ASTVผู้จัดการรายวัน – บอร์ดอีลิทไหวตัวชักแถวลาออกรวด 4 คนใน 1 สัปดาห์ หลังมีข่าวลือ “ชุมพล” เตรียมดันคนใหม่นั่งแทน แหล่งข่าววงในระบุคณะกรรมการตรวจสอบ ลุยเช็คข้อมูลทางการเงินอีลิทย้อนหลังอย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท เชื่อใช้เป็นเหตุผลสั่งปิดองค์กร แนะชุมพลเร่งตัดสินใจเลือกทางเดินให้อีลิทโดยเร่งด่วน
วานนี้(28 เม.ย.52) ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการ บัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ในฐานะผู้ถือหุ้น 100% ในอีลิทการ์ด หรือ ทีพีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้ง กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ดรวม 5 คน ได้แก่ นายธงชัย ศรีดามา อดีตรองอธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการฝ่ายต่างประเทศ ททท. นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าทางการท่องเที่ยว ททท. นายอุดม เมธาธำรงค์ศิริ ที่ปรึกษาระดับ 10 ททท. และ ตนเอง คือนางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม
นอกจากนั้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ทีพีซีจะต้องรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท และรายงานงบการเงิน ซึ่งนายณัฐพล เดชวิทักษ์ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี รายงานว่า ขณะนี้ทีพีซี อยู่ระหว่างการถูกระงับการทำธุรกรรมทั้งหมด จนกว่าจะมีการตัดสินจากรัฐบาล จึงไม่มีรายงานผลการดำเนินงาน ส่วน รายงานการตรวจสอบด้านการเงิน ล่าสุดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แจ้งว่าอยู่ระหว่างการสอบบัญชี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ต้องให้ สตง.เป็นผู้สอบบัญชี
**บอร์ดอีลิทชักแถวลาออก***
สำหรับการแต่งตั้งในครั้งนี้เพื่อมาทดแทนกรรมการที่ครบวาระซึ่งมี 4 คน โดย 3 คนแรก เป็นตัวแทนจาก ททท. คือ นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม ,นายอักกพล พฤกษะวัน ,นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ ส่วนคนที่ 4 คือ นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการกฤษฎีกา นอกจากนั้นยังมีอีก 4 คนที่ทยอยยื่นหนังสือขอลาออกจากรรมการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก นางสาวศศิธาราพิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตประธานบอร์ดอีลิทการ์ด นางเสาวนีย์ กมลบุตร ผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และ ผ.ศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ททท. ,อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตราชภัฎสวนดุสิต
รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตุที่กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ดมีการลาออกผลัดเปลี่ยนกันบ่อยครั้ง เช่นนายสรจักร เกษมสุวรรณ ซึ่งเพิ่งยื่นหนังสือลาออกไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ถูกเชิญให้เข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการอีลิทการ์ดอีกครั้งภายในเดือน ซึ่งค่อยข้างจะเป็นเรื่องธรรมดาขององค์กรหรือหน่วยงานที่มีปัญหา
โดยแล้วแต่ว่าจะมีปัญหาในด้านใด ลักษณะใด ในประเด็นนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่านายชุมพล ศิลปอาชา รฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความต้องการที่จะเสนอชื่อคนใหม่ๆเข้ามาเป็นกรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กรรมการคนเก่าต้องไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้คนใหม่ที่นายชุมพลจะเสนอชื่อเข้ามานั่งแทน
***แนะชุมพลเร่งตัดสินใจ**
แหล่งข่าวรายเดิม ยังกล่าวอีกว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรที่จะเร่งตัดสินใจเลือก 1 ใน 3 ทางเลือก ที่ให้ทีพีซีนำเสนอมา พร้อมกับนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. ด้วย คือ 1.เลิกกิจการโดยจ่ายค่าชดเชยให้แก่สมาชิก 2.ให้อีลิทเดินหน้ากิจการต่อพร้อมปรับโครงการใหม่ทั้งหมด และ 3.ขายกิจการให้บริษัทเอกชนที่สนใจเข้ามาถือหุ้น เพราะทีพีซีไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆได้ทั้งสิ้นมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่นายชุมพล ได้สั่งให้หยุดการทำธุรกรรมทุกอย่างชั่วคราว แต่ทุกวันนี้ ทีพีซี ยังต้องมีค่าใช้จ่ายด้านโอเปอเรชั่น เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าใช้บริการ กอล์ฟ สปา ของสมาชิก เป็นต้น แต่ไม่สามารถหารายได้เข้าองค์กรได้เลย ซึ่งในลักษณะเช่นนี้องค์กรจะอยู่ได้อย่างไร
“มองว่า นายชุมพล ต้องเร่งตัดสินใจโดยเร็ว ถ้าจะยุบก็ยุบ ทีพีซีจะได้รู้ว่าตัวเองต้องทำงานกันอย่างไร หรือหากจะเดินหน้าต่อก็ต้องรีบ เพราะเชื่อว่าขณะนี้เงินของ ทีพีซีก็เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว” แหล่งข่าวกล่าว
****ตรวจละเอียดหวังอ้างเหตุเพื่อยุบทิ้ง**
อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่า การทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท ทีพีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นการตรวจสอบเพื่อจับผิดและหาข้อมูลความผิดของทีพีซีให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นเหตุผลในการสั่งปิดบริษัท โดยการตรวจสอบเน้นการหาข้อมูลทุจริตย้อนหลังไปตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท โดยมีการขอดูใบเสร็จการจ่ายเงินทั้งหมดที่ผ่านมาอย่างละเอียด
ทางด้านนายสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตประธานบอร์ดทีพีซี หนึ่งในกรรมการที่ลาออก กล่าวว่า ต้องการให้ ททท.มีโอกาสเลือกผู้ที่จะเข้ามานั่งเป็นกรรมการในอีลิทการ์ดได้อย่างสะดวก โดยส่วนตัวก็ให้ความเคารพต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยว และ ยังรู้จักกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานบอร์ดททท.เป็นอย่างดี จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและทำงานให้เต็มที่
***********
วานนี้(28 เม.ย.52) ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการ บัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ในฐานะผู้ถือหุ้น 100% ในอีลิทการ์ด หรือ ทีพีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้ง กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ดรวม 5 คน ได้แก่ นายธงชัย ศรีดามา อดีตรองอธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการฝ่ายต่างประเทศ ททท. นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าทางการท่องเที่ยว ททท. นายอุดม เมธาธำรงค์ศิริ ที่ปรึกษาระดับ 10 ททท. และ ตนเอง คือนางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม
นอกจากนั้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ทีพีซีจะต้องรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท และรายงานงบการเงิน ซึ่งนายณัฐพล เดชวิทักษ์ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี รายงานว่า ขณะนี้ทีพีซี อยู่ระหว่างการถูกระงับการทำธุรกรรมทั้งหมด จนกว่าจะมีการตัดสินจากรัฐบาล จึงไม่มีรายงานผลการดำเนินงาน ส่วน รายงานการตรวจสอบด้านการเงิน ล่าสุดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แจ้งว่าอยู่ระหว่างการสอบบัญชี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ต้องให้ สตง.เป็นผู้สอบบัญชี
**บอร์ดอีลิทชักแถวลาออก***
สำหรับการแต่งตั้งในครั้งนี้เพื่อมาทดแทนกรรมการที่ครบวาระซึ่งมี 4 คน โดย 3 คนแรก เป็นตัวแทนจาก ททท. คือ นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม ,นายอักกพล พฤกษะวัน ,นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ ส่วนคนที่ 4 คือ นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการกฤษฎีกา นอกจากนั้นยังมีอีก 4 คนที่ทยอยยื่นหนังสือขอลาออกจากรรมการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก นางสาวศศิธาราพิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตประธานบอร์ดอีลิทการ์ด นางเสาวนีย์ กมลบุตร ผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และ ผ.ศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ททท. ,อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตราชภัฎสวนดุสิต
รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตุที่กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ดมีการลาออกผลัดเปลี่ยนกันบ่อยครั้ง เช่นนายสรจักร เกษมสุวรรณ ซึ่งเพิ่งยื่นหนังสือลาออกไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ถูกเชิญให้เข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการอีลิทการ์ดอีกครั้งภายในเดือน ซึ่งค่อยข้างจะเป็นเรื่องธรรมดาขององค์กรหรือหน่วยงานที่มีปัญหา
โดยแล้วแต่ว่าจะมีปัญหาในด้านใด ลักษณะใด ในประเด็นนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่านายชุมพล ศิลปอาชา รฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความต้องการที่จะเสนอชื่อคนใหม่ๆเข้ามาเป็นกรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กรรมการคนเก่าต้องไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้คนใหม่ที่นายชุมพลจะเสนอชื่อเข้ามานั่งแทน
***แนะชุมพลเร่งตัดสินใจ**
แหล่งข่าวรายเดิม ยังกล่าวอีกว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรที่จะเร่งตัดสินใจเลือก 1 ใน 3 ทางเลือก ที่ให้ทีพีซีนำเสนอมา พร้อมกับนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. ด้วย คือ 1.เลิกกิจการโดยจ่ายค่าชดเชยให้แก่สมาชิก 2.ให้อีลิทเดินหน้ากิจการต่อพร้อมปรับโครงการใหม่ทั้งหมด และ 3.ขายกิจการให้บริษัทเอกชนที่สนใจเข้ามาถือหุ้น เพราะทีพีซีไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆได้ทั้งสิ้นมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่นายชุมพล ได้สั่งให้หยุดการทำธุรกรรมทุกอย่างชั่วคราว แต่ทุกวันนี้ ทีพีซี ยังต้องมีค่าใช้จ่ายด้านโอเปอเรชั่น เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าใช้บริการ กอล์ฟ สปา ของสมาชิก เป็นต้น แต่ไม่สามารถหารายได้เข้าองค์กรได้เลย ซึ่งในลักษณะเช่นนี้องค์กรจะอยู่ได้อย่างไร
“มองว่า นายชุมพล ต้องเร่งตัดสินใจโดยเร็ว ถ้าจะยุบก็ยุบ ทีพีซีจะได้รู้ว่าตัวเองต้องทำงานกันอย่างไร หรือหากจะเดินหน้าต่อก็ต้องรีบ เพราะเชื่อว่าขณะนี้เงินของ ทีพีซีก็เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว” แหล่งข่าวกล่าว
****ตรวจละเอียดหวังอ้างเหตุเพื่อยุบทิ้ง**
อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่า การทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท ทีพีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นการตรวจสอบเพื่อจับผิดและหาข้อมูลความผิดของทีพีซีให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นเหตุผลในการสั่งปิดบริษัท โดยการตรวจสอบเน้นการหาข้อมูลทุจริตย้อนหลังไปตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท โดยมีการขอดูใบเสร็จการจ่ายเงินทั้งหมดที่ผ่านมาอย่างละเอียด
ทางด้านนายสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตประธานบอร์ดทีพีซี หนึ่งในกรรมการที่ลาออก กล่าวว่า ต้องการให้ ททท.มีโอกาสเลือกผู้ที่จะเข้ามานั่งเป็นกรรมการในอีลิทการ์ดได้อย่างสะดวก โดยส่วนตัวก็ให้ความเคารพต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยว และ ยังรู้จักกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานบอร์ดททท.เป็นอย่างดี จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและทำงานให้เต็มที่
***********