ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วานนี้ (14 พ.ค.) ทันทีที่จะเข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย หลายคนได้ลุกขึ้นทักท้วงกรณีที่ประธานรัฐสภาได้ให้รัฐมนตรี เสนอกรอบการเจรจาต่างๆ พร้อมกันว่าไม่ถูกต้อง เพราะควรเสนอและพิจารณาทีละฉบับเนื่องจากแต่ละฉบับมีรายละเอียดคนละเรื่องกัน แต่นายชัยยังคงยืนยันว่าสามารถทำได้และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง พร้อมทั้งท้าให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำเนินการดังกล่าวได้
จากนั้นจึงขอนับองค์ประชุมก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระ ซึ่งระหว่างรอการนับองค์ประชุมนั้น นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ขออนุญาตประธานเดินตรวจการเสียบบัตรลงคะแนนของสมาชิกรอบห้องประชุมว่ามีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่เพราะเท่าทีดูเห็นว่า สมาชิกไม่น่าครบองค์ประชุม ทำให้นายชัย กล่าวสวนกลับไปว่า เป็นถึงครูบาอาจารย์ ขอให้มีมารยาทหน่อย ซึ่งนายสมคิด ตอบโต้ว่า คนที่ไม่มีมารยาทคือพวกที่ ชอบเสียบบัตรแทนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายสมคิดกล่าวจบ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นตะโกนด่า ไอ้ส...กูทนมึงมานานแล้ว และกวักมือเรียก ให้นายสมคิดซึ่งนั่งอยู่ในซีกของฝ่ายค้านให้ข้ามมาตรวจสอบการเสียบบัตรของตัวเองด้วย ซึ่งนายสมคิดก็เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมใช้คำพูดหยาบคายด่าตอบโต้กันไปมาลั่นห้องประชุม
ขณะเดียวกันนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่นั่งอยู่ใน ใกล้กับนายประมวลก็ลุกขึ้นปรี่เข้ามาชกและถีบนายสมคิดทันที ท่ามกลางส.ส. ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากต้องรีบลุกขึ้นมาห้ามปรามและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ด้านนายชัย ชิดชอบ เองก็พยามยามขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบและขอให้ทุกคนเสียบบัตรแสดงตนอีกครั้ง โดยนายสมคิด ที่เดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นกวักมือเรียกนายประมวลมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งพร้อมทั้งกล่าวว่า มาเลย ผมไม่กลัว ทำให้ประธานได้ขอร้องให้ทุกฝ่ายยุติ โดยกล่าวว่า ตนจะเรียกทั้งคู่มาหารือกันเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมเกือบเข้าสู่ความสงบ แต่ ส.ส.ฝ่ายค้านได้ทักท้วงนายชัยที่ได้พิจารณาผ่านร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเสียงของส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงทำให้มีการถกเถียงเรื่องข้อบังคับการประชุมว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ทำให้ นายชัยสั่งพักการประชุม 5 นาที และเมื่อเปิดการประชุมอีกครั้งได้ถกเถียงกันในเรื่องเดิม และในที่สุด ได้มีการลงมติเห็นชอบเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
จากนั้น นายสมคิด บาลไทสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนและนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุลมุนกลางห้องประชุมร่วมรัฐสภา โดยนายสมคิด กล่าวว่า ภายหลังที่ประธานสภาได้อนุญาตให้เดินตรวจการ เสียบบัตรลงมติว่ามีการลงคะแนนแทนกันหรือไม่ ปรากฏว่ามีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง ซึ่งตนจำชื่อไม่ได้ แต่จำหน้าได้ ได้กวักมือเรียกตนเข้าไปหา ตนก็นึกว่า ไม่มีอะไรจึงได้เดินเข้าไป แต่ปรากฏว่าพอใกล้ถึงกลับบอกว่า มึงมานี่ ตนจึงได้เดินเข้าไป เพราะไม่กลัวคำขู่ พอเข้าไปใกล้ ส.ส.คนดังกล่าว ก็ได้ตระโกนด่าว่า ไอ้สัตว์ กูทนมึงมานานแล้ว ตนจึงสวนกลับไปว่า กูนึกว่ามึงเป็นคน มึงเป็นสัตว์เหมือนกูหรอ
จากนั้น ส.ส.คนดังกล่าวได้พยายามกระโดดเข้ามาชกตนแต่ไม่ถึง เนื่องจาก มีสมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์กันไว้ ขณะนั้น นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี และนายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี เข้ามาร่วมผสมโรงจะเอาเรื่องตนด้วย แต่ก็ได้มีการ ห้ามปรามไว้จนเกิดเหตุชุลมุน ระหว่างนั้นตนก็ยืนดูว่า สมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์จะชกตนจริงหรือไม่ หากมีการชกจริง ตนก็จะไม่ตอบโต้ แต่จะยืนให้ชก
พฤติกรรมของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กลุ่มดังกล่าวได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ผมไม่เคยใส่ใจ ถึงขนาเคยด่าผมว่า ผมไปเห่าหอนในสภา ระหว่างที่มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเหตุการณ์สลาม็อบช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ด้านนายสุนัย กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ปฏิบัติตามระเบียบบังคับข้อประชุมรัฐสภา เมื่อสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงไม่ควรดำเนินการประชุมต่อ แต่ประธานอ้างว่ามีสมาชิกครบองค์ประชุม 311 เสียง แต่จากการลงมติลงคะแนนออกมากลับมีเพียง 307 เสียง เท่านั้น ดังนั้นเมื่อการเสียบบัตรนับองค์ประชุมใหม่ ก็เป็นสิทธิ์ของส.ส.สามารถทำได้ ในการเดิน ตรวจสมาชิกในการลงคะแนน เพื่อป้องกันการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องไปยังผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ให้ปราบลูกพรรค เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวให้เหมาะสม
ต่อมา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรค นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายยศศักดิ์ ชีววิญญู ส.ส.ราชบุรี และนายกำพล สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงเหตุการณ์ชุลมุนกลางห้องประชุมรัฐสภา เช่นกัน
โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามกล่าวหาบิดเบือนว่า โดยพยายามบิดเบือนว่ารัฐบาลเสนอญัตติซ้อนญัตติ โดยอ้างข้อบังคับข้อ 50 แต่ที่มีการประชุมครั้งนี้ใช้ข้อบังคับข้อ 47(4) จึงเป็นการกล่าวหาด้วยความเท็จ และฝ่ายค้านพยายามตีรวน ป่วนการประชุมร่วมรัฐสภามาโดยตลอด จนนำไปสู่ความวุ่นวาย
สำหรับเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในการประชุมสภาที่ผ่านมา เกิดจากการที่นาย สมคิด บาลไธสง มีความพยายามจะยั่วยุ ทั้งจากกิริยามารยาทและคำพูดว่ามีการกดบัตรแทนกันทั้งที่ไม่มีหลักฐาน และยังขอมาเดินตรวจ ทั้งที่หากพบว่ามีการกดบัตรแทนกันจริงก็จะต้องอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับที่นายสมคิดนั่งอยู่ แต่นี่กลับเดินย้อนหลังมากว่า 10 แถว และยังมีกิริยามารยาทที่หาเรื่อง จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าไม่มีส.ส.ของพรรคไปด่า นายสมคิด หรือแม้แต่ไปชกต่อยกันในห้องประชุมสภาก็ไม่มี แต่ภาพที่ออกไป อาจจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง แต่จริงๆ แล้วทุกคนพยายามห้ามเพื่อไม่ให้สภาอันทรงเกียรตินั้นต้องเสื่อมเสีย
นายกำพล สุภาแพ่ง กล่าวว่า ขณะที่นายสมคิดเดินมา ตนในฐานะที่เป็นครูด้วยกันมาก่อนและมีอาวุโสมากกว่า จึงได้กวักมือเรียกเพื่อจะมาพูดคุยกันเพื่อจะบอกว่าคนที่เคยเป็นครูควรจะมีมารยาท มีจริยธรรม แต่ไม่ได้ด่าอะไร และไม่ได้เข้าไปชกต่อยตามที่นายสมคิดกล่าวอ้างด้วย มีเพียงแต่นายสมคิดเท่านั้นที่พยายามจะยั่วยุตลอดเวลา
นายยศศักดิ์ ชีววิญญู กล่าวว่า ในระหว่างที่นายสมคิดเดินเข้ามายังที่นั่งสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลและได้พยายามเอาโทรศัพท์มือถือมาบันทึกการกดคะแนนแทนกัน และยืนในตำแหน่งใกล้กับที่นั่งของตนเอง ปรากฏว่าได้กลิ่นแอลกออล์ จากนายสมคิดอย่างชัดเจน จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่ามีการดื่มสุราก่อนเข้าห้องประชุมหรือไม่ และไม่ได้มีเจตนาที่จะตรวจสอบการกดบัตรแทนกัน แต่มาในลักษณะของคนที่มาหาเรื่องมากกว่า
นายสราวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนนั่งอยู่ข้างหลัง เห็นชัดเจนว่านายสมคิดเดินมาตามที่นายกำพลกวักมือเรียก แล้วตะโกนบอกว่า “มึงกับกูไปเจอกันข้างนอก” แต่นายกำพลเองก็ไม่ได้ด่าว่าอะไร นอกจากนี้อยากให้ ตรวจสอบว่าตอนที่นายสมคิดพูดจาอยู่ใกล้ๆตนนั้น ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่รู้ว่า มาจากไหน แต่อาจจะเป็นได้ว่ามีคนดื่มสุราเข้ามาก่อนการประชุม แล้วจึงมาป่วน ให้การประชุมเป็นไปอย่างไม่เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่นำนายอภิชาติ มาแถลงข่าวด้วย เพราะเห็นใน ภาพข่าวว่านายอภิชาติตรงเข้าไปจะชกนายสมคิด นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการชกต่อยกันโดนตัวแน่นอน ส่วนภาพที่เห็นอาจจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง เพราะความเป็นจริงแล้วนายอภิชาติอยู่ไกลจากนายสมคิดพอสมควร คงไม่สามารถ กระโดดไปชกต่อยได้
อย่างไรก็ตามอยากให้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่นายสมคิดอภิปรายในสภาและเดินเข้ามาหาเรื่องแบบคนที่เมาสุรา และขอให้ไปตรวจสอบภาพจากสภาได้ หากมีภาพ และเสียงก็จะรู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้เกิดจากจุดใด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการพูดจาและ ท่าทางของนายสมคิดทำให้ส.ส.หลายคนไม่พอใจ
จากนั้นจึงขอนับองค์ประชุมก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระ ซึ่งระหว่างรอการนับองค์ประชุมนั้น นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ขออนุญาตประธานเดินตรวจการเสียบบัตรลงคะแนนของสมาชิกรอบห้องประชุมว่ามีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่เพราะเท่าทีดูเห็นว่า สมาชิกไม่น่าครบองค์ประชุม ทำให้นายชัย กล่าวสวนกลับไปว่า เป็นถึงครูบาอาจารย์ ขอให้มีมารยาทหน่อย ซึ่งนายสมคิด ตอบโต้ว่า คนที่ไม่มีมารยาทคือพวกที่ ชอบเสียบบัตรแทนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายสมคิดกล่าวจบ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นตะโกนด่า ไอ้ส...กูทนมึงมานานแล้ว และกวักมือเรียก ให้นายสมคิดซึ่งนั่งอยู่ในซีกของฝ่ายค้านให้ข้ามมาตรวจสอบการเสียบบัตรของตัวเองด้วย ซึ่งนายสมคิดก็เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมใช้คำพูดหยาบคายด่าตอบโต้กันไปมาลั่นห้องประชุม
ขณะเดียวกันนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่นั่งอยู่ใน ใกล้กับนายประมวลก็ลุกขึ้นปรี่เข้ามาชกและถีบนายสมคิดทันที ท่ามกลางส.ส. ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากต้องรีบลุกขึ้นมาห้ามปรามและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ด้านนายชัย ชิดชอบ เองก็พยามยามขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบและขอให้ทุกคนเสียบบัตรแสดงตนอีกครั้ง โดยนายสมคิด ที่เดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นกวักมือเรียกนายประมวลมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งพร้อมทั้งกล่าวว่า มาเลย ผมไม่กลัว ทำให้ประธานได้ขอร้องให้ทุกฝ่ายยุติ โดยกล่าวว่า ตนจะเรียกทั้งคู่มาหารือกันเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมเกือบเข้าสู่ความสงบ แต่ ส.ส.ฝ่ายค้านได้ทักท้วงนายชัยที่ได้พิจารณาผ่านร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเสียงของส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงทำให้มีการถกเถียงเรื่องข้อบังคับการประชุมว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ทำให้ นายชัยสั่งพักการประชุม 5 นาที และเมื่อเปิดการประชุมอีกครั้งได้ถกเถียงกันในเรื่องเดิม และในที่สุด ได้มีการลงมติเห็นชอบเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
จากนั้น นายสมคิด บาลไทสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนและนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุลมุนกลางห้องประชุมร่วมรัฐสภา โดยนายสมคิด กล่าวว่า ภายหลังที่ประธานสภาได้อนุญาตให้เดินตรวจการ เสียบบัตรลงมติว่ามีการลงคะแนนแทนกันหรือไม่ ปรากฏว่ามีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง ซึ่งตนจำชื่อไม่ได้ แต่จำหน้าได้ ได้กวักมือเรียกตนเข้าไปหา ตนก็นึกว่า ไม่มีอะไรจึงได้เดินเข้าไป แต่ปรากฏว่าพอใกล้ถึงกลับบอกว่า มึงมานี่ ตนจึงได้เดินเข้าไป เพราะไม่กลัวคำขู่ พอเข้าไปใกล้ ส.ส.คนดังกล่าว ก็ได้ตระโกนด่าว่า ไอ้สัตว์ กูทนมึงมานานแล้ว ตนจึงสวนกลับไปว่า กูนึกว่ามึงเป็นคน มึงเป็นสัตว์เหมือนกูหรอ
จากนั้น ส.ส.คนดังกล่าวได้พยายามกระโดดเข้ามาชกตนแต่ไม่ถึง เนื่องจาก มีสมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์กันไว้ ขณะนั้น นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี และนายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี เข้ามาร่วมผสมโรงจะเอาเรื่องตนด้วย แต่ก็ได้มีการ ห้ามปรามไว้จนเกิดเหตุชุลมุน ระหว่างนั้นตนก็ยืนดูว่า สมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์จะชกตนจริงหรือไม่ หากมีการชกจริง ตนก็จะไม่ตอบโต้ แต่จะยืนให้ชก
พฤติกรรมของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กลุ่มดังกล่าวได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ผมไม่เคยใส่ใจ ถึงขนาเคยด่าผมว่า ผมไปเห่าหอนในสภา ระหว่างที่มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเหตุการณ์สลาม็อบช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ด้านนายสุนัย กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ปฏิบัติตามระเบียบบังคับข้อประชุมรัฐสภา เมื่อสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงไม่ควรดำเนินการประชุมต่อ แต่ประธานอ้างว่ามีสมาชิกครบองค์ประชุม 311 เสียง แต่จากการลงมติลงคะแนนออกมากลับมีเพียง 307 เสียง เท่านั้น ดังนั้นเมื่อการเสียบบัตรนับองค์ประชุมใหม่ ก็เป็นสิทธิ์ของส.ส.สามารถทำได้ ในการเดิน ตรวจสมาชิกในการลงคะแนน เพื่อป้องกันการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องไปยังผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ให้ปราบลูกพรรค เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวให้เหมาะสม
ต่อมา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรค นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายยศศักดิ์ ชีววิญญู ส.ส.ราชบุรี และนายกำพล สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงเหตุการณ์ชุลมุนกลางห้องประชุมรัฐสภา เช่นกัน
โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามกล่าวหาบิดเบือนว่า โดยพยายามบิดเบือนว่ารัฐบาลเสนอญัตติซ้อนญัตติ โดยอ้างข้อบังคับข้อ 50 แต่ที่มีการประชุมครั้งนี้ใช้ข้อบังคับข้อ 47(4) จึงเป็นการกล่าวหาด้วยความเท็จ และฝ่ายค้านพยายามตีรวน ป่วนการประชุมร่วมรัฐสภามาโดยตลอด จนนำไปสู่ความวุ่นวาย
สำหรับเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในการประชุมสภาที่ผ่านมา เกิดจากการที่นาย สมคิด บาลไธสง มีความพยายามจะยั่วยุ ทั้งจากกิริยามารยาทและคำพูดว่ามีการกดบัตรแทนกันทั้งที่ไม่มีหลักฐาน และยังขอมาเดินตรวจ ทั้งที่หากพบว่ามีการกดบัตรแทนกันจริงก็จะต้องอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับที่นายสมคิดนั่งอยู่ แต่นี่กลับเดินย้อนหลังมากว่า 10 แถว และยังมีกิริยามารยาทที่หาเรื่อง จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าไม่มีส.ส.ของพรรคไปด่า นายสมคิด หรือแม้แต่ไปชกต่อยกันในห้องประชุมสภาก็ไม่มี แต่ภาพที่ออกไป อาจจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง แต่จริงๆ แล้วทุกคนพยายามห้ามเพื่อไม่ให้สภาอันทรงเกียรตินั้นต้องเสื่อมเสีย
นายกำพล สุภาแพ่ง กล่าวว่า ขณะที่นายสมคิดเดินมา ตนในฐานะที่เป็นครูด้วยกันมาก่อนและมีอาวุโสมากกว่า จึงได้กวักมือเรียกเพื่อจะมาพูดคุยกันเพื่อจะบอกว่าคนที่เคยเป็นครูควรจะมีมารยาท มีจริยธรรม แต่ไม่ได้ด่าอะไร และไม่ได้เข้าไปชกต่อยตามที่นายสมคิดกล่าวอ้างด้วย มีเพียงแต่นายสมคิดเท่านั้นที่พยายามจะยั่วยุตลอดเวลา
นายยศศักดิ์ ชีววิญญู กล่าวว่า ในระหว่างที่นายสมคิดเดินเข้ามายังที่นั่งสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลและได้พยายามเอาโทรศัพท์มือถือมาบันทึกการกดคะแนนแทนกัน และยืนในตำแหน่งใกล้กับที่นั่งของตนเอง ปรากฏว่าได้กลิ่นแอลกออล์ จากนายสมคิดอย่างชัดเจน จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่ามีการดื่มสุราก่อนเข้าห้องประชุมหรือไม่ และไม่ได้มีเจตนาที่จะตรวจสอบการกดบัตรแทนกัน แต่มาในลักษณะของคนที่มาหาเรื่องมากกว่า
นายสราวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนนั่งอยู่ข้างหลัง เห็นชัดเจนว่านายสมคิดเดินมาตามที่นายกำพลกวักมือเรียก แล้วตะโกนบอกว่า “มึงกับกูไปเจอกันข้างนอก” แต่นายกำพลเองก็ไม่ได้ด่าว่าอะไร นอกจากนี้อยากให้ ตรวจสอบว่าตอนที่นายสมคิดพูดจาอยู่ใกล้ๆตนนั้น ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่รู้ว่า มาจากไหน แต่อาจจะเป็นได้ว่ามีคนดื่มสุราเข้ามาก่อนการประชุม แล้วจึงมาป่วน ให้การประชุมเป็นไปอย่างไม่เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่นำนายอภิชาติ มาแถลงข่าวด้วย เพราะเห็นใน ภาพข่าวว่านายอภิชาติตรงเข้าไปจะชกนายสมคิด นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการชกต่อยกันโดนตัวแน่นอน ส่วนภาพที่เห็นอาจจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง เพราะความเป็นจริงแล้วนายอภิชาติอยู่ไกลจากนายสมคิดพอสมควร คงไม่สามารถ กระโดดไปชกต่อยได้
อย่างไรก็ตามอยากให้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่นายสมคิดอภิปรายในสภาและเดินเข้ามาหาเรื่องแบบคนที่เมาสุรา และขอให้ไปตรวจสอบภาพจากสภาได้ หากมีภาพ และเสียงก็จะรู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้เกิดจากจุดใด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการพูดจาและ ท่าทางของนายสมคิดทำให้ส.ส.หลายคนไม่พอใจ