ASTVผู้จัดการรายวัน- กพ.เปิดรับสมัครขรก.เข้าโครงการเออร์ลี่ รีไทร์ ปี53 วันที่16 มิ.ย.นี้ ให้สิทธิขรก.อายุ 50 ปีขึ้นไป หรือทำงาน 25 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ที่ติดแบกลิตส์ไม่รับเข้าโครงการ ผลตอบแทนที่ได้ 8-15 เท่าเงินเดือน แถมเว้นภาษี ส่วนการสอบบรรจุ ขรก.ปี 52 แห่สมัคร 5.1 หมื่น ผ่านทดสอบภาคข. 3 พัน
นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) สำนักงานก.พ. ได้ทำหนังสือแจ้งเวียน ที่ นร 1008.1/105 ไปยังส่วนราชการ ชี้แจงรายละเอียดมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ตลอดจนกำหนดการและขั้นตอน ในหลักการให้ดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (วันที่ 1 ต.ค.52)
ทั้งนี้ หากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอต่อ คปร. พิจารณาภายในวันที่ 15 พ.ค.52
ให้สิทธิขรก.อายุ50 ปีหรือทำงาน25ปีขึ้นไป
นายปรีชา กล่าว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ คือต้องเป็นข้าราชการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามมาตรการฯ (วันที่ 30 ก.ย. ) โดยครอบคลุมข้าราชการพลเรือนสามัญ และข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร และข้าราชการธุรการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
"ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องมีคุณสมบัติคือ ผู้ออกจากราชการจะต้องมีเวลาราชการเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามมาตรการฯ ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท"
นอกจากนี้ ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการ ไม่ว่ากรณีใดๆ ตามกฎหมาย และหากเป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการในการไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาศึกษาดังกล่าว และจะต้องยอมชดใช้เงินตามสัญญาผูกพัน ที่ได้ทำไว้กับราชการสำหรับเวลาที่ยังปฏิบัติราชการชดใช้ไม่ครบ
** เปิดรับสมัคร16-30 มิ.ย.นี้
เลขาธิการ ก.พ.กล่าวอีกว่า ผู้ที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการตามมาตรการฯดังกล่าว จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครจนถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการ โดยสำนักงานก.พ.จะเปิดให้ผู้สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการตามมาตรการฯ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ในระหว่างวันที่16-30 มิ.ย.52
"ส่วนราชการที่จะจัดให้มีมาตรการฯนี้ จะต้องพิจารณาทบทวนบทบาท ภารกิจ วิเคราะห์ และสำรวจอัตรากำลังของส่วนราชการ พร้อมทั้งจัดทำแผนดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังภาคราชการ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการฯนี้ก็คือ เพื่อให้กำลังคนภาครัฐ มีขนาด และคุณภาพที่เหมาะสม สอดคล้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่ และการใช้กำลังคนภาครัฐที่เป็นไปอย่างคุ้มค่า ประหยัด เต็มศักยภาพ และได้ประโยชน์สูงสุด"เลขาธิการ ก.พ. กล่าว
**ได้8-15 เท่าเงินเดือน แถมเว้นภาษี
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการฯนี้ จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ สิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือน รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) ตามเวลาราชการที่เหลือ(ปี) และสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินก้อนที่ได้รับตามมาตรการฯนี้ การยกเว้นภาษีในส่วนของเงินที่ได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รวมถึงการยกเว้นไม่ต้องชดใช้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติ กับเงินกู้ตามพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และโครงการเงินกู้ เพื่อที่อยู่อาศัย ธอส.-กบข.
**แห่สมัครบรรจุขรก. 5 หมื่น
ด้านนายนนทิกร กาญจนะจิตรา รองเลขาธิการก.พ. เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานก.พ. ได้ดำเนินการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในส่วนราชการต่างๆ ประจำปี 2552 ในภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) โดยมีผู้สมัครทั้งสิ้น 51,916 คน แบ่งเป็นตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ 5,668 คน เศรษฐกรปฏิบัติการ 1,162 คน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ 34,292 คน นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ 7,993 คน และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ 2,801 คน นั้น ผลปรากฏว่า มีผู้ผ่านการสอบแข่งขันฯ 3,608 คน แบ่งเป็นนิติกรปฏิบัติการ 601 คน เศรษฐกรปฏิบัติการ 113 คน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ 1,879 คน นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ 719 คน และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ296 คน
สำหรับการจัดสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง(ภาค ค.)นั้น จะมีขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ค.52 ที่สำนักงานก.พ. ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยแบ่งเป็นวันที่ 16 พ.ค. เป็นการสอบในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ และ วันที่ 17 พ.ค. เป็นการสอบในตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ เศรษฐกรปฏิบัติการ นักวิชาการเงิน และบัญชีปฏิบัติการ และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ น. โดยจะประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในวันที่ 26 พ.ค.52
นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) สำนักงานก.พ. ได้ทำหนังสือแจ้งเวียน ที่ นร 1008.1/105 ไปยังส่วนราชการ ชี้แจงรายละเอียดมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ตลอดจนกำหนดการและขั้นตอน ในหลักการให้ดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (วันที่ 1 ต.ค.52)
ทั้งนี้ หากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอต่อ คปร. พิจารณาภายในวันที่ 15 พ.ค.52
ให้สิทธิขรก.อายุ50 ปีหรือทำงาน25ปีขึ้นไป
นายปรีชา กล่าว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ คือต้องเป็นข้าราชการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามมาตรการฯ (วันที่ 30 ก.ย. ) โดยครอบคลุมข้าราชการพลเรือนสามัญ และข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร และข้าราชการธุรการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
"ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องมีคุณสมบัติคือ ผู้ออกจากราชการจะต้องมีเวลาราชการเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามมาตรการฯ ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท"
นอกจากนี้ ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการ ไม่ว่ากรณีใดๆ ตามกฎหมาย และหากเป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการในการไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาศึกษาดังกล่าว และจะต้องยอมชดใช้เงินตามสัญญาผูกพัน ที่ได้ทำไว้กับราชการสำหรับเวลาที่ยังปฏิบัติราชการชดใช้ไม่ครบ
** เปิดรับสมัคร16-30 มิ.ย.นี้
เลขาธิการ ก.พ.กล่าวอีกว่า ผู้ที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการตามมาตรการฯดังกล่าว จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครจนถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการ โดยสำนักงานก.พ.จะเปิดให้ผู้สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการตามมาตรการฯ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ในระหว่างวันที่16-30 มิ.ย.52
"ส่วนราชการที่จะจัดให้มีมาตรการฯนี้ จะต้องพิจารณาทบทวนบทบาท ภารกิจ วิเคราะห์ และสำรวจอัตรากำลังของส่วนราชการ พร้อมทั้งจัดทำแผนดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังภาคราชการ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการฯนี้ก็คือ เพื่อให้กำลังคนภาครัฐ มีขนาด และคุณภาพที่เหมาะสม สอดคล้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่ และการใช้กำลังคนภาครัฐที่เป็นไปอย่างคุ้มค่า ประหยัด เต็มศักยภาพ และได้ประโยชน์สูงสุด"เลขาธิการ ก.พ. กล่าว
**ได้8-15 เท่าเงินเดือน แถมเว้นภาษี
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการฯนี้ จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ สิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือน รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) ตามเวลาราชการที่เหลือ(ปี) และสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินก้อนที่ได้รับตามมาตรการฯนี้ การยกเว้นภาษีในส่วนของเงินที่ได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รวมถึงการยกเว้นไม่ต้องชดใช้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติ กับเงินกู้ตามพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และโครงการเงินกู้ เพื่อที่อยู่อาศัย ธอส.-กบข.
**แห่สมัครบรรจุขรก. 5 หมื่น
ด้านนายนนทิกร กาญจนะจิตรา รองเลขาธิการก.พ. เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานก.พ. ได้ดำเนินการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในส่วนราชการต่างๆ ประจำปี 2552 ในภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) โดยมีผู้สมัครทั้งสิ้น 51,916 คน แบ่งเป็นตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ 5,668 คน เศรษฐกรปฏิบัติการ 1,162 คน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ 34,292 คน นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ 7,993 คน และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ 2,801 คน นั้น ผลปรากฏว่า มีผู้ผ่านการสอบแข่งขันฯ 3,608 คน แบ่งเป็นนิติกรปฏิบัติการ 601 คน เศรษฐกรปฏิบัติการ 113 คน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ 1,879 คน นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ 719 คน และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ296 คน
สำหรับการจัดสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง(ภาค ค.)นั้น จะมีขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ค.52 ที่สำนักงานก.พ. ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยแบ่งเป็นวันที่ 16 พ.ค. เป็นการสอบในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ และ วันที่ 17 พ.ค. เป็นการสอบในตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ เศรษฐกรปฏิบัติการ นักวิชาการเงิน และบัญชีปฏิบัติการ และนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ น. โดยจะประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในวันที่ 26 พ.ค.52