ASTVผู้จัดการรายวัน – กระทรวงการคลังระบุรัฐบาลต้องเร่งฟื้นความเชื่อมั่น 3 ด้าน ท่องเที่ยว – ใช้จ่ายเอกชน – เรตติ้งเอเจนซี่ แก้ปัญหาวิกฤตหลังเสื้อแดงป่วนเมือง เดินหน้าโรดโชว์ยุโรป สหรัฐ ฮ่องกง สิงคโปร์ พร้อมใช้เวทีที่ประชุมไอเอ็มเอฟ เวิลด์แบงก์ และเอดีบีที่บาหลีดึงความมั่นใจนักลงทุนกลับคืน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของไทยซึ่งรัฐบาลมีโจทย์หลัก 3 ด้านที่จะต้องเร่งแก้ไขเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับคืนมาโดยเร็ว
โดยเรื่องแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทันทีคือด้านการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนยกเลิกแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยทันที ซึ่งรัฐบาลจะต้องหามาตรการเพื่อเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายให้ฟื้นตัวได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศได้มากในช่วงที่การส่งออกซบเซา
สำหรับประเด็นสำคัญประการต่อมาคือรัฐบาลต้องหามาตรการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนในประเทศโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนชะลอตัวลงมากซึ่งเอกชนถือเป็นเครื่องจักรที่สำคัญที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ เพราะหากจะพึ่งการใช้จ่ายจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายทำให้รัฐบาลมีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
“เรื่องการฟื้นตัวของผู้บริโภคมีความสำคัญมากรัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน จะทำอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว บทเรียนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าความไม่สงบทางการเมืองที่นำไปสู่การก่อการจลาจลได้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากและในอนาคตจะต้องหาแนวทางเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยได้” นายเอกนิติกล่าว
***แนะทำความเข้าใจเรตติ้งเอเจนซี่
นายเอกนิติกล่าวต่อว่า ประการที่สามที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือการสร้างความเข้าใจกับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้หากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับบลดเครดิตของประเทศไทยลงจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของรัฐบาลที่จะออกไปกู้เงินจากต่างประเทศเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
“เราต้องชี้แจงให้เรตติ้งเอเจนซี่เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ว่าความจริงคืออะไร เพราะเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของไทยนั้นมีความแข็งแกร่งมากทั้งด้านเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมไปถึงระบบสถาบันการเงินของไทยที่มีความแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลต้องชี้แจงให้เอเจนซี่เหล่านี้เข้าใจอย่างแท้จริงเพื่อให้สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทย” นายเอกนิติกล่าว
***โรดโชว์ยุโรป-สหรัฐฟื้นความเชื่อมั่น
นายเอกนิติกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้านายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังมีแผนจะเดินทางไปสร้างความเข้าใจแก่นักลงทุนทั่วโลกที่จะมีขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในการประชุมร่วมระหว่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก ในช่วงสัปดาห์หน้าและเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ฮ่องกงและสิงคโปร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่อไป
ในขณะที่ต้อนเดือนพฤษภาคมจะมีการประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเชีย ประเทศไทยจะใช้เวทีนี้ร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อจัดอาเซียน อินเวสเตอร์ โรดโชว์ เนื่องจากถือเป็นจังหวะที่ดีที่มีนักลงทุนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมารวมกัน ณ จุดเดียวจึงเป็นโอกาสที่ไทยจะชี้แจงเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น.
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของไทยซึ่งรัฐบาลมีโจทย์หลัก 3 ด้านที่จะต้องเร่งแก้ไขเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับคืนมาโดยเร็ว
โดยเรื่องแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทันทีคือด้านการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนยกเลิกแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยทันที ซึ่งรัฐบาลจะต้องหามาตรการเพื่อเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายให้ฟื้นตัวได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศได้มากในช่วงที่การส่งออกซบเซา
สำหรับประเด็นสำคัญประการต่อมาคือรัฐบาลต้องหามาตรการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนในประเทศโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนชะลอตัวลงมากซึ่งเอกชนถือเป็นเครื่องจักรที่สำคัญที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ เพราะหากจะพึ่งการใช้จ่ายจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายทำให้รัฐบาลมีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
“เรื่องการฟื้นตัวของผู้บริโภคมีความสำคัญมากรัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน จะทำอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว บทเรียนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าความไม่สงบทางการเมืองที่นำไปสู่การก่อการจลาจลได้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากและในอนาคตจะต้องหาแนวทางเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยได้” นายเอกนิติกล่าว
***แนะทำความเข้าใจเรตติ้งเอเจนซี่
นายเอกนิติกล่าวต่อว่า ประการที่สามที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือการสร้างความเข้าใจกับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้หากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับบลดเครดิตของประเทศไทยลงจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของรัฐบาลที่จะออกไปกู้เงินจากต่างประเทศเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
“เราต้องชี้แจงให้เรตติ้งเอเจนซี่เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ว่าความจริงคืออะไร เพราะเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของไทยนั้นมีความแข็งแกร่งมากทั้งด้านเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมไปถึงระบบสถาบันการเงินของไทยที่มีความแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลต้องชี้แจงให้เอเจนซี่เหล่านี้เข้าใจอย่างแท้จริงเพื่อให้สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทย” นายเอกนิติกล่าว
***โรดโชว์ยุโรป-สหรัฐฟื้นความเชื่อมั่น
นายเอกนิติกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้านายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังมีแผนจะเดินทางไปสร้างความเข้าใจแก่นักลงทุนทั่วโลกที่จะมีขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในการประชุมร่วมระหว่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก ในช่วงสัปดาห์หน้าและเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ฮ่องกงและสิงคโปร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่อไป
ในขณะที่ต้อนเดือนพฤษภาคมจะมีการประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเชีย ประเทศไทยจะใช้เวทีนี้ร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อจัดอาเซียน อินเวสเตอร์ โรดโชว์ เนื่องจากถือเป็นจังหวะที่ดีที่มีนักลงทุนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมารวมกัน ณ จุดเดียวจึงเป็นโอกาสที่ไทยจะชี้แจงเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น.