เอเอฟพี - เมืองอาซานในเกาหลีใต้ คิดแผนช่วยชาติเพิ่มประชากร โดยตกลงเป็นเจ้าภาพจัดงานนัดบอดหาคู่ให้กับคนวัยยี่สิบและสามสิบจำนวน 40 คนในโรงแรมแห่งหนึ่ง และนับเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานของรัฐจัดงานลักษณะนี้เสียเอง หลังจากที่เคยเป็นเพียงผู้สนับสนุนธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2007
"การจัดหาคู่ไม่ใช่ธุรกิจส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นหน้าที่ของประเทศเลยทีเดียว" ยูยางซุน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอาซานซึ่งเป็นผู้จัดงานนัดบอดดังกล่าวบอก เมืองอาซานนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 90 กิโลเมตร
"ทุกวันนี้เราแทบจะไม่เห็นเด็กทารกกันแล้ว ถ้าหากคนหนุ่มสาวของเราแก่ตัวลงโดยไม่ยอมแต่งงานและไม่มีลูก ต่อไปเราก็จะไม่มีทรัพยากรมนุษย์ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ"
ปัจจุบันอัตราการเกิดของเมืองอาซานอยู่ที่ 1.08 เป็นอัตราที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 1.19 ซึ่งก็อยู่ในระดับเกือบจะต่ำที่สุดในโลก
"เพื่อนๆ คะ ถ้าคุณรักชาติเหมือนดิฉัน ก็ต้องช่วยกันมีลูกสักคนนะคะ" โนห์กงโซน หญิงตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนบอกกับกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้าร่วมงานพร้อมกับอวดท้องนูนใหญ่ของเธออย่างภาคภูมิใจ ในขณะที่ฝ่ายผู้ฟังมีทั้งที่เขินอายจนหน้าแดงและหัวเราะคิกคัก
แต่หลังจากนั้น 5 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานจำนวน 12 คน ตกลงใจว่าจะนัดพบคู่ของตนต่อไป สร้างความดีใจให้กับฝ่ายผู้จัดงานที่หวังว่าจะได้ยินเสียงระฆังวิวาห์ดังขึ้นในเร็ววันนี้
ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งเสริมให้มีการวางแผนครอบครัวเนื่องจากมีประชากรหนาแน่นถึง 48.6 ล้านคน แต่ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับพบแนวโน้มสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่ารัฐบาลจะต้องรับภาระในเรื่องเงินบำนาญผู้ชราเป็นเงินมหาศาล ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีน้อยเกินกว่าที่จะรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ต่อมารัฐบาลจึงเริ่มเปลี่ยนนโยบายใหม่โดยเพิ่มจำนวนโรงเรียนอนุบาลและให้เงินสนับสนุนแก่คู่แต่งงานในการสร้างครอบครัว เช่น การยกเว้นภาษี หรือการให้เงินช่วยเหลือสำหรับจ้างพี่เลี้ยงเด็ก และในบางวาระก็มีการแจกเงินสดเป็นของขวัญให้แก่ทารกแรกคลอดอีกด้วย
"เป็นสถานการณ์กึ่งๆ ฉุกเฉินทีเดียว" เจือนแจฮี รัฐมนตรีสาธารณสุข สวัสดิการ และครอบครัวกล่าว "หากอัตราการเกิดยังคงต่ำอยู่อย่างนี้ ประเทศชาติก็คงไม่สามารถอยู่รอดต่อไป และระบบประกันสังคมที่ภาครัฐจัดไว้ทั้ง 4 ระบบจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป"
ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ระบุว่า จำนวนคู่สมรสได้ลดลงราว 4.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยมีคู่สมรส 329,000 คู่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนอัตราการเกิดก็ลดลง 5.5 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 466,000 คน และคาดว่าในปี 2018 ประชากรจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ 49 ล้านคน แล้วจากนั้นจะกลับลดลง
อนึ่ง เมืองอาซานได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนธุรกิจการจับคู่แต่งงานมาตั้งแต่เมื่อปี 2007 และล่าสุดนี้ก็เป็นรัฐบาลระดับท้องถิ่นแห่งแรกที่เป็นผู้จัดงานดังกล่าว อีกทั้งยังได้ขยายความร่วมมือกับเมืองอื่นๆ อีกด้วยเช่น เมืองเซียวโช และเมืองเจืองอัพ
ปีที่แล้วทั้งปี เมืองอาซานระดมคนเข้าร่วมงานนัดบอดได้ 300 ราย โดยมี 20 รายที่ยังคงนัดหมายดูใจกันอยู่ ส่วนผู้ลงทะเบียนหาคู่กับศูนย์ให้คำปรึกษาและจัดงานแต่งงานของเมืองมี 1,700 คน ศูนย์ดังกล่าวจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่ที่เหมาะสม รวมไปถึงงานอดิเรก ศาสนา และภูมิหลังทางการศึกษา
สาเหตุที่อัตราการเกิดของเกาหลีใต้ต่ำมากนั้นเป็นเพราะผู้หญิงเข้าสู่ตลาดแรงงานกันมากขึ้น และรัฐบาลไม่สามารถจัดระบบสวัสดิการและการศึกษาที่ดีพอสำหรับรองรับการมีครอบครัวด้วย
"เพื่อนๆ ของดิฉันพูดเหมือนกันว่า ถ้าหากไม่มีเงินจะส่งเสียลูกให้เรียนหนังสือสูงๆ ได้ล่ะก็ อย่าเพิ่งมีลูก ไม่งั้นจะกลายเป็นทำบาปไป" บังเจืองจู หญิงวัยสามสิบที่มาร่วมงานนัดบอดด้วยกล่าว
"การจัดหาคู่ไม่ใช่ธุรกิจส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นหน้าที่ของประเทศเลยทีเดียว" ยูยางซุน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอาซานซึ่งเป็นผู้จัดงานนัดบอดดังกล่าวบอก เมืองอาซานนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 90 กิโลเมตร
"ทุกวันนี้เราแทบจะไม่เห็นเด็กทารกกันแล้ว ถ้าหากคนหนุ่มสาวของเราแก่ตัวลงโดยไม่ยอมแต่งงานและไม่มีลูก ต่อไปเราก็จะไม่มีทรัพยากรมนุษย์ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ"
ปัจจุบันอัตราการเกิดของเมืองอาซานอยู่ที่ 1.08 เป็นอัตราที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 1.19 ซึ่งก็อยู่ในระดับเกือบจะต่ำที่สุดในโลก
"เพื่อนๆ คะ ถ้าคุณรักชาติเหมือนดิฉัน ก็ต้องช่วยกันมีลูกสักคนนะคะ" โนห์กงโซน หญิงตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนบอกกับกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้าร่วมงานพร้อมกับอวดท้องนูนใหญ่ของเธออย่างภาคภูมิใจ ในขณะที่ฝ่ายผู้ฟังมีทั้งที่เขินอายจนหน้าแดงและหัวเราะคิกคัก
แต่หลังจากนั้น 5 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานจำนวน 12 คน ตกลงใจว่าจะนัดพบคู่ของตนต่อไป สร้างความดีใจให้กับฝ่ายผู้จัดงานที่หวังว่าจะได้ยินเสียงระฆังวิวาห์ดังขึ้นในเร็ววันนี้
ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งเสริมให้มีการวางแผนครอบครัวเนื่องจากมีประชากรหนาแน่นถึง 48.6 ล้านคน แต่ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับพบแนวโน้มสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่ารัฐบาลจะต้องรับภาระในเรื่องเงินบำนาญผู้ชราเป็นเงินมหาศาล ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีน้อยเกินกว่าที่จะรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ต่อมารัฐบาลจึงเริ่มเปลี่ยนนโยบายใหม่โดยเพิ่มจำนวนโรงเรียนอนุบาลและให้เงินสนับสนุนแก่คู่แต่งงานในการสร้างครอบครัว เช่น การยกเว้นภาษี หรือการให้เงินช่วยเหลือสำหรับจ้างพี่เลี้ยงเด็ก และในบางวาระก็มีการแจกเงินสดเป็นของขวัญให้แก่ทารกแรกคลอดอีกด้วย
"เป็นสถานการณ์กึ่งๆ ฉุกเฉินทีเดียว" เจือนแจฮี รัฐมนตรีสาธารณสุข สวัสดิการ และครอบครัวกล่าว "หากอัตราการเกิดยังคงต่ำอยู่อย่างนี้ ประเทศชาติก็คงไม่สามารถอยู่รอดต่อไป และระบบประกันสังคมที่ภาครัฐจัดไว้ทั้ง 4 ระบบจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป"
ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ระบุว่า จำนวนคู่สมรสได้ลดลงราว 4.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยมีคู่สมรส 329,000 คู่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนอัตราการเกิดก็ลดลง 5.5 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 466,000 คน และคาดว่าในปี 2018 ประชากรจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ 49 ล้านคน แล้วจากนั้นจะกลับลดลง
อนึ่ง เมืองอาซานได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนธุรกิจการจับคู่แต่งงานมาตั้งแต่เมื่อปี 2007 และล่าสุดนี้ก็เป็นรัฐบาลระดับท้องถิ่นแห่งแรกที่เป็นผู้จัดงานดังกล่าว อีกทั้งยังได้ขยายความร่วมมือกับเมืองอื่นๆ อีกด้วยเช่น เมืองเซียวโช และเมืองเจืองอัพ
ปีที่แล้วทั้งปี เมืองอาซานระดมคนเข้าร่วมงานนัดบอดได้ 300 ราย โดยมี 20 รายที่ยังคงนัดหมายดูใจกันอยู่ ส่วนผู้ลงทะเบียนหาคู่กับศูนย์ให้คำปรึกษาและจัดงานแต่งงานของเมืองมี 1,700 คน ศูนย์ดังกล่าวจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่ที่เหมาะสม รวมไปถึงงานอดิเรก ศาสนา และภูมิหลังทางการศึกษา
สาเหตุที่อัตราการเกิดของเกาหลีใต้ต่ำมากนั้นเป็นเพราะผู้หญิงเข้าสู่ตลาดแรงงานกันมากขึ้น และรัฐบาลไม่สามารถจัดระบบสวัสดิการและการศึกษาที่ดีพอสำหรับรองรับการมีครอบครัวด้วย
"เพื่อนๆ ของดิฉันพูดเหมือนกันว่า ถ้าหากไม่มีเงินจะส่งเสียลูกให้เรียนหนังสือสูงๆ ได้ล่ะก็ อย่าเพิ่งมีลูก ไม่งั้นจะกลายเป็นทำบาปไป" บังเจืองจู หญิงวัยสามสิบที่มาร่วมงานนัดบอดด้วยกล่าว
