นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ต้องขอขอบคุณที่มีการชุมนุมกันโดยสงบ และปราศจากความรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิตามชอบธรรมภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหาในการชุมนุม 2 ข้อ ที่ถือว่าเป็นจุดร่วมที่สำคัญที่ตรงตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรี คือ 1.ไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเห็นได้จากการประกาศของแกนนำบนเวที ที่จะยุติการไล่ล่าตัวนายกฯ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ในการที่จะแสวงหาจุดร่วม และนำไปสู่ความสงบสุขในประเทศชาติ นอกจากนี้หากไปไกลถึงขั้นการประกาศจุดยืนสำคัญ โดยไม่ขัดขวางการลงพื้นที่ของรัฐบาล รวมถึงรัฐมนตรีทุกคน ก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีร่วมกัน ของฝ่ายผู้ชุมนุมและรัฐบาล และ2. กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงออกถึงการเคารพ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันเบื้องสูง ไว้อยู่เหนือความขัดแย้งทุกประการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่มีสัญญาณไปแสวงหาจุดต่าง แต่การแตกต่างทางอุดมการณ์ ก็ต้องอยู่ภายใต้ฐานข้อมูลที่เป็นจริง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตาม ก็ยังพบถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมบางประการ จึงขอเรียกร้องไปยังกลุ่มนปช. และพรรคเพื่อไทย คือ การพยายามที่จะโยนความผิดไปที่รัฐบาล และตอกย้ำว่า มีผู้เสียชีวิต และสูญหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายฝ่าย แต่ยังไม่มีข้อมูลหลักฐาน หรือเหตุผลที่เพียงพอว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายจริง รวมทั้งยังไม่มีการติดต่อหรือเรียกร้องจากญาติผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย ทั้งในวันที่ 13-14 เม.ย. ที่ผ่านมา และขอเรียกร้องไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้หันกลับมาตรวจสอบในระบบ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในการทุจริตคอร์รัปชั่น และตรวจสอบการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน หากหันมากระตือรือร้นในเรื่องดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ และประชาชนเป็นอย่างมาก
**รัฐบาลไม่ได้สั่งปิด "ดีสเตชั่น"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ว่า สิ่งที่นปช.เสนอต่อรัฐบาล 4 ข้อ คือ เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการคุกคาม นปช. และแกนนำ ขอเรียนว่า รัฐบาลไม่ได้คุกคามแกนนำ และคนเสื้อแดง โดยรัฐบาลประกาศแล้วว่า จะไม่ดำเนินคดี เว้นแต่แกนนำที่ทำผิดกฏหมาย
ส่วนที่ขอให้ยกเลิกการมีสองมาตรฐานกับคนเสื้อแดงนั้น นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่า ไม่มีการดำเนินการสองมาตรฐาน การดำเนินการทั้งหมดรัฐบาลจะดำเนินการทั้งหมดเหมือนกัน ไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง โดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับข้อเรียกร้องให้เปิด สถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น และคืนอุปกรณ์นั้น การปิดดีสเตชั่น เป็นเรื่องของ กทช. ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะการแพร่ภาพของ ดีสเตชั่น เข้าข่ายปลุกระดมทางการเมือง จึงต้องดำเนินการ ซึ่งหาก ดีสเตชั่น ปรับปรุงตัวเอง กทช. ก็อาจพิจารณาคืนสิทธิในการแพร่ภาพ และกระจายเสียงให้ก็ได้ สุดท้าย ข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ ประเด็นนี้นายกฯ ได้จุดประเด็นขึ้นมา และให้มีกรรมการปฏิรูปการเมืองซึ่ง จะเห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ววัน
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ขอให้นายกฯ ฝากมายังทีมงานโฆษกฯ ให้ระมัดระวังการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งนั้น ตนขอเรียนกว่า ทีมงานโฆษกฯมีความระมัดระวัง และไม่เคยสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง การดำเนินการได้ยึดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องกลับไปยังประธานวิปฝ่ายค้าน ให้ไปตรวจดูความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่ามีความเคลื่อนไหวที่ระมัดระวังหรือไม่ คนแรกคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ออกมากล่าวหารัฐบาลว่า คุกคามคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา ส่วนนายปรีชา เร่งสมบรุณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ก็พยายามสร้างเงื่อนไขว่ามีคนเสียชีวิตในช่วงวันที่ 13 เม.ย. ทั้งที่มีการเสียชีวิตในวันที่ 15 เม.ย.
"ไม่ทราบไปนับจากไหนมา ถ้าจะนับในช่วงนั้นให้หมดก็ควรนับเอาจำนวนคนเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก 321 ศพ มาร่วมด้วยไปเลย รวมถึงประเด็นที่มีทหารเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ก็ยังเอามานับร่วม คิดว่าเรื่องนี้เป็นการจัดแพะชนแกะของสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยพยายมเหมารวมว่า เป็นการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล" นายเทพไทกล่าว
**จวก"แม้ว"คาบไฟมาเผาบ้าน
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีนพดล ปัมทะ ที่ปรึกษากฏหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว โดยออกมากล่าวหา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ตนคิดว่านายนพดล พยายามพาดึงพล.อ.เปรม มาทำให้คนเข้าใจว่า พล.อ.เปรม เกี่ยวข้อง และอยู่เบื้องหลัง การที่ประธานองคมนตรีประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ศัตรู และเรียกร้องให้พล.อ.เปรมช่วยหยุดกระบวนการเผาบ้าน เพื่อฆ่าหนูตัวเดียวนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่กระบวนการเผาบ้าน ฆ่าหนูตัวเดียว แต่เป็นเรื่องของหนูตัวเดียว คาบไฟมาเผาบ้าน จึงเรียกร้องนายนพดลว่า รัฐบาลไม่ได้ไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหวังผลทางการเมือง รัฐบาลทำไปเพราะต้องการให้มีการบังคับใช้กฏหมาย และการปฏิบัติตามกฏหมายเกิดขั้น รัฐบาลมีความจำเป็นต้องนำตัวนักโทษมาลงโทษไม่ได้เกี่ยวกับควมเคียดแค้นใดๆทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม จากการติดตาม ก็ยังพบถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมบางประการ จึงขอเรียกร้องไปยังกลุ่มนปช. และพรรคเพื่อไทย คือ การพยายามที่จะโยนความผิดไปที่รัฐบาล และตอกย้ำว่า มีผู้เสียชีวิต และสูญหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายฝ่าย แต่ยังไม่มีข้อมูลหลักฐาน หรือเหตุผลที่เพียงพอว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายจริง รวมทั้งยังไม่มีการติดต่อหรือเรียกร้องจากญาติผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย ทั้งในวันที่ 13-14 เม.ย. ที่ผ่านมา และขอเรียกร้องไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้หันกลับมาตรวจสอบในระบบ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในการทุจริตคอร์รัปชั่น และตรวจสอบการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน หากหันมากระตือรือร้นในเรื่องดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ และประชาชนเป็นอย่างมาก
**รัฐบาลไม่ได้สั่งปิด "ดีสเตชั่น"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ว่า สิ่งที่นปช.เสนอต่อรัฐบาล 4 ข้อ คือ เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการคุกคาม นปช. และแกนนำ ขอเรียนว่า รัฐบาลไม่ได้คุกคามแกนนำ และคนเสื้อแดง โดยรัฐบาลประกาศแล้วว่า จะไม่ดำเนินคดี เว้นแต่แกนนำที่ทำผิดกฏหมาย
ส่วนที่ขอให้ยกเลิกการมีสองมาตรฐานกับคนเสื้อแดงนั้น นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่า ไม่มีการดำเนินการสองมาตรฐาน การดำเนินการทั้งหมดรัฐบาลจะดำเนินการทั้งหมดเหมือนกัน ไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง โดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับข้อเรียกร้องให้เปิด สถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น และคืนอุปกรณ์นั้น การปิดดีสเตชั่น เป็นเรื่องของ กทช. ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะการแพร่ภาพของ ดีสเตชั่น เข้าข่ายปลุกระดมทางการเมือง จึงต้องดำเนินการ ซึ่งหาก ดีสเตชั่น ปรับปรุงตัวเอง กทช. ก็อาจพิจารณาคืนสิทธิในการแพร่ภาพ และกระจายเสียงให้ก็ได้ สุดท้าย ข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ ประเด็นนี้นายกฯ ได้จุดประเด็นขึ้นมา และให้มีกรรมการปฏิรูปการเมืองซึ่ง จะเห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ววัน
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ขอให้นายกฯ ฝากมายังทีมงานโฆษกฯ ให้ระมัดระวังการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งนั้น ตนขอเรียนกว่า ทีมงานโฆษกฯมีความระมัดระวัง และไม่เคยสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง การดำเนินการได้ยึดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องกลับไปยังประธานวิปฝ่ายค้าน ให้ไปตรวจดูความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่ามีความเคลื่อนไหวที่ระมัดระวังหรือไม่ คนแรกคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ออกมากล่าวหารัฐบาลว่า คุกคามคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา ส่วนนายปรีชา เร่งสมบรุณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ก็พยายามสร้างเงื่อนไขว่ามีคนเสียชีวิตในช่วงวันที่ 13 เม.ย. ทั้งที่มีการเสียชีวิตในวันที่ 15 เม.ย.
"ไม่ทราบไปนับจากไหนมา ถ้าจะนับในช่วงนั้นให้หมดก็ควรนับเอาจำนวนคนเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก 321 ศพ มาร่วมด้วยไปเลย รวมถึงประเด็นที่มีทหารเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ก็ยังเอามานับร่วม คิดว่าเรื่องนี้เป็นการจัดแพะชนแกะของสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยพยายมเหมารวมว่า เป็นการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล" นายเทพไทกล่าว
**จวก"แม้ว"คาบไฟมาเผาบ้าน
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีนพดล ปัมทะ ที่ปรึกษากฏหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว โดยออกมากล่าวหา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ตนคิดว่านายนพดล พยายามพาดึงพล.อ.เปรม มาทำให้คนเข้าใจว่า พล.อ.เปรม เกี่ยวข้อง และอยู่เบื้องหลัง การที่ประธานองคมนตรีประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ศัตรู และเรียกร้องให้พล.อ.เปรมช่วยหยุดกระบวนการเผาบ้าน เพื่อฆ่าหนูตัวเดียวนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่กระบวนการเผาบ้าน ฆ่าหนูตัวเดียว แต่เป็นเรื่องของหนูตัวเดียว คาบไฟมาเผาบ้าน จึงเรียกร้องนายนพดลว่า รัฐบาลไม่ได้ไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหวังผลทางการเมือง รัฐบาลทำไปเพราะต้องการให้มีการบังคับใช้กฏหมาย และการปฏิบัติตามกฏหมายเกิดขั้น รัฐบาลมีความจำเป็นต้องนำตัวนักโทษมาลงโทษไม่ได้เกี่ยวกับควมเคียดแค้นใดๆทั้งสิ้น
