ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.เผยนักธุรกิจ ส่วนใหญ่มองการบริโภค ลงทุนและการส่งออกยังชะลอต่อเนื่อง ชี้วิกฤตการเงินโลกและปัญหาการเมืองเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจและอาจฉุดให้อุปสงค์ใน-นอกชะลอตัวยาวนานมากกว่าที่คาดการณ์ ไว้ รวมถึงการแข่งขันระหว่างตลาดในประเทศรุนแรงขึ้น ก่อนที่จะมองว่าเศรษฐกิจไทยกลับฟื้นตัวได้ในปลายปีนี้
รายงานข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจ สถาบันและสมาคมธุรกิจในสาขาต่างๆ ทั่วประเทศจำนวน 182 รายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งผลการสำรวจก่อนการจลาจลในช่วงเทศกาลสงกรานต์และประกาศใช้พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในหัวข้อการปรับตัวของธุรกิจและการจ้างงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่าแนวโน้มในอนาคตผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าการอุปโภคบริโภค การลงทุน และการส่งออกจะชะลอตัวต่อเนื่อง และคาดว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ทั้งนี้ การบริโภค การลงทุนของภาคเอกชน และการส่งออกมีการชะลอต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกและขาดความเชื่อมั่น โดยการบริโภคหดตัวตามยอดจำหน่ายสินค้าของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในหมวดอสังหาริมทรัพย์ และหมวดการบริโภคสินค้าคงทน ขณะที่การลงทุนมีชะลอออกไปตามอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศซบเซาทำให้ธุรกิจลดปริมาณการผลิตลงและมีกำลังการผลิตเหลือมาก ประกอบกับมาตรฐานการให้สินเชื่อเข้มงวด และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐเป็นปัจจัยส่งผลให้ธุรกิจชะลอการลงทุน
ขณะเดียวกัน วิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ทำให้ภาวะธุรกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวหรือบางธุรกิจถึงกับหดตัว โดยเฉพาะภาคการผลิตสินค้าคงทนที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศเป็นหลัก อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการได้ปรับตัวโดยการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต การบริหารสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพขึ้น และแสวงหาตลาดใหม่ เพื่อชดเชยการส่งออกที่ลดลงจากคำสั่งซื้อของลูกค้าหลัก
โดยผู้ประกอบการต้องลดต้นทุนแรงงานลง โดยเริ่มจากการลดเวลาทำงาน และลดแรงงานประเภท Subcontractor แต่พยายามรักษาแรงงานประจำที่มีฝืมือไว้ให้นานที่สุด เพื่อไม่ต้องรอฝึกทักษะแรงงานใหม่และให้สามารถเพิ่มการผลิตได้ทันทีนกรณีที่คำสั่งซื้อกลับมา ทั้งนี้แรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากโรงงานอุตสาหกรรม ปิดกิจการบางส่วนถูกรองรับด้วยโรงงานอุตสาหกรรมอื่นที่ขาดแคลนแรงงานรวมถึงย้ายไปทำงานในภาคเกษตร
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยเสี่ยงด้านต้นทุนได้ผ่อนคลายลงมากจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจจากผลกระทบวิกฤตการเงินโลกรวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยเสี่ยงและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญอยู่ โดยผู้ประกอบการมีความกังวลต่ออุปสงค์ของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่อาจจะชะลอยาวนานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของตลาดในประเทศ
รายงานข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจ สถาบันและสมาคมธุรกิจในสาขาต่างๆ ทั่วประเทศจำนวน 182 รายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งผลการสำรวจก่อนการจลาจลในช่วงเทศกาลสงกรานต์และประกาศใช้พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในหัวข้อการปรับตัวของธุรกิจและการจ้างงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่าแนวโน้มในอนาคตผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าการอุปโภคบริโภค การลงทุน และการส่งออกจะชะลอตัวต่อเนื่อง และคาดว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ทั้งนี้ การบริโภค การลงทุนของภาคเอกชน และการส่งออกมีการชะลอต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกและขาดความเชื่อมั่น โดยการบริโภคหดตัวตามยอดจำหน่ายสินค้าของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในหมวดอสังหาริมทรัพย์ และหมวดการบริโภคสินค้าคงทน ขณะที่การลงทุนมีชะลอออกไปตามอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศซบเซาทำให้ธุรกิจลดปริมาณการผลิตลงและมีกำลังการผลิตเหลือมาก ประกอบกับมาตรฐานการให้สินเชื่อเข้มงวด และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐเป็นปัจจัยส่งผลให้ธุรกิจชะลอการลงทุน
ขณะเดียวกัน วิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ทำให้ภาวะธุรกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวหรือบางธุรกิจถึงกับหดตัว โดยเฉพาะภาคการผลิตสินค้าคงทนที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศเป็นหลัก อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการได้ปรับตัวโดยการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต การบริหารสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพขึ้น และแสวงหาตลาดใหม่ เพื่อชดเชยการส่งออกที่ลดลงจากคำสั่งซื้อของลูกค้าหลัก
โดยผู้ประกอบการต้องลดต้นทุนแรงงานลง โดยเริ่มจากการลดเวลาทำงาน และลดแรงงานประเภท Subcontractor แต่พยายามรักษาแรงงานประจำที่มีฝืมือไว้ให้นานที่สุด เพื่อไม่ต้องรอฝึกทักษะแรงงานใหม่และให้สามารถเพิ่มการผลิตได้ทันทีนกรณีที่คำสั่งซื้อกลับมา ทั้งนี้แรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากโรงงานอุตสาหกรรม ปิดกิจการบางส่วนถูกรองรับด้วยโรงงานอุตสาหกรรมอื่นที่ขาดแคลนแรงงานรวมถึงย้ายไปทำงานในภาคเกษตร
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยเสี่ยงด้านต้นทุนได้ผ่อนคลายลงมากจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจจากผลกระทบวิกฤตการเงินโลกรวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยเสี่ยงและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญอยู่ โดยผู้ประกอบการมีความกังวลต่ออุปสงค์ของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่อาจจะชะลอยาวนานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของตลาดในประเทศ
