วานนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล สว.สส.สน.คันนายาว ร.ต.ท.สมโมทย์ แสงสวัสดิ์ รอง สว.สส.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมาน เณรเอี่ยม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164/1 หมู่ 4 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลาง เครื่องส่งสัญญาณ 1 เครื่อง ชุดสายส่งสัญญาณ จำนวนหลายชุด เงินสด 8,000 บาท บัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารต่างๆ 8 ใบ พระเลี่ยมทอง 1 องค์ นาฬิกาสตรี 2 เรือน ตั๋วจำนำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนริมคลองในซอยพระยาสุเรนทร์ 41 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก วานนี้ (3 พ.ค.) นายธรรมนูญ จิตตรีบุตร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/103 หมู่บ้านบุรีรมย์ ซอยย่อยสุพรรณิการ์ 6 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาดนตรีตะวันตก ม.ราชภัฏพระนคร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ว่า ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านหลังดังกล่าว โดยมีทรัพย์สินจำพวกเครื่องดนตรี ถูกขโมยไปหลายรายการ หลังรับแจ้งเหตุจึงให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว จนกระทั่งเช้าวานนี้ ผุ้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ได้ไปสอบถามจะชาวบ้านในชุมชนริมคลองพระยาสุเรนทร์ ก็พบข้อมูลว่า นายสมาน น่าจะเป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ก็พบของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำพร้อม เชิญ นายธรรมนูญ มาตรวจสอบของกลางและชี้ตัวยืนยัน
นายธรรมนูญ กล่าวว่า ปกติตนจะพักอยู่ที่เคหะรามอินทรา ส่วนบ้านหลังเกิดเหตุนั้น ซื้อไว้เป็นโกดังเก็บเครื่องเสียง ซึ่งจะกลับมาประมาณเดือนละ 2-3 ครั้ง เท่านั้น โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.00 น. ตนเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ก็มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า มีบ้านใกล้กันถูกยกเค้าไป ให้เข้าไปตรวจสอบในบ้านด้วยว่าบ้านของตนถูกขโมยทรัพย์สินไปด้วยหรือเปล่า เพราะเห็นหน้าต่างเปิดแบบผิดสังเกตตั้ง แต่วันที่ 1 พ.ค. ก็เลยเข้ารีบเข้าไปดู ก็พบว่า ข้าวของภายในถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่ามีทรัพย์สินเครื่องดนตรี เช่น หัวตู้เบส หัวตู้กีต้าร์ มิกเซอร์ ลำโพง ไมโครโฟน คอมเพรสเซอร์ หูฟัง ถูกขโมยไปรวมทั้งสิ้น 20 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 300,000 บาท จึงรีบเดินทางมาแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว
นายธรรมนูญ กล่าวว่า ตนลองวิเคราะห์ดูแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนร้ายจะใช้รถเข้ามาขนทรัพย์สินไป ไม่เช่นนั้นต้องมีเพื่อนบ้านในซอยเห็นบ้าง หรือยามในหมู่บ้านก็ต้องเห็นด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่คนร้ายน่าจะปีนข้ามมาจากหลังกำแพงหมู่บ้านตน ประกอบกับก่อนหน้านี้ มีเพื่อนบ้านตนถูกคนร้ายเข้ามายกเค้าไปไปแล้วหลายหลัง และจับคนร้ายไม่ได้เลย ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อหาวิธีสืบหาเอง โดนลองเปิดดูแผนที่จากเว็บไซต์ กูเกิ้ลเอิร์ธ เพื่อวิเคราะห์เส้นทางที่คนร้ายจะใช้ก่อเหตุ จนช่วงเย็น ก็เลยลองปีนข้ามกำแพงหมู่บ้านไปสอบถามจากชาวบ้านในชุมชน ที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมกำแพงหมู่บ้าน
"โชคดีที่คนละแวกนั้นแอบได้ยินผู้ต้องหาทั้งสองคนคุยกันว่า เมื่อคืนเพิ่งเอาเครื่องดนตรีไปขาย 3 ชิ้น ในราคา 1,500 บาท อีกทั้งนายสมาน ยังเอาหัวตู้กีตาร์ ไปเสนอขายให้ชาวบ้านแถวนั้นในราคาถูกๆ อีกด้วย ผมเลยมั่นใจว่า ต้องเป็นฝีมือของรายนี้แน่นอน ก็เลยให้เพื่อนบ้านแถวนั้นคอยเฝ้าดูตัวเอาไว้เผื่อนายสมาน จะขนของ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ก็เลยเข้ามาแจ้งตำรวจฝ่านสืบสวนอีกครั้ง จนจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมทรัพย์สินหลายอย่าง" นายธรรมนูญกล่าว
จากการสอบสวน นายสมาน ให้การรับสารภาพว่า ตนเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้านของผู้เสียหายจริง โดยชุมชนที่ตนพักอาศัยอยู่กับหมู่บ้านของผู้เสียหายนั้นกำแพงติดกัน ตนเลยปีนข้ามมา แล้วเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายก่อนจะงัดบ้านเข้ารื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นก็ค่อยๆ ทยอยขนเอาเครื่องเสียงมาวางไว้บนรั้วกำแพง แล้วปีนข้ามกลับไปฝั่งชุมชนตัวเอง แล้วขนเข้าบ้าน ใช้เวลาในการขนหลายวัน ก่อนจะนำไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ รวมทั้งซื้อยาบ้าเสพมาแบ่งกันเสพกับภรรยา นอกจากนี้ก็เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายของลูกอีก 3 คน โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ที่หมู่บ้านบุรีรมย์ 1 ครั้ง และหมู่บ้านเดอะคอนเน็ค 5 อีก 2 ครั้ง
พ.ต.อ.หาญ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีเพื่อนบ้านหลายรายของผู้เสียหายรายนี้ถูกคนร้ายเข้าไปยกเค้ามาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งทรัพย์สินนั้นที่ได้ไปนั้นมีเยอะมาก ไม่น่าจะทำเพียงลำพังคนเดียวอย่างที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะสอบสวนขยายผลว่ามีใครร่วมขบวนการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบุรีรมย์ และหมู่บ้านใกล้เคียง เข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ว่า เคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 10 ราย โดยเฉพาะในซอยสุพรรณิการ์ 5 และ 6 ในหมู่บ้านบุรีรมย์นั้น ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ถึง 5 หลัง ในช่วงเดือน เม.ย. เพียงแค่เดือนเดียว ประกอบด้วยบ้านเลขที่ 46/103, 46/104, 46/105, 46/135 และบ้านเลขที่ 46/102 ของ นายยศไกร รัตนบรรเทิง บก.ข่าวอาชญากรรม หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายรายนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะทำการขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก วานนี้ (3 พ.ค.) นายธรรมนูญ จิตตรีบุตร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/103 หมู่บ้านบุรีรมย์ ซอยย่อยสุพรรณิการ์ 6 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาดนตรีตะวันตก ม.ราชภัฏพระนคร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ว่า ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านหลังดังกล่าว โดยมีทรัพย์สินจำพวกเครื่องดนตรี ถูกขโมยไปหลายรายการ หลังรับแจ้งเหตุจึงให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว จนกระทั่งเช้าวานนี้ ผุ้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ได้ไปสอบถามจะชาวบ้านในชุมชนริมคลองพระยาสุเรนทร์ ก็พบข้อมูลว่า นายสมาน น่าจะเป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ก็พบของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำพร้อม เชิญ นายธรรมนูญ มาตรวจสอบของกลางและชี้ตัวยืนยัน
นายธรรมนูญ กล่าวว่า ปกติตนจะพักอยู่ที่เคหะรามอินทรา ส่วนบ้านหลังเกิดเหตุนั้น ซื้อไว้เป็นโกดังเก็บเครื่องเสียง ซึ่งจะกลับมาประมาณเดือนละ 2-3 ครั้ง เท่านั้น โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.00 น. ตนเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ก็มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า มีบ้านใกล้กันถูกยกเค้าไป ให้เข้าไปตรวจสอบในบ้านด้วยว่าบ้านของตนถูกขโมยทรัพย์สินไปด้วยหรือเปล่า เพราะเห็นหน้าต่างเปิดแบบผิดสังเกตตั้ง แต่วันที่ 1 พ.ค. ก็เลยเข้ารีบเข้าไปดู ก็พบว่า ข้าวของภายในถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่ามีทรัพย์สินเครื่องดนตรี เช่น หัวตู้เบส หัวตู้กีต้าร์ มิกเซอร์ ลำโพง ไมโครโฟน คอมเพรสเซอร์ หูฟัง ถูกขโมยไปรวมทั้งสิ้น 20 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 300,000 บาท จึงรีบเดินทางมาแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว
นายธรรมนูญ กล่าวว่า ตนลองวิเคราะห์ดูแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนร้ายจะใช้รถเข้ามาขนทรัพย์สินไป ไม่เช่นนั้นต้องมีเพื่อนบ้านในซอยเห็นบ้าง หรือยามในหมู่บ้านก็ต้องเห็นด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่คนร้ายน่าจะปีนข้ามมาจากหลังกำแพงหมู่บ้านตน ประกอบกับก่อนหน้านี้ มีเพื่อนบ้านตนถูกคนร้ายเข้ามายกเค้าไปไปแล้วหลายหลัง และจับคนร้ายไม่ได้เลย ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อหาวิธีสืบหาเอง โดนลองเปิดดูแผนที่จากเว็บไซต์ กูเกิ้ลเอิร์ธ เพื่อวิเคราะห์เส้นทางที่คนร้ายจะใช้ก่อเหตุ จนช่วงเย็น ก็เลยลองปีนข้ามกำแพงหมู่บ้านไปสอบถามจากชาวบ้านในชุมชน ที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมกำแพงหมู่บ้าน
"โชคดีที่คนละแวกนั้นแอบได้ยินผู้ต้องหาทั้งสองคนคุยกันว่า เมื่อคืนเพิ่งเอาเครื่องดนตรีไปขาย 3 ชิ้น ในราคา 1,500 บาท อีกทั้งนายสมาน ยังเอาหัวตู้กีตาร์ ไปเสนอขายให้ชาวบ้านแถวนั้นในราคาถูกๆ อีกด้วย ผมเลยมั่นใจว่า ต้องเป็นฝีมือของรายนี้แน่นอน ก็เลยให้เพื่อนบ้านแถวนั้นคอยเฝ้าดูตัวเอาไว้เผื่อนายสมาน จะขนของ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ก็เลยเข้ามาแจ้งตำรวจฝ่านสืบสวนอีกครั้ง จนจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมทรัพย์สินหลายอย่าง" นายธรรมนูญกล่าว
จากการสอบสวน นายสมาน ให้การรับสารภาพว่า ตนเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้านของผู้เสียหายจริง โดยชุมชนที่ตนพักอาศัยอยู่กับหมู่บ้านของผู้เสียหายนั้นกำแพงติดกัน ตนเลยปีนข้ามมา แล้วเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายก่อนจะงัดบ้านเข้ารื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นก็ค่อยๆ ทยอยขนเอาเครื่องเสียงมาวางไว้บนรั้วกำแพง แล้วปีนข้ามกลับไปฝั่งชุมชนตัวเอง แล้วขนเข้าบ้าน ใช้เวลาในการขนหลายวัน ก่อนจะนำไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ รวมทั้งซื้อยาบ้าเสพมาแบ่งกันเสพกับภรรยา นอกจากนี้ก็เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายของลูกอีก 3 คน โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ที่หมู่บ้านบุรีรมย์ 1 ครั้ง และหมู่บ้านเดอะคอนเน็ค 5 อีก 2 ครั้ง
พ.ต.อ.หาญ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีเพื่อนบ้านหลายรายของผู้เสียหายรายนี้ถูกคนร้ายเข้าไปยกเค้ามาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งทรัพย์สินนั้นที่ได้ไปนั้นมีเยอะมาก ไม่น่าจะทำเพียงลำพังคนเดียวอย่างที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะสอบสวนขยายผลว่ามีใครร่วมขบวนการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบุรีรมย์ และหมู่บ้านใกล้เคียง เข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ว่า เคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 10 ราย โดยเฉพาะในซอยสุพรรณิการ์ 5 และ 6 ในหมู่บ้านบุรีรมย์นั้น ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ถึง 5 หลัง ในช่วงเดือน เม.ย. เพียงแค่เดือนเดียว ประกอบด้วยบ้านเลขที่ 46/103, 46/104, 46/105, 46/135 และบ้านเลขที่ 46/102 ของ นายยศไกร รัตนบรรเทิง บก.ข่าวอาชญากรรม หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายรายนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะทำการขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป