xs
xsm
sm
md
lg

ประธานเฟดยันศก.USจะฟื้นตัวปลายปีนี้แต่ระบบการเงินยังอ่อนแอ-ว่างงานยังสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เบน เบอร์นันกี กล่าวเมื่อวันอังคาร (5) ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวภายในปีนี้ แต่ก็เตือนด้วยว่าอาจจะมีคนตกงานอีกมหาศาล และระบบการเงินของประเทศก็ยังคงเปราะบางอยู่มาก

“เรายังคงคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะลงต่ำถึงที่สุด และก็ฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้” เบอร์นันกีกล่าวต่อคณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายเศรษฐกิจของทั้งสองสภาสหรัฐฯ

เขาบอกว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เขาออกมาคาดการณ์เช่นนี้ก็คือ ตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นศูนย์กลางของวิกฤตการเงินของสหรัฐฯและของโลกระลอกนี้ รวมทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภค ต่างเริ่มจะมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว

ข้อมูลเมื่อเร็ว ๆนี้ทำให้เห็นว่าการหดตัวของเศรษฐกิจน่าจะกำลังชะลอลง นอกจากนี้ “มีสัญญาณบ่งบอกบางประการว่า อุปสงค์สุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสงค์ของภาคครัวเรือน น่าจะกำลังเข้าสู่ความมีเสถียรภาพเช่นกัน” ประธานเฟดระบุ

แม้ว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกในตลาดการเงินในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เบอร์นันกีก็ยังชี้ว่า สถาบันการเงินต่าง ๆ “ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันสูง”

เขาชี้ว่าการร่วงลงของราคาสินทรัพย์ สภาพคล่องที่ยังไม่กลับคืนมา และการที่ยังมีความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงกันอยู่มาก ยังคงเป็นตัวหน่วงเหนี่ยวเศรษฐกิจของประเทศอยู่

“สภาพการณ์ที่ยังไม่ดีขึ้นของตลาดการเงินจะดึงรั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจเอาไว้ รวมทั้งอาจจะทำให้การฟื้นตัวล่าช้า” เขาเตือนก่อนหน้าที่เฟดและหน่วยงานกำกับตรวจสอบภาคธนาคาร มีกำหนดจะมีการประกาศผลการตรวจสอบความแข็งแกร่งของธนาคารใหญ่ 19 แห่งในเย็นวันนี้(7)

สื่อในสหรัฐฯรายงานเมื่อวันอังคาร(5)ว่า ผลการตรวจสอบจะออกมาว่า ธนาคาร 10 ใน 19 แห่งเหล่านี้ อาจจะต้องเพิ่มทุนเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของตนเอง และก็มีการเอ่ยชื่อธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง เวลส์ ฟาร์โก, แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิติกรุ๊ปออกมา

แม้ว่าสมาชิกรัฐสภารายหนึ่งพยายามบีบให้เบอร์นันกีเผยผลการตรวจสอบธนาคารออกมา เขาก็ปฏิเสธและกล่าวเพียงว่า ธนาคารสหรัฐฯหลายแห่งซึ่งกำลังต้องการทุนเพิ่มเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดต่อไปได้นั้น จะสามารถทำเช่นนั้นในตลาด โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาล

ผลการตรวจสอบธนาคารคราวนี้ หวังกันว่าจะทำให้ความคลุมเครือทั้งหมดในตลาดจางหายไป โดยตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศว่า จะปรับโครงสร้างของระบบการเงินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพให้เศรษฐกิจของประเทศ ก็มีการคาดเดาไปกันต่าง ๆนานา

สหรัฐฯนั้นเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2007 หลังจากที่ตลาดตราสารสินเชื่อที่อยู่อาศัยล้มครืนลง ตามมาด้วยการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง และความปั่นป่วนของระบบการเงินทั่วทั้งโลก

ทางการสหรัฐฯประกาศว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปีนี้หดตัวถึง 6.1% หลังจากที่ไตรมาสก่อนหน้าก็ดิ่งลงไปถึง 6.3% แต่ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะหลังๆ นี้แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นเริ่มรุนแรงน้อยลงแล้ว

เบอร์นันกีชี้ว่าการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจจะไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้ ความรู้สึกของนักลงทุนและภาคส่วนต่าง ๆของตลาดการเงินระหว่างประเทศก็ปรับตัวดีขึ้นในบางระดับแล้ว

นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า ในการให้ปากคำต่อรัฐสภาคราวนี้ เบอร์นันกีใช้เวลาส่วนมากพูดเรื่องสภาพการณ์ของตลาดการเงิน

“แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างเห็นชัดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาในตลาดการเงิน แต่เฟดก็ยังคงวิตกอย่างมากต่อการขาดแคลนสภาพคล่อง รวมทั้งยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของอุตสาหกรรมการธนาคารในประเทศด้วย” ไบรอัน เบธูน จากไอเอชเอส โกลบัล อินไซท์ให้ความเห็น

นอกจากนั้น ในการให้ปากคำคราวนี้ เบอร์นันกีได้เตือนด้วยว่า แม้การฟื้นตัวจะมาถึงในไม่ช้า แต่อัตราการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริงก็ยังคงต่ำกว่าศักยภาพในระยะยาวต่อไปช่วงหนึ่ง

“เราคาดว่าการฟื้นตัวจะค่อย ๆเร่งความเร็วขึ้น และปัญหาทางเศรษฐกิจต่าง ๆจะลดน้อยถอยลงอย่างช้า ๆ” เขากล่าว

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจต่างๆ น่าจะยังคงระมัดระวังเรื่องการจ้างงาน ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการว่างงานอาจจะยังคงสูงต่อไปอีกพักหนึ่ง แม้กระทั่งหลังเศรษฐกิจกลับฟื้นตัวมีการเติบโตแล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น