“เทพไท” เปรียบ “แม้ว” หนูตัวเดียวคาบไฟเผาบ้าน

“โฆษกมาร์ค” ย้อนถามเพื่อไทยสำรวจตัวเองก่อน ยันรัฐบาลไม่ได้คุกคามเสื้อแดง แต่จำเป็นต้องรักษากฎหมาย เตือนนพดลอย่าดึง “ป๋า” มาเกลือกกลั้วการเมืองสวนกลับแม้วเป็นหนูตัวเดียวคาบไฟเผาบ้าน


วันนี้ (26 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ว่า สิ่งที่ นปช.เสนอต่อรัฐบาล 4 ข้อ คือ เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการคุกคาม นปช.และแกนนำ ขอเรียนว่า รัฐบาลไม่ได้คุกคามแกนนำและคนเสื้อแดง โดยรัฐบาลประกาศแล้วว่าจะไม่ดำเนินคดี เว้นแต่แกนนำที่ทำผิดกฎหมาย, ขอให้ยกเลิกการมีสองมาตรฐานกับคนเสื้อแดง ประเด็นนี้นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าไม่มีการดำเนินการสองมาตรฐาน การดำเนินการทั้งหมดรัฐบาลจะดำเนินการทั้งหมดเหมือนกันไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง โดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น, ส่วนข้อเรียกร้องเปิดดีสเตชั่น และคืนอุปกรณ์ การปิดดีสเตชั่นเป็นเรื่องของ กทช.ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะการแพร่ภาพของดีสเตชั่นเข้าข่ายปลุกระดมทางการเมืองจึงต้องดำเนินการ ซึ่งหากดีสเตชั่นปรับปรุงตัวเอง กทช.ก็อาจพิจารณาคืนสิทธิในการแพร่ภาพและกระจายเสียงให้ก็ได้ สำหรับข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้นำ รธน.40 มาใช้ ประเด็นนี้นายกได้จุดประเด็นขึ้นมาและให้มีกรรมการปฏิรูปการเมืองซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ววัน

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องคนทุกเสื้อร่วมกับรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังจากประเทศบอบช้ำมานาน ส่วนที่ นายวิทยา บูรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ขอให้นายกฝากมายังทีมงานโฆษกให้ระมัดระวังการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ตนขอเรียนกว่า ทีมงานโฆษกมีความระมัดระวัง และไม่เคยสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง การดำเนินการได้ยึดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องกลับไปยังประธานวิปฝ่ายค้าน ให้ไปตรวจดูความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า มีความเคลื่อนไหวที่ระมัดระวังหรือไม่ คนแรกคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ออกมากล่าวหารัฐบาลว่าคุกคามคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา, นายปรีชา เร่งสมบรุณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ที่พยายามสร้างเงื่อนไขว่ามีคนเสียชีวิตในช่วงวันที่ 13 เม.ย.ทั้งที่ผู้ตายเสียชีวิตในวันที่ 15 เม.ย.

“ไม่ทราบไปนับจากไหนมา ถ้าจะนับในช่วงนั้นให้หมดก็ควรนับเอาจำนวนคนเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก 321 ศพมาร่วมด้วยไปเลย รวมถึงประเด็นที่มีทหารเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุก็ยังเอามานับร่วม คิดว่าเรื่องนี้เป็นการจัดแพะชนแกะของสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยพยายามเหมารวมว่าเป็นการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าว่า ส่วนกรณี นพดล ปัมทะ ที่ปรึกษากฏหมายของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว โดยออกมากล่าวหาพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ตนคิดว่า นายนพดล พยายามพาลดึงพลเอกเปรมทำให้คนเข้าใจว่า พลเอกเปรม เกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลัง การที่ประธานองคมนตรี ประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ศัตรู และเรียกร้องให้พลเอกเปรมช่วยหยุดกระบวนการเผาบ้านเพื่อฆ่าหนูตัวเดียว ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่กระบวนการเผาบ้านฆ่าหนูตัวเดียว แต่เป็นเรื่องของหนูตัวเดียวคาบไฟมาเผาบ้าน จึงเรียกร้องนายนพดล ว่า รัฐบาลไม่ได้ไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหวังผลทางการเมือง รัฐบาลทำไปเพราะต้องการให้มีการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติตามกฏหมายเกิดขั้น รัฐบาลมีความจำเป็นต้องนำตัวนักโทษมาลงโทษไม่ได้เกี่ยวกับความเคียดแค้นใดทั้งสิ้น ทั้งนี้การยกคนสามคนมาพูด คุณวิทยา อาจบอกว่า คนทั้งสามไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย แต่จริงๆ แล้วมีความเกี่ยวข้องกับพรรค พรรคเพื่อไทยควรกลับไปมองตนเองก่อนจะออกมารเรียกร้องหรือวิจารณ์คนอื่น

นายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อเหตุการณ์ปัจจุบันว่า ภายหลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาพรรคมีความเห็นหลังได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมทุกฝ่ายแล้ว พรรคเห็นว่าจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์จำเป็นต้องมีรูปแบบขององค์ประกอบและคณะทำงาน 2 คือ คณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคณะกรรมมาธิการวิสามัญเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฏหมายที่เกี่ยวข้อง โดยความร่วมมือความมีองค์ประกอบจากทุกฝ่าย คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ และองค์กรภายนอกที่มีส่วนร่วมสร้างความสมานฉันท์เข้ามามีส่วนร่วม

สำหรับการปฏิรูปการเมืองพรรค ยอมรับว่า ยังเป็นประเด็นที่มีความเห็นที่แตกต่าง โดยพรรคเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งหากระบวนการสร้างความมั่นใจ เพื่อให้การปฏิรูปการเมืองมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง และระบบการเมืองในปัจจุบันซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤติ พรรคมืองว่าการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง และระบบการเมืองมีความสำคัญกว่าการมุ่งแก้ไขปัญหาเพื่อตัวบุคคล นอกจากนี้กระบวนการจะต้องมุ่งสร้างความเป็นธรรมและเสมอภาคให้กับทุกฝ่าย โดยมีมาตรฐานเดียวกันอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการช่วงชิงเอาประเด็นการปฏิรูปการเมืองไปใช้อ้างอิงว่าเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของคนหนึ่งคนใด

เนื่องจากสาเหตุของปัญหามีต้นตอมาจากระบบการเมือง กระบวนการก็ใช้กระบวนการรัฐสภา เป็นการนำปัญหาจากท้องถนนมายังรัฐสภา เมื่อมาแล้ว ขั้นตอนต่อไป จะเป็นจะต้องให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม อย่างน้อย 4 ส่วน คือ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล, สถาบันนิติบัญญัติ, สถาบันประชาธิปไตยและองค์กรอิสระ และภาคประชาชน รวมถึงภาคส่วนที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ส่วนกรณีการตรวจสอบการเสียชีวิตของพลทหาร อภินพ เครือสุข พรรคเห็นด้วยกับแนวทางที่จะให้หน่วยงานที่เป็นกลางไม่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ โดยพรรคยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงการตรวจสอบ โดยพรรคจะมีบทบาทสนับสนุนเพียงในส่วนที่จะเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชน

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขอความเป็นธรรมจากผู้เขียนคอลัมน์การ์ตูนล้อ "เซียไทยรัฐ" ที่พบว่า มีอคติต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ โดยมองว่าคอลัมน์ดังกล่าวไม่ได้ใช้ความเป็นสื่อสารมวลชนที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่บนจรรยาบรรณของสื่อ อีกทั้งไม่ได้ใช้วิชาชีพในการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งขณะนี้ตนได้รวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอต่อ นายกสภาการหนังสือพิมพ์ ว่าการกระทำดังกล่าว มีจรรยาบรรณหรือไม่