xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” เปิดใจ คนสั่งยิง เป็นแค่ทหารเลว ไม่ใช่กองทัพ หวังข่มขู่สื่อ-แกนนำภาคประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“สนธิ” เชื่อ คนลอบสังหารเป็นกลุ่มคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี เป็นทหารบางคน ไม่ใช่กองทัพ เชื่อ กองทัพไม่ทำเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้ ยันไม่เชื่อบุคคลระดับสูงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร และพร้อมอโหสิคนสั่งการ เผย มือปืนยิง M79 ถล่มพันธมิตรฯ เป็นทหาร ยศ จ่าสิบเอก พร้อมส่งข้อมูลให้นายพลไม้บรรทัดเรียบร้อยแล้ว

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แถลงเปิดใจกรณีถูกลอบสังหาร

วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงเปิดใจกรณีถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ประเด็นในการลอบสังหารตนเองในครั้งนี้ แยกได้เป็น 2 มิติ คือ 1.การลอบสังหารในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ถือเป็นการคุกคามสื่อที่ไม่เคยมีมาก่อน และ 2.คือ ในฐานะแกนนำมวลชนที่ต่อสู้เรียกร้อง เพราะการกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประเด็นการลอบสังหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และเปรียบเสมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างว่าใครที่มีอำนาจ มีอาวุธในมือสามารถที่จะทำอะไรก็ได้

นายสนธิ กล่าวต่อว่า การลอบสังหารตนในครั้งนี้ ถือว่าหากสำเร็จจะสามารถล้มล้างรูปแบบที่ต่อสู้กันอย่างเปิดเผยจากภาคประชาชน เหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว และมีนัยทางอ้อม คือ การข่มขู่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หากฆ่า นายสนธิ ได้ ก็ฆ่า นายอภิสิทธิ์ ได้ การข่มขู่สื่อมวลชน ให้อยู่ภายใต้อำนาจ และการข่มขู่ขบวนการภาคประชาชน หากมีการเรียกร้องมากเกินความจำเป็นก็จะได้รับความตายไปแทน

“คนร้ายที่ยิง ตนยืนยันชัดด้วยสายตาว่าถูกยิงจากคนที่ถูกฝึก เพราะเป็นท่านั่งประทับยิง เป็นท่าที่ฝึกทางการทหาร ใช้รถจำนวน 4 คัน มีผู้ที่กระทำการประมาณ 10-16 คน เชื่อว่า การกระทำครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของผู้ที่มีอำนาจ และคนที่ลงมือรู้เส้นทางเดินรถ มีรถจอดรอเป็นจุด แต่การยิงไม่ใช่มืออาชีพ แต่เป็นขบวนการล่าสังหาร เชื่อว่า เป็นฝีมือของทหารบางคน ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพ เชื่อว่ากองทัพไม่ทำเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีคดีลอบสังหาร ทันทีที่เกิดขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเพียง นายกฯ อภิสิทธิ์ ที่เป็นห่วงเป็นใย ส่วนคนอื่นไม่ได้แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาว และยังแสดงอาการที่เรียกว่า ปฏิเสธที่มาของอาวุธสงคราม นอกจากไม่แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาวแล้ว ซึ่งประเด็นของผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นและหากมองการแสดงอาการของผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ น่าที่จะออกมารูปแบบของการประณามการกระทำเช่นนี้ และไม่น่าจะให้อภัยได้เลย เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น คนที่จะออกมาทำเรื่องเช่นนี้ได้ ต้องได้รับการหลิ่วตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ทำได้ แต่ผมยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนั้นเกิดขึ้นจากทหารเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง นอกนั้นแล้ว ไม่มีส่วนรับรู้หรือรู้เห็นเป็นใจ

อีกอย่างนอกจากปฏิเสธไม่มีส่วนรับรู้แล้ว ยังมีการเข้าสู้กระบวนการเริ่มปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธว่าอาวุธสงครามแบบนี้ใครๆ ก็หาซื้อได้ รวมไปถึงการปฏิเสธเรื่องปลอกกระสุนปืน มีการโยนกันไปโยนกันมา ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ กระทั่งมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพิ่งออกมาพูดเมื่อ3-4 วันที่ผ่านมานี้เองว่าหากมีทหารเกี่ยวข้องก็จะจัดการอย่างเด็ดขาด ทั้งๆ ที่เรื่องเช่นนี้น่าจะมีการพูดถึงตั้งแต่ วันแรกที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่พูดเลย

อีกประเด็นคือที่ว่าใครเป็นคนทำนั้น จะขอเสริมจากการสัมภาษณ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ว่า การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ขบวนการทำร้ายพันธมิตรฯเป็นขบวนการที่จะเอาชีวิต เป็นกระบวนการข่มขู่ต่อเนื่อง การยิง เอ็ม 79 เข้าใส่จนมีพันธมิตรเสียชีวิตไป 4 คน จนแหล่งข่าวของพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นทหารเปิดเผยว่า กลุ่มคนซึ่งยิง เอ็ม 79 เข้าในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และศาลรัฐธรรมนูญ นั้น เป็นกลุ่มคน คนเดียวกัน และเตรียมการที่จะยิงเข้าใสต่อไปอีก และมีการส่งข้อมูลไปยัง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าข้อมูลที่ได้เป็นความจริง และเตรียมดำเนินการจับกุม ซึ่งเป็นทหาร ยศ จ่าสิบเอก และข้อมูลนี้ถือเป็นข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบครั้งนี้ คือ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ตนคิดว่าไม่ใช่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ และขอสมมตินะว่า หากเป็นบุคคลเหล่านี้จริงก็ขออโหสิกรรม ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น









กำลังโหลดความคิดเห็น