xs
xsm
sm
md
lg

ใบสั่ง “ชุมพล” รื้ออีลิท มีเลศนัย “ศศิธารา” ไขก๊อก-เขี่ย “สงขลา” พ้นบอร์ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ดอีลิท วุ่น “ศศิธารา” ไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งประธานแบบไม่คาดคิด ด้าน “ชุมพล” ล้วงลูก ส่ง 4 ขุนพลนั่งอนุกรรมการด้านกฎหมาย อ้างองค์กรอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ จึงต้องใช้มือกฎหมายเข้าช่วย พร้อมรื้อระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทิ้ง สั่งร่างระเบียบใหม่ ด้านผู้บริหารทีพีซีสะอื้น องค์กรอยู่ในภาวะสุญญากาศ วอนรัฐเร่งตัดสินใจอยู่หรือไป ระบุ ขืนปล่อยแบบนี้ก็ตายทั้งเป็น จับตาประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เล็งเขี่ย “สงขลา” พ้นบอร์ด

วานนี้ (21 เม.ย.) ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซ๊) ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด แหล่งข่าวจากทีพีซี กล่าวว่า ก่อนการประชุม นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานบอร์ดทีพีซี ได้แฟกซ์เอกสารมายังบริษัท ทีพีซี ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานบอร์ดทีพีซี โดยให้มีผลทันที ทำให้กรรมการทุกท่าน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของทีพีซี ต่างตกใจ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเข้าประชุม มีกรรมการบอร์ดบางท่าน แจ้งว่า นางสาวศศิธารา ได้โทรศัพท์มาเตือนให้รีบเดินทางไปร่วมประชุมบอร์ดในครั้งนี้ด้วย
 
****รื้อระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง
อย่างไรก็ตาม การประชุมบอร์ดก็ได้เริ่มขึ้น โดยมี นายดุษฎี สินเจิมสิริ ผู้ตรวจสำนักนายก อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ รองประธาน บอร์ดทีพีซี ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พร้อมกับแต่งตั้งให้ นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าฝ่ายบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และรักษาการผู้ว่าการ ททท.รับหน้าที่รักษาการประธานบอร์ดทีพีซี ไปจนกว่าจะเลือกประธานคนใหม่ขึ้นมา

ทางด้าน นายณัฐพล เดชวิทักษ์ รองผู้จัดการใหญ่และรักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดทีพีซีครั้งนี้ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย มีกรรมการรวม 4 ท่าน ได้แก่ นายเกษม สรศักดิ์เกษม นายกฤต รัตนคามินี นายอรรถชัย ตระการศาสตร์ และ นายธนภัทร ณ ระนอง นอกจากนั้น ยังมีมติให้ยกเลิกระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการเงินของบริษัททีพีซีทั้งหมด โดยให้คณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายที่ตั้งขึ้นดังกล่าวไปเร่งดำเนินการร่างระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการเงินใหม่ทั้งหมดแล้วกลับมาเสนอโดยเร็ว

“การตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้บริษัททีพีซี อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบจึงมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามาช่วยพิจารณาในหลายๆ เรื่อง”

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมีมติกำหนดให้วันที่ 28 เม.ย.2552 เป็นวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีวาระในเรื่องของการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่จำนวน 5 ท่าน กล่าวคือ 4 ท่านแรกที่ครบวาระ มี 3 ท่านมาจากหน่ายงาน ททท.ได้แก่ นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร, นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ และ นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการฝ่ายสินค้าทางการท่องเที่ยว อีก 1 ท่าน คือ นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการกฤษฎีกา ส่วนท่านที่ 5 คือ นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดทีพีซีดังกล่าวข้างต้น
 
***วอนรัฐเร่งตัดสินใจก่อนทีพีซีสิ้นลม***
ทั้งนี้ นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่า ทีพีซีอยู่ในภาวะสุญญากาศ ไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆ ได้ตั้งแต่ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งให้หยุดการทำงานทั้งหมดจนกว่าจะตรวจสอบเสร็จและนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้เป็นที่เรียบร้อย จึงต้องการร้องขอว่าให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็ว ซึ่งโดยส่วนตัวเข้าใจดีว่าขณะนี้รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวฯมีภาระกิจที่จำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำมากมาย แต่ก็ยังเห็นว่ารัฐบาลควรจะเร่งตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับบริษัท ทีพีซี อย่าให้ต้องตกอยู่ในภาวะสุญญากาศนี้นานจนเกินไป ซึ่งจะยิ่งทำให้องค์กรนับวันแต่จะเสื่อมถอย

ทุกวันนี้บริษัทต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการให้บริการแก่สมาชิกและค่าจ้างพนักงาน แต่ไม่สามารถหารายรับเข้ามาได้ เงินสดที่เหลืออยู่กว่า 400 ล้านบาท ซึ่งสามารถใช้ได้เพียง 18 เดือนก็จะหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ ทางที่ดีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ควรทำควบคู่ไปกับการตั้งคณะกรรมการดูแลปรับโครงสร้างและบริหารจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อมและยังสามารถใช้เป็นข้อมูลต่อรมว.กระทรวงการท่องเที่ยวที่จะนำเสนอต่อ ครม.ได้ว่า หากอีลิทเดินหน้าต่อไปจะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่มีข้อมูลแต่เฉพาะความผิดพลาดในช่วงที่ผ่านมา

“ถ้ารัฐบาลอนุมัติให้ทีพีซีเดินหน้าองค์กรต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าจะสามารถสร้างรายได้ได้ทันที แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพราะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กร รีแบรนดิ้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจ ขณะนี้พนักงานทีพีซีกว่า 100 ชีวิต ซึ่งมีครอบครัวต้องรับผิดชอบ แต่กลับเกิดความไม่มั่นใจในหน้าที่การงาน ซึ่งหากรมว.ชุมพลไม่นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.เรื่องก็จะไม่จบเสียที” นายณัฐพล กล่าว

****ชุมพลส่งมือ กม.คุมอีลิท
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายที่บอร์ดทีพีซีแต่งตั้งขึ้นในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพรรคชาติไทยพัฒนา ของ นายบรรหาร ศิลปอาชา โดย นายเกษม สรศักดิ์เกษม เคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคชาติไทย และ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติไทย พ.ศ.2549 ด้วย โดยการแต่งตั้งครั้งนี้มีการระบุกันว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นผู้ส่งรายชื่อทั้ง 4 คนดังกล่าวมาให้ในการประชุมบอร์ดทีพีซีครั้งนี้

ส่วนเรื่องการแต่งตั้งกรรมการบอร์ดทีพีซี ชุดใหม่ที่จะมีขึ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 28 เม.ย.52 นี้ มีกระแสข่าวแจ้งว่า มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่แต่งตั้ง นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการกฤษฎีกา เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการบอร์ดอีก ทั้งที่นายสงขลาเป็นคนเดียวในบอร์ดชุดนี้ที่มีความรู้เรื่องกฎหมายดีที่สุด และเป็นผู้คัดค้านในหลายๆ โครงการของอีลิท ที่ทีมผู้บริหารชุดก่อนๆนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดมาโดยตลอด

***“ศศิธารา” อ้างงานเยอะขอดูวาระแห่งชาติ **
ทางด้าน นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงเหตุผลของการลาออกจากประธานบอร์ดทีพีซี ในครั้งนี้ว่า มีภาระกิจที่จะต้องดำเนินงานให้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจำนวนมาก จึงขออนุญาตต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่าต้องการจะลาออกจากภาระกิจการเป็นประธานบอร์ดทีพีซี เพื่อจะได้ทำงานให้กระทรวงฯได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานหลังจากที่มีการกำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติด้วย โดยเห็นว่างานของทีพีซีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เนื่องจากขณะนี้บริษัทไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ดำเนินการแล้ว พร้อมกับอีกหลายๆ งานที่ได้วางเป็นเป็นกรอบปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น