ASTVผู้จัดการรายวัน – ดีทแฮล์มคาดตลาดรวมยีนส์ปีนี้ไม่โต เหตุปัจจัยลบเศรษฐกิจและการเมือง ชี้ปลายแบรนด์ลดงบตลาด ลดออกสินค้านวัตกรรม ดั๊มราคา 50% กู้ยอดขาย ด้านลีวายส์เดินหน้ารักษาแชมป์ 40% ผุดอีก 4 สาขา อัดงบเพิ่ม
นายเควิน คอร์นิง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้แทนจัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายและยีนส์ แบรนด์ ลีวายส์ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดกางเกงยีนที่จำหน่ายผ่านช่องทางดีพาร์ทเม้นท์สโตร์เมื่อปี 2551 มีมูลค่ารวม ปรมาณ 4,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนหน้า 5%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้แนวโน้มตลาดกางเกงยีนส์ประเทศไทยอาจจะเติบโตมีอัตรากากรเติบโตที่ลดลง เพราะว่า ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างมาก ผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการใช้จ่าย โดยกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีสัดส่วน 80% ได้ชะลอการจับจ่าย ส่วนลูกค้าต่างชาติ 20% นั้น ก็น้อยลงเพราะส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยน้อยลง
ทั้งนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการยีนส์หลายแบรนด์ต้องเริ่มทำการปรับตัวอย่างมาก ในหลายๆด้าย ทั้งการตัดงบประมาณด้านการตลาด โฆษณา ลดจำนวนการออกสินค้านวัตกรรม หรือแม้กระทั่งการลดราคายีนส์ลงมากถึง 50% ก็มี เพื่อรักษายอดขายเอาไว้ไม่ให้ลดลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่วิธีการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลดีในระยะยาวเลย
สำหรับแผนการตลาดของลีวายส์นั้น เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดยีนส์ด้วยส่วนแบ่งกว่า 40% ก็ปรับตัวเช่นกัน โดยจะเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ด้วยการใช้งบมากกว่าคู่แข่ง 2 เท่า
ด้านการขยายช่องทางจำหน่ายนั้น ปีนี้จะลงเปิดอีก 4 สาขา ที่ห้างยูดีทาวน์ อุดรธานี , ห้างโรบินสัน ขอนแก่น ,โรบินสัน ชลบุรี และร้านสแตนด์อะโลนที่ห้างเซ็นทรัล ขอนแก่น จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 130 แห่ง แบ่งเป็นร้านสแตนด์อะโลน 25 แห่ง และรูปแบบช็อปตามห้างสรรพสินค้าอีก 105 แห่ง
ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดกิจกรรม “ลีวายส์ 501 เมย์เดย์” ซึ่งเป็นแคมเปญที่เปิดตัวพร้อมกันทั่วภูมิภาคเอเชีย ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 เพื่อเปิดตัวคอลเลกชั่น “ลีวายส์ 501 ซัมเมอร์คอลเลกชั่น” เทรนด์สีใหม่ 9 สี รวมทั้ง เปิดตัวรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ลีวายส์ 501 อีโค่ ยีนส์ ยีนส์รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายออร์แกนิกส์ โดยนำเข้ามาจำหน่ายเพียง 574 ตัวเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่ที่มียอดจำหน่ายลีวายส์ 501 ทีสูงที่สุดในอาเชียน
นายเควินกล่าวว่า จากการทำตลาดเต็มที่ในปีนี้คาด่าจะมียอดขายลีวายส์เติบโตมากกว่า 10% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่เติบโต 5-10%
นายเควิน คอร์นิง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้แทนจัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายและยีนส์ แบรนด์ ลีวายส์ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดกางเกงยีนที่จำหน่ายผ่านช่องทางดีพาร์ทเม้นท์สโตร์เมื่อปี 2551 มีมูลค่ารวม ปรมาณ 4,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนหน้า 5%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้แนวโน้มตลาดกางเกงยีนส์ประเทศไทยอาจจะเติบโตมีอัตรากากรเติบโตที่ลดลง เพราะว่า ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างมาก ผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการใช้จ่าย โดยกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีสัดส่วน 80% ได้ชะลอการจับจ่าย ส่วนลูกค้าต่างชาติ 20% นั้น ก็น้อยลงเพราะส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยน้อยลง
ทั้งนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการยีนส์หลายแบรนด์ต้องเริ่มทำการปรับตัวอย่างมาก ในหลายๆด้าย ทั้งการตัดงบประมาณด้านการตลาด โฆษณา ลดจำนวนการออกสินค้านวัตกรรม หรือแม้กระทั่งการลดราคายีนส์ลงมากถึง 50% ก็มี เพื่อรักษายอดขายเอาไว้ไม่ให้ลดลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่วิธีการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลดีในระยะยาวเลย
สำหรับแผนการตลาดของลีวายส์นั้น เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดยีนส์ด้วยส่วนแบ่งกว่า 40% ก็ปรับตัวเช่นกัน โดยจะเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ด้วยการใช้งบมากกว่าคู่แข่ง 2 เท่า
ด้านการขยายช่องทางจำหน่ายนั้น ปีนี้จะลงเปิดอีก 4 สาขา ที่ห้างยูดีทาวน์ อุดรธานี , ห้างโรบินสัน ขอนแก่น ,โรบินสัน ชลบุรี และร้านสแตนด์อะโลนที่ห้างเซ็นทรัล ขอนแก่น จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 130 แห่ง แบ่งเป็นร้านสแตนด์อะโลน 25 แห่ง และรูปแบบช็อปตามห้างสรรพสินค้าอีก 105 แห่ง
ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดกิจกรรม “ลีวายส์ 501 เมย์เดย์” ซึ่งเป็นแคมเปญที่เปิดตัวพร้อมกันทั่วภูมิภาคเอเชีย ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 เพื่อเปิดตัวคอลเลกชั่น “ลีวายส์ 501 ซัมเมอร์คอลเลกชั่น” เทรนด์สีใหม่ 9 สี รวมทั้ง เปิดตัวรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ลีวายส์ 501 อีโค่ ยีนส์ ยีนส์รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายออร์แกนิกส์ โดยนำเข้ามาจำหน่ายเพียง 574 ตัวเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่ที่มียอดจำหน่ายลีวายส์ 501 ทีสูงที่สุดในอาเชียน
นายเควินกล่าวว่า จากการทำตลาดเต็มที่ในปีนี้คาด่าจะมียอดขายลีวายส์เติบโตมากกว่า 10% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่เติบโต 5-10%