรวจที่ทำคดี เพราะระดมกำลังเยอะไม่มีหยุด รีบทำทุกอย่าง ขณะนี้สั่งให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยทุกกลุ่มที่เป็นประเด็นต้องตรวจสอบ จะให้น้ำหนักกลุ่มไหนต้องรอตรวจสอบก่อนว่าใช่หรือไม่ หากไม่ใช่ก็ตัดออก
เมื่อถามถึงคดีทุบรถนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทยว่า วันนั้นนายกรัฐมนตรีอยู่ในรถหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่เห็นจะเป็นประเด็นเลยจริงๆ ไม่ใช่ประเด็น นายกรัฐมนตรี จะอยู่ในรถหรือไม่ ให้รอดูที่สำนวนการสอบสวนจะบอกอย่างชัดเจนละเอียดอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาเถียงกัน
สั่งตำรวจวางตัวเป็นกลาง
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีหนังสือด่วนที่สุดที่ 0001/ (ผบ)/195 ลงวันที่ 7 พ.ค.52 เรื่องกำชับการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการตำรวจ ถึงรอง ผบ.ตร. จตช. ผู้ช่วยผบ.ตร. รองจตช. หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. ผบก.ในสังกัดสำนัก ผบ.ตร. โดยอ้างถึงหนังสือ ตร.ด่วนที่สุดที่ 0001/(ผบ)/195 ลงวันที่ 17 เม.ย. 52 กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยต่างๆ จากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มนปช. โดยในส่วนของการวางตัวเป็นกลางของการข้าราชการตำรวจให้ ผบช.ทุกหน่วยงานและ ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.ไปประชุมชี้แจงข้าราชการตำรวจในสังกัดตนเอง ให้วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญนั้น
เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง และอื่นๆ ร่วมกันยุติความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีในสังคมและความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการเร่งประชุมชี้แจงให้ข้าราชการตำรวจทุกนายวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ตามที่ ตร.ได้สั่งการไว้ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ค.52 และให้ทุกหน่วยรายงานผลการปฏิบัติพร้อมข้อมูลดำเนินการและภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องให้กับ ตร. กองพัฒนาการป้องกันและควบคุมอาชญากรรม (กพป.) ทราบภายในวันที่ 20 พ.ค.52 โดยให้ กพป.รวบรวมประมวลเสนอ ตร.เพื่อทราบโดยด่วน
วานนี้(12 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประชุมเร่งรัดคณะพนักงานสอบสวนคดีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยใช้เวลาประชุมหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามงานที่สั่งการไป ซึ่งต้องรายงานภายใน 5 วัน และได้ครบกำหนด โดยงานที่มอบหมายไปก็ทำได้เยอะมาก ในกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งที่เป็นวันหยุด โดยสั่งให้ไปดูเกี่ยวกับเรื่องของพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เท่าที่มียังไม่สามารถโยงไปถึงใครได้ และกำลังรวบรวมอยู่ โดยจะต้องรอให้พยานหลักฐานที่สั่งการไปครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน ตอนนี้ยังขาดอีกหลายอย่าง ยังไม่ครบตามที่สั่งการไป ต้องใช้เวลา
"ขณะนี้ยังไม่มีการพาผู้ต้องสงสัยมาสอบ เพราะคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ทำตามขั้นตอน กระบวนการของกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีการทำนอกลู่นอกทาง ถ้าได้พยานหลักฐานชี้ชัดได้ ก็จะมีข่าวดี ตอนนี้พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับคดียังไม่ครบถ้วน หลายอย่างยังไม่ได้ รวมถึงภาพแท็กซี่ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็ยังไม่ได้เลย ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องเอามาดูเพราะว่าใกล้เคียงในตอนเกิดเหตุ" พล.ต.อ.ธานีกล่าว
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่าแม้พยานหลักฐานยังได้ไม่ครบ แต่ทางการสืบสวนสอบสวนก็เป็นที่น่าพอใจเพราะเดินมาได้เยอะแล้ว ขณะนี้ถือว่าคืบหน้า ไม่ตัน ส่วนชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้นก็คุยกันตลอดเวลา โดยทราบว่าคืบหน้าไปพอสมควร โดยชุดสืบสวนทุกชุดแบ่งงานกันไปทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลรวดเร็ว ยืนยันว่าไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสอบสวนเจอตอบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ตออะไร ยังไม่รู้ตออะไร ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครมาบอก มาให้แนวทางอะไร เป็นหน้าที่ต้องทำก็ทำไป ทุกคนก็หวังจะมีข่าวดี แม้กระทั่งตำรวจที่ทำคดี เพราะระดมกำลังเยอะไม่มีหยุด รีบทำทุกอย่าง ขณะนี้สั่งให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยทุกกลุ่มที่เป็นประเด็นต้องตรวจสอบ จะให้น้ำหนักกลุ่มไหนต้องรอตรวจสอบก่อนว่าใช่หรือไม่ หากไม่ใช่ก็ตัดออก
เมื่อถามถึงคดีทุบรถนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทยว่า วันนั้นนายกรัฐมนตรีอยู่ในรถหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่เห็นจะเป็นประเด็นเลยจริงๆ ไม่ใช่ประเด็น นายกรัฐมนตรี จะอยู่ในรถหรือไม่ ให้รอดูที่สำนวนการสอบสวนจะบอกอย่างชัดเจนละเอียดอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาเถียงกัน
สั่งตำรวจวางตัวเป็นกลาง
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีหนังสือด่วนที่สุดที่ 0001/ (ผบ)/195 ลงวันที่ 7 พ.ค.52 เรื่องกำชับการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการตำรวจ ถึงรอง ผบ.ตร. จตช. ผู้ช่วยผบ.ตร. รองจตช. หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. ผบก.ในสังกัดสำนัก ผบ.ตร. โดยอ้างถึงหนังสือ ตร.ด่วนที่สุดที่ 0001/(ผบ)/195 ลงวันที่ 17 เม.ย. 52 กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยต่างๆ จากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มนปช. โดยในส่วนของการวางตัวเป็นกลางของการข้าราชการตำรวจให้ ผบช.ทุกหน่วยงานและ ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.ไปประชุมชี้แจงข้าราชการตำรวจในสังกัดตนเอง ให้วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญนั้น
เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง และอื่นๆ ร่วมกันยุติความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีในสังคมและความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการเร่งประชุมชี้แจงให้ข้าราชการตำรวจทุกนายวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ตามที่ ตร.ได้สั่งการไว้ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ค.52 และให้ทุกหน่วยรายงานผลการปฏิบัติพร้อมข้อมูลดำเนินการและภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องให้กับ ตร. กองพัฒนาการป้องกันและควบคุมอาชญากรรม (กพป.) ทราบภายในวันที่ 20 พ.ค.52 โดยให้ กพป.รวบรวมประมวลเสนอ ตร.เพื่อทราบโดยด่วน