ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค”แปลกใจ"ไอ้ตู่" กล่าวหาไม่อยู่ในรถตอนถูกทุบที่กระทวงมหาดไทย บอกไม่มีความสามารถพอที่จะสร้างสถานการณ์ ตอกกลับใครกันที่ปราศรัยปลุกระดมให้ไล่ล่านายกฯ ทำร้ายคนอื่นยังสร้างเรื่องบิดเบือนอีก ระบุภาพหลักฐานชัด แต่ไม่อยากเปิดเดี๋ยวถูกครหาสร้างความเกลียดชัง "นิพนธ์" หน่ายพฤติกรรมถ่อย ยันมีพยานรู้เห็นทั้งสื่อไทย-เทศเป็นพัน ด้านโฆษกปชป. แฉแผนปฎิบัติการจรยุทธ์ของอดีตซ้ายเก่าแถบอีสานใต้ หวังล้มอำนาจรัฐ
จากกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่าเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นเพียงการจัดฉากเพื่อให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก่อความรุนแรง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในรถ และมีทหารปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงในการสร้างสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มีคนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็อยู่ในรถ หลายคนก็รู้ว่าตนอยู่ในรถ ก็แปลกใจว่า ทำไมนายจตุพรจึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่มีเหตุผลที่จะให้เวลาและสร้างความสับสนในเรื่องนี้ แต่อยากให้นักการเมืองทุกคนคิดถึงเรื่องที่จะเดินทางไปข้างหน้าว่า จะสร้างความปรองดองได้อย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีคณะกรรมการที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมที่จะมาประมวล ก็ไปใช้เวทีตรงนั้นจะดีที่สุด
**ถามใครปลุกระดมให้จับตัวนายกฯ
เมื่อถามว่า เป็นเพราะว่านายจุตพร ต้องการปลุกระดมเพื่อการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ที่วัดไผ่เขียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะไปห้ามไม่ได้ แต่ตนก็คิดว่า น่าจะตั้งคำถามความน่าเชื่อถือ เพราะถ้ามีการหยิบยกประเด็นที่คนเขาเห็นชัดๆว่า อะไรเกิดขึ้น และพยายามจะทำให้เป็นอย่างอื่น
"จะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ได้อย่างไร ในเมืองการปราศรัยบนเวที 2-3 วันก่อนหน้านั้น พูดถึงการที่จะจับตัวผม ผมคงไม่สามารถไปทำให้แกนนำพูดอย่างนั้นบนเวที แล้วมีการวางแผนไปที่พัทยาบ้าง มหาดไทยบ้าง ผมคงไม่มีความสามารถมีส่วนที่จะไปทำตรงนั้นได้เลย" นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่า คิดว่าทุกคนรู้ข้อเท็จจริงดี และเป็นเรื่องแปลก แทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบกับกลุ่มคนที่แสดงเจตนาไปทำร้ายคนอื่น กลับมากล่าวหาคนที่จะถูกทำร้าย เป็นเรื่องที่แปลกมาก
ส่วนที่นายจตุพร ระบุว่า ทหารสวมรอยใส่เสื้อแดงมาทุบรถนายกฯนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้อนว่า "สรุปว่าแกนนำสั่งทหารได้ใช่ไหมครับ แกนนำบนเวทีเป็นใครล่ะครับ ทุกคนก็เห็นอยู่ มีหมายจับอยู่ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า อย่าสร้างความสับสนเพิ่มเติม มาร่วมกันแก้ปัญหาดีกว่า"
**"ไอ้ตู่"หมดความน่าเชื่อถือนานแล้ว
เมื่อถามว่า การใช้ข้อมูลแบบนี้จะเป็นการยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าประชาชนคงจะมองเห็นความน่าเชื่อถือ และความไม่น่าเชื่อถือของคนมากกว่า เพราะข้อเท็จจริงมันชัดเจน พยานหลักฐานอะไรต่างๆ มีพร้อมหมดอยู่แล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปหยิบเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงกัน และความจริงมีพยานหลักฐานต่างๆพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากนำบางภาพขึ้นมา เพราะเดี๋ยวจะหาว่า สร้างความเกลียดชัง แต่ภาพบนเวที ที่พูดถึงการไล่ล่าตนมีอยู่แล้ว
**"นิพนธ์"ซัด"ไอ้ตู่"แหลทุกเรื่อง
นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงกรูเข้าทุบรถยนต์ของนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น มีนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งอยู่ภายในรถขณะนั้นด้วย ไม่ได้ทุบรถเปล่าตามที่นายจตุพรพยายามบิดเบือน เพราะมีสักขีพยานนับพันคน รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทย และต่างประเทศที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพก็ได้ชี้แจงต่อสังคมแล้ว แต่นายจตุพรก็ยังพยายามบิดเบือน
"ผมรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเรื่องที่นายจตุพร พูดนั้นไม่เป็นความจริง และไม่น่าจะจับมาเป็นประเด็น" นายนิพนธ์กล่าว
**ชี้แผนปั่นหัวคนเสื้อแดง
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงของนายจตุพร เพื่อเป็นการสร้างเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค. นี้ ที่ชุมชนวัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง
อีกทั้งข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลทำการจัดฉาก รวมถึงมีทหารสวมรอยใส่เสื้อสีแดงนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดฉาก ซึ่งสื่อมวลชน และประชานที่รับทราบข่าวสาร น่าจะเป็นพยานได้อย่างดี โดยตนได้ให้ฝ่ายข้อมูล ทำการรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อนำมายืนยันหักล้างข้อกล่าวหาของนายจตุพร และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ใครกันแน่พยายามบิดเบือนประเด็นความจริง แต่ เรื่องทหารสวมรอยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องเป็นหน้าที่การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะหาความจริงต่อไป
"ผมคิดว่านายสุพร อัตถาวงศ์ ที่เป็นแกนนำในการนำคนเสื้อแดงไปที่กระทรวงมหาดไทย น่าจะเป็นผู้รู้ดีที่สุด ก่อนหน้านี้แกนนำเสื้อแดง ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ได้แสดงอาการดีใจ ชื่นชม กับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารถอดเครื่องแบบ และใส่เสื้อแดงร่วมชุมนุม ซึ่งแกนนำถือว่า เป็นชัยชนะในการดึงมวลชนมาร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง" นายเทพไทกล่าว
**แฉแผนจรยุทธ์หวังล้มรัฐบาล
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น สอดรับกับการออกทีวี และออกใบปลิวขององค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ซึ่งพรรคมองว่าไม่ได้เป็นเพียงการจงใจโกหก เพื่อบิดเบือนความผิดของตนเอง แต่กำลังอยู่ในกระบวนการที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก โดยจะเป็นประเด็นหลักในการชุมนุม 10 พ.ค.นี้
"สิ่งที่สอดรับกับ นปช. คือการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมใหม่ ที่ประกอบด้วยกลุ่มองค์กรในอดีตที่ปฎิเสธแนวทางสันติวิธี มีการพูดถึงการจับอาวุธล้มอำนาจรัฐ การทำให้เกิดสภาวะเหมือน 3 จังหวัดภาคใต้ในพื้นที่ต่าง ๆรวมถึงกทม. ซึ่งสอดรับกับรายงานข่าว การฝึกปฎิบัติการจรยุทธเมืองอีสานตอนล่าง โดยอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยส่วนน้อยที่ปฎิเสธการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาชาติไทย ซึ่งการเคลื่อนไหวของนายจักรภพ ( เพ็ญแข) ที่พูดถึงการจัดกำลังใช้อาวุธต่อต้านรัฐบาลในต่างประเทศที่อ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวส่วนตัว แต่พรรคประชาธิปัตย์ ห่วงว่าจะมีการส่งเสริมให้เข้ามาสู่การเคลื่อนไหวในประเทศไทยด้วย รวมถึงการเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยเอง ที่แม้สมาชิกจะเข้าร่วมสมานฉันท์ แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยยังคงเดินทางสวนทางด้วยการจุดชนวนเหตุความขัดแย้ง ในเรื่องผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง มีเจตนาชัดเจน จะสร้างความเกลียดชังรัฐบาล และทหาร "นพ.บุรณัชย์กล่าว
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคระมัดระวังมากในการที่จะให้ข่าวในเชิงที่จะกระทบต่อไปในทางที่ดี แต่ว่า ก็รายงานมากกว่าหนึ่งแห่ง และในเบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นการฝึกที่ถูกกล่าวอ้างว่าใช้เป็นการ์ด นปช. แต่ก็มีการแทรกซึมเข้ามาใน กทม.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเป็นการทำงานของอดีตแนวร่วมส่วนน้อยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่นายกฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานคณะทำงานร่วมทำงานกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อให้โอกาสทุกคนพัฒนาประเทศชาติ แทนที่จะตกเป็นเครื่องมือของกระบวนการใต้ดิน
**มท.1ไม่ห่วงเสื้อแดงชุมนุม
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 10 พ.ค. ที่วัดไผ่เขียวว่า เป็นสิทธิที่จะแสดงออกทางประชาธิปไตย แต่ต้องไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ไม่รุนแรง จนทำให้เกิดสถานการณ์ไม่ปกติ เมื่อถามว่าจะมีการสั่งผู้ว่าฯให้ทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้ามีประชาชนมาร่วมชุมนุม ทางผู้ว่าแต่ละจังหวัดจะแจ้งมาที่ กระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่าจะยุติการชุมนุมเมื่อไร และเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ และมีประชาชนมาร่วมชุมนุมไม่มาก
เมื่อถามว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงเหมือนช่วงสงกรานต์หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็แน่นอนอยู่แล้วที่มีความพยายามที่จะปลุกระดม ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นการชุมนุมครั้งแรก ของกลุ่มเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ปกครองก็มีประสบการณ์อยู่แล้วในการรับมือ โดยใช้วิธีเดิมอย่างละมุนละม่อม
**คุยมีรูปที่อภิสิทธิ์หนีไปก่อน
วานนี้ ที่ ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเปิดแถลงข่าว โดยนายวีระ กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 10 พ.ค. ที่ วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง จะเริ่มขึ้นเวลา 16.00-24.00 น. รูปแบบจะมีเวทีปราศรัย ในหัวข้อ “ความจริงวันนี้ ใครทำร้ายประเทศไทย” เพื่อชี้ให้เห็นว่า ยังมีใครบางคนไม่ต้องการประชาธิปไตย มีการใช้กฎหมาย 2 มาาตรฐาน ซึ่งถือเป็นคนที่ทำร้ายประเทศไทยตัวจริง อย่างไรก็ตาม วันดังกล่าวจะไม่มีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ด้านนายจตุพร ยังคงยืนยันว่า ในเหตุการณ์ทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในรถ พร้อมทั้งอ้างว่า มีภาพยืนยันได้ว่า นายอภิสิทธิ์ ได้เปลี่ยนรถคันอื่น และออกไปก่อน โดยนักข่าวไม่ทราบ ซึ่งจะนำไปเปิดเผยในวันที่ 10 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีภาพที่ยืนยันขณะนายกฯ เปลี่ยนรถหรือไม่ นายจตุพรไม่ตอบ นายวีระ จึงชิงพูดตัดบทว่าให้ไปฟังในวันที่ 10 พ.ค.ก็แล้วกัน
จากกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่าเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นเพียงการจัดฉากเพื่อให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก่อความรุนแรง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในรถ และมีทหารปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงในการสร้างสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มีคนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็อยู่ในรถ หลายคนก็รู้ว่าตนอยู่ในรถ ก็แปลกใจว่า ทำไมนายจตุพรจึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่มีเหตุผลที่จะให้เวลาและสร้างความสับสนในเรื่องนี้ แต่อยากให้นักการเมืองทุกคนคิดถึงเรื่องที่จะเดินทางไปข้างหน้าว่า จะสร้างความปรองดองได้อย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีคณะกรรมการที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมที่จะมาประมวล ก็ไปใช้เวทีตรงนั้นจะดีที่สุด
**ถามใครปลุกระดมให้จับตัวนายกฯ
เมื่อถามว่า เป็นเพราะว่านายจุตพร ต้องการปลุกระดมเพื่อการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ที่วัดไผ่เขียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะไปห้ามไม่ได้ แต่ตนก็คิดว่า น่าจะตั้งคำถามความน่าเชื่อถือ เพราะถ้ามีการหยิบยกประเด็นที่คนเขาเห็นชัดๆว่า อะไรเกิดขึ้น และพยายามจะทำให้เป็นอย่างอื่น
"จะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ได้อย่างไร ในเมืองการปราศรัยบนเวที 2-3 วันก่อนหน้านั้น พูดถึงการที่จะจับตัวผม ผมคงไม่สามารถไปทำให้แกนนำพูดอย่างนั้นบนเวที แล้วมีการวางแผนไปที่พัทยาบ้าง มหาดไทยบ้าง ผมคงไม่มีความสามารถมีส่วนที่จะไปทำตรงนั้นได้เลย" นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่า คิดว่าทุกคนรู้ข้อเท็จจริงดี และเป็นเรื่องแปลก แทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบกับกลุ่มคนที่แสดงเจตนาไปทำร้ายคนอื่น กลับมากล่าวหาคนที่จะถูกทำร้าย เป็นเรื่องที่แปลกมาก
ส่วนที่นายจตุพร ระบุว่า ทหารสวมรอยใส่เสื้อแดงมาทุบรถนายกฯนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้อนว่า "สรุปว่าแกนนำสั่งทหารได้ใช่ไหมครับ แกนนำบนเวทีเป็นใครล่ะครับ ทุกคนก็เห็นอยู่ มีหมายจับอยู่ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า อย่าสร้างความสับสนเพิ่มเติม มาร่วมกันแก้ปัญหาดีกว่า"
**"ไอ้ตู่"หมดความน่าเชื่อถือนานแล้ว
เมื่อถามว่า การใช้ข้อมูลแบบนี้จะเป็นการยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าประชาชนคงจะมองเห็นความน่าเชื่อถือ และความไม่น่าเชื่อถือของคนมากกว่า เพราะข้อเท็จจริงมันชัดเจน พยานหลักฐานอะไรต่างๆ มีพร้อมหมดอยู่แล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปหยิบเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงกัน และความจริงมีพยานหลักฐานต่างๆพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากนำบางภาพขึ้นมา เพราะเดี๋ยวจะหาว่า สร้างความเกลียดชัง แต่ภาพบนเวที ที่พูดถึงการไล่ล่าตนมีอยู่แล้ว
**"นิพนธ์"ซัด"ไอ้ตู่"แหลทุกเรื่อง
นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงกรูเข้าทุบรถยนต์ของนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น มีนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งอยู่ภายในรถขณะนั้นด้วย ไม่ได้ทุบรถเปล่าตามที่นายจตุพรพยายามบิดเบือน เพราะมีสักขีพยานนับพันคน รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทย และต่างประเทศที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพก็ได้ชี้แจงต่อสังคมแล้ว แต่นายจตุพรก็ยังพยายามบิดเบือน
"ผมรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเรื่องที่นายจตุพร พูดนั้นไม่เป็นความจริง และไม่น่าจะจับมาเป็นประเด็น" นายนิพนธ์กล่าว
**ชี้แผนปั่นหัวคนเสื้อแดง
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงของนายจตุพร เพื่อเป็นการสร้างเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค. นี้ ที่ชุมชนวัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง
อีกทั้งข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลทำการจัดฉาก รวมถึงมีทหารสวมรอยใส่เสื้อสีแดงนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดฉาก ซึ่งสื่อมวลชน และประชานที่รับทราบข่าวสาร น่าจะเป็นพยานได้อย่างดี โดยตนได้ให้ฝ่ายข้อมูล ทำการรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อนำมายืนยันหักล้างข้อกล่าวหาของนายจตุพร และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ใครกันแน่พยายามบิดเบือนประเด็นความจริง แต่ เรื่องทหารสวมรอยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องเป็นหน้าที่การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะหาความจริงต่อไป
"ผมคิดว่านายสุพร อัตถาวงศ์ ที่เป็นแกนนำในการนำคนเสื้อแดงไปที่กระทรวงมหาดไทย น่าจะเป็นผู้รู้ดีที่สุด ก่อนหน้านี้แกนนำเสื้อแดง ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ได้แสดงอาการดีใจ ชื่นชม กับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารถอดเครื่องแบบ และใส่เสื้อแดงร่วมชุมนุม ซึ่งแกนนำถือว่า เป็นชัยชนะในการดึงมวลชนมาร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง" นายเทพไทกล่าว
**แฉแผนจรยุทธ์หวังล้มรัฐบาล
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น สอดรับกับการออกทีวี และออกใบปลิวขององค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ซึ่งพรรคมองว่าไม่ได้เป็นเพียงการจงใจโกหก เพื่อบิดเบือนความผิดของตนเอง แต่กำลังอยู่ในกระบวนการที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก โดยจะเป็นประเด็นหลักในการชุมนุม 10 พ.ค.นี้
"สิ่งที่สอดรับกับ นปช. คือการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมใหม่ ที่ประกอบด้วยกลุ่มองค์กรในอดีตที่ปฎิเสธแนวทางสันติวิธี มีการพูดถึงการจับอาวุธล้มอำนาจรัฐ การทำให้เกิดสภาวะเหมือน 3 จังหวัดภาคใต้ในพื้นที่ต่าง ๆรวมถึงกทม. ซึ่งสอดรับกับรายงานข่าว การฝึกปฎิบัติการจรยุทธเมืองอีสานตอนล่าง โดยอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยส่วนน้อยที่ปฎิเสธการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาชาติไทย ซึ่งการเคลื่อนไหวของนายจักรภพ ( เพ็ญแข) ที่พูดถึงการจัดกำลังใช้อาวุธต่อต้านรัฐบาลในต่างประเทศที่อ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวส่วนตัว แต่พรรคประชาธิปัตย์ ห่วงว่าจะมีการส่งเสริมให้เข้ามาสู่การเคลื่อนไหวในประเทศไทยด้วย รวมถึงการเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยเอง ที่แม้สมาชิกจะเข้าร่วมสมานฉันท์ แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยยังคงเดินทางสวนทางด้วยการจุดชนวนเหตุความขัดแย้ง ในเรื่องผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง มีเจตนาชัดเจน จะสร้างความเกลียดชังรัฐบาล และทหาร "นพ.บุรณัชย์กล่าว
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคระมัดระวังมากในการที่จะให้ข่าวในเชิงที่จะกระทบต่อไปในทางที่ดี แต่ว่า ก็รายงานมากกว่าหนึ่งแห่ง และในเบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นการฝึกที่ถูกกล่าวอ้างว่าใช้เป็นการ์ด นปช. แต่ก็มีการแทรกซึมเข้ามาใน กทม.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเป็นการทำงานของอดีตแนวร่วมส่วนน้อยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่นายกฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานคณะทำงานร่วมทำงานกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อให้โอกาสทุกคนพัฒนาประเทศชาติ แทนที่จะตกเป็นเครื่องมือของกระบวนการใต้ดิน
**มท.1ไม่ห่วงเสื้อแดงชุมนุม
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 10 พ.ค. ที่วัดไผ่เขียวว่า เป็นสิทธิที่จะแสดงออกทางประชาธิปไตย แต่ต้องไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ไม่รุนแรง จนทำให้เกิดสถานการณ์ไม่ปกติ เมื่อถามว่าจะมีการสั่งผู้ว่าฯให้ทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้ามีประชาชนมาร่วมชุมนุม ทางผู้ว่าแต่ละจังหวัดจะแจ้งมาที่ กระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่าจะยุติการชุมนุมเมื่อไร และเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ และมีประชาชนมาร่วมชุมนุมไม่มาก
เมื่อถามว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงเหมือนช่วงสงกรานต์หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็แน่นอนอยู่แล้วที่มีความพยายามที่จะปลุกระดม ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นการชุมนุมครั้งแรก ของกลุ่มเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ปกครองก็มีประสบการณ์อยู่แล้วในการรับมือ โดยใช้วิธีเดิมอย่างละมุนละม่อม
**คุยมีรูปที่อภิสิทธิ์หนีไปก่อน
วานนี้ ที่ ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเปิดแถลงข่าว โดยนายวีระ กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 10 พ.ค. ที่ วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง จะเริ่มขึ้นเวลา 16.00-24.00 น. รูปแบบจะมีเวทีปราศรัย ในหัวข้อ “ความจริงวันนี้ ใครทำร้ายประเทศไทย” เพื่อชี้ให้เห็นว่า ยังมีใครบางคนไม่ต้องการประชาธิปไตย มีการใช้กฎหมาย 2 มาาตรฐาน ซึ่งถือเป็นคนที่ทำร้ายประเทศไทยตัวจริง อย่างไรก็ตาม วันดังกล่าวจะไม่มีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ด้านนายจตุพร ยังคงยืนยันว่า ในเหตุการณ์ทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในรถ พร้อมทั้งอ้างว่า มีภาพยืนยันได้ว่า นายอภิสิทธิ์ ได้เปลี่ยนรถคันอื่น และออกไปก่อน โดยนักข่าวไม่ทราบ ซึ่งจะนำไปเปิดเผยในวันที่ 10 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีภาพที่ยืนยันขณะนายกฯ เปลี่ยนรถหรือไม่ นายจตุพรไม่ตอบ นายวีระ จึงชิงพูดตัดบทว่าให้ไปฟังในวันที่ 10 พ.ค.ก็แล้วกัน
