xs
xsm
sm
md
lg

เขมรกร่างรุกปราสาทตาเมือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรินทร์ - เขมรได้ใจรุกชายแดนไทยรอบด้านเผยบิ๊กทหารกัมพูชานำกำลังอาวุธครบมือกว่า 50 นายบุกขอเข้าชม “ปราสาทตาเมือน” ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านสุรินทร์ แต่ถูกทหารพรานไทยขวางไม่อนุญาติให้เข้า หวั่นกัมพูชาฉวยโอกาสวางกำลังยึด “ปราสาทตาเมือน” เกิดปัญหาซ้ำรอย “เขาพระวิหาร” จนทหารกัมพูชาต้องถอยร่นกลับไป ขณะที่“หมัก-หุ่นเชิด”ในฐานะ รมว.กลาโหมไม่ยอมลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจทหารไทยที่ตรึงกำลังเขาพระวิหาร สั่ง มทภ.2 นำของฝากไปมอบให้แทน แฉเขมรตุกติกส่งทหารปลอมตัวเป็นพระ 70 คนเข้าจำพรรษาในสำนักสงฆ์ที่ตั้งในเขตพื้นที่ทับซ้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 2 ส.ค.ที่บริเวณปราสาทตาเมือน ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้มีกำลังทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธสงครามครบมือ นำโดย พล.ต.โบ เฮง รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา, พ.อ.เนียะ วงศ์ รองผู้บังคับกองพันที่ 402 ทหารชายแดนกัมพูชา และสื่อมวลชนชาวกัมพูชา ได้มายังบริเวณทางขึ้นปราสาทตาเมือน และพบกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทย สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 9026 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2

พล.ต.โป เฮง ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทยเพื่อที่จะนำกำลังทหารกัมพูชาเข้าไปชมปราสาทตาเมือน แต่ทหารพรานของไทยไม่อนุญาตให้เข้ามายังปราสาทตาเมือน ซึ่งการเจรจาของทหารพรานไทยและทหารกัมพูชาเป็นไปด้วยดี ไม่ได้มีการแสดงออกถึงการใช้กำลัง แต่ก็ทำให้ พล.ต.โป เฮง ถึงกับอารมณ์เสีย เนื่องจากตั้งใจจะเข้ามาที่ปราสาทตาเมือน ให้ได้จึงทำให้ทหารกัมพูชา ผิดหวังอย่างมาก

พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรม ผู้บังคับการกรมหารพรานที่ 26 ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่ปราสาทตาเมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทางทหารพรานของไทยได้ชี้แจงให้รองแม่ทัพทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากันของทหารไทยและทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาวิหารด้าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้แม้จะอยู่กันด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน แต่การแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีข้อยุติ เราจึงขอให้ทหารกัมพูชาที่จะเดินทางมาเพื่อชมปราสาทตาเมือน อย่าได้เข้ามาในช่วงนี้ เพราะเหตุการณ์ที่ปราสาทพระวิหาร ยังไม่ได้ข้อยุติหากมีข้อยุติเป็นที่ยอมรับทั้งสองประเทศแล้วก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนได้
 
"ปราสาทตาเมือน เป็นโบราณสถานตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน หากให้ทหารกัมพูชาเข้ามาอาจมีการวางกำลังปัก หลักอยู่ที่ปราสาทตาเมือนทำให้มีปัญหาเหมือนกับปราสาทพระวิหาร ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากในการเจรจา เพราะไทยและกัมพูชาต่างยึดถือแผ่นที่คนละฉบับ แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายทหารกัมพูชาก็เข้าใจไม่ได้ใช้กำลังบุกเข้ามาที่ปราสาทตาเมือน แต่อย่างใด จึงได้นำกำลังพร้อมคณะสื่อมวลชนถอยกลับเข้าไปยังเขตแดนของประเทศกัมพูชา"

พ.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเฝ้าระวังพื้นที่ปราสาทตาเมือนของฝ่ายไทย ต่อจากนี้ไปก็จะต้องเข้มข้นขึ้นและต้องเพิ่มกำลังทหารเข้ามาดูแลให้มากขึ้นเพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการวางแผนเตรียมการไว้หมดแล้วในการรักษาอธิปไตยของไทยอย่างดีที่สุด

อนึ่ง “ปราสาทตาเมือน” เป็นกลุ่มปราสาทหินโบราณที่มีความสำคัญและขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของ จ.สุรินทร์ และประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ “ปราสาทตาเมือน” ถือว่าเป็นปราสาทหินที่เชื่อมโยงเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณระหว่างปราสาทนครวัด-นครธม กัมพูชา กับปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา

ขณะที่บ่ายวานนี้ (3 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนนำเอาของฝาก ประกอบด้วยผลไม้และขนมนมเนยหลายชนิด และมีกระดาษอยู่ด้านในถุงพิมพ์ข้อความว่า “ของฝากจาก รมว.กห.” รวมประมาณ 1,000 ถุงมามอบให้แก่ผู้บังคับหน่วยทหาร จากหลายหน่วยที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชาที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

โดยมี พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้การต้อนรับพร้อมนำ ผบ.หน่วยทหารมารับมอบของฝากดังกล่าวเพื่อนำเอาไปแจกจ่ายให้กับทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหาร

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงทางทหารเผยถึงการปรับกำลังของทหารในพื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชาว่า วันอังคารนี้ (5 ส.ค.)ทางกระทรวงการต่างประเทศจะนำเรื่องการปรับกำลังพลของทหารที่ไปตรึงกำลังอยู่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนให้ ครม.อนุมัติ เพราะถ้าหากไม่ผ่าน ครม.อาจจะมีปัญหาได้ว่าทหารไปปรับกำลังเอง อาจทำให้ทหารถูกฟ้องศาลในมาตรา 190 ได้

ดังนั้น การปรับลดกำลังจึงต้องรอ ครม.อนุมัติ ทั้งที่ปกติทหารสามารถทำได้เอง แต่ตอนนี้ทำอะไรต้องมีคนมารองรับการทำงาน ยิ่งที่ผ่านมาเจ้ากรมแผนที่ทหารถูกฟ้องร้อง ทำให้ข้าราชการในกองทัพต่างไม่มีใครอยากจะยุ่งเรื่องนี้มากนัก เพราะกลัวจะถูกฟ้อง แล้วเราก็ต้องรับผิดชอบเอง ขนาดเงินค่าทนายยังต้องไปหามากันเอง เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำอะไรมาก

“แนวทางการปรับกำลังของเราคือหากเขาปรับเท่าไหร่เราก็จะปรับให้เท่ากัน ส่วนที่กลัวว่าเราจะเสียเปรียบคงไม่มี เพราะทำอะไรต้องทำให้เท่ากัน ถ้าเขาไม่ปรับเราก็ไม่ปรับ นอกจากนี้กัมพูชาก็ใช้กลลวง คือการให้ทหารไปบวชเป็นพระแล้วเอาเข้าไปจำวัด ดีว่าเรามีหลักฐานชี้ชัดว่าเดิมมีพระที่พักในสำนักสงค์ดังกล่าวแค่ 4 รูป แต่ตอนนี้ปาเข้าไป 70 คน แต่ละคนกล้ามใหญ่ๆกันทั้งนั้น อย่างนี้จะเป็นพระได้อย่างไร ดังนั้น หากจะปรับกำลังเขาก็ต้องเอาออกไปด้วย ถ้าไม่เอาออกเราก็ไม่ปรับกำลังออกเช่นกัน กำลังทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องเท่ากันอย่ามาเล่นตุกติกกับเรา ” แหล่งข่าว กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น