xs
xsm
sm
md
lg

ททท.จ้องดึงงานTAFIจัดในไทย ตลาดเอเชียใต้สดใสที่พึ่งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ททท.จ้องดึง TAFI มาจัดประชุมในไทย ดันเสนอบอร์ด ททท.ปลายเดือนนี้ของบอินเซนทีฟแบบแรงๆตัดหน้าฟิลิปปินส์ หวังเงินสะพัดเกือบ 200 ล้านบาท ระบุงานนี้มีแต่คุ้มยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งนักท่องเที่ยวตลาดไมซ์ และ ยังต่อยอดได้เชียร์ประเทศไทยสายตรง เหตุผู้ร่วมประชุมล้วนเป็นผู้บริหารบริษัททัวร์จากอินเดีย ผอ.ภูมิภาคอาเซียนฯมั่นใจ ตลาดเอเชียใต้สดใส สวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจซบ ประกาศปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวแตะ 1 ล้านคน โตจากปีก่อนเกือบ 20%

นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ
ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และ แปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ททท. ในการที่จะดึงการจัดงานประชุม TRAVEL AGENTS FEDERATION OF INDIA หรือ TAFI ซึ่งเป็นสมาคมที่รวบรวมผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย คล้ายกับสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า)ของประเทศไทยแต่ใหญ่กว่ามีจำนวนสมาชิกมากกว่า โดยจะนำแผนงานนี้เข้าหารือต่อที่ประชุมคณะกรรมการททท.(บอร์ด)ในปลายเดือนนี้ด้วย เพื่อจะของบประมาณมาสนับสนุน

สำหรับสมาคม TAFIนี้จะมีการจัดประชุมใหญ่ ปีเว้นปี โดยแต่ละครั้งจะมีสมาชิกซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของบริษัททัวร์ชั้นนำในอินเดียมากกว่า 1,500 คน เข้าร่วมประชุม หากสามารถเชิญเขาเข้ามาจะได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อ กล่าวคือ ประการแรกคือ มีนักท่องเที่ยวระดับผู้บริหารเข้ามาจัดประชุมในประเทศไทยถือเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์นี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป หรือเฉลี่ยที่วันละ 1.5 หมื่นบาท โดยทริปนี้จะพักนาน 8 วัน ดังนั้นคาดว่าจะสร้างรายได้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท

และประการที่สอง คือ กลุ่มผู้บริหารเหล่านั้นล้วนทำธุรกิจทัวร์ มีศักยภาพที่จะนำนักท่องเที่ยวจากอินเดียวเข้ามาเที่ยวประเทศไทย เมื่อเขาได้เข้ามาประชุม ได้มาเห็นศักยภาพด้านการจัดประชุมสัมมนาของไทย มาสัมผัสความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย จะทำให้รู้จักประเทศไทยมากขึ้นและนำเสนอประเทศไทยให้แก่ลูกค้านักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

“คู่แข่งขันของเรางานนี้คือฟิลิปปินส์ ซึ่งการที่จะนำเรื่องเข้าหารือต่อที่ประชุมบอร์ดททท. ก็เพื่อหาวิธีให้อินเซนทีฟให้น่าสนใจเขาจะได้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดประชุม เบื้องต้นจะเสนอว่า จะออฟเฟอร์ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อจะได้เดินทางไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่จัดประชุม หากผู้จัดงานเลือกประชุมในต่างจังหวัดไม่ใช่กรุงเทพ โดยมองว่าการเลี้ยงอาหารค่ำ งานเลี้ยงต้อนรับนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็ให้ได้”

นอกจากนั้นจะถือโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้พบปะกับผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวของไทย เปิดเวทีเจรจาธุรกิจ รวมถึงจัดทริปนำเที่ยวไปในเส้นทางต่าง ที่ไทยต้องการนำเสนอ เพื่อพานักธุรกิจเหล่านั้นได้เดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย

นายประกิตติ์ กล่าวอีกว่า ที่ต้องการดึงการประชุมTAFI มาจัดในประเทศไทยครั้งนี้ เพราะเห็นว่าศักยภาพนักท่องเที่ยวจากตลาดอินเดียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อ และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2551 ชาวอินเดียเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย 538,157 คน เติบโตจากปี 2550 ราว 0.34% โดยปีนี้คาดว่าตลาดอินเดียจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ถึง 600,000 คน เติบโต 10%

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดเอเชียใต้ ซึ่งประกอบด้วย บังคลาเทศ อินเดีย เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา มีการเติบโตต่อเนื่องมาตลอด และ เขาก็ไม่ได้กังวลต่อเหตุความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทย เพราะในประเทศเขาก็มีการชุมนุมประท้วงเช่นกันและมีความรุนแรงกว่าด้วย โดยปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทยทั้งสิ้น 801,430 คน เติบโต 2.88% ปีนี้มั่นใจว่าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านคน หรือโตเกือบ 20% โดยตลาด เนปาล และ ปากีสถาน ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ เติบโตแล้ว 29% และ 37% ตามลำดับ

ซึ่งกลยุทธ์ของ ททท.ที่เข้าไปเจาะตลาดนี้ คือ เน้นตลาดไฮเอนด์ กลุ่มนักธุรกิจ ครอบครัว และกลุ่มแบล็กแพก วิธีการเน้นเดินสายโรดโชว์ไปยังเมืองต่างๆ โดยเฉพาะที่ตลาดอินเดีย นอกจากเมืองหลีก อย่างเดลี ไฮเดอราบัด เชียนไน บังกาลอ แล้ว ททท.ยังเน้นขยายตลาดไปเมืองรอง ที่มีเศรษฐกิจดีๆ เช่น จันดีกา อัมมาราบัด เป็นต้น

“ททท.มั่นใจว่าภายในปีนี้ ไทยจะเป็นเดสติเนชั่นยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ชาวอินเดียนิยมเดินทางเข้ามา จากเดิมชาวอินเดียจะนิยมเดินทางไปสิงคโปร์ มาเลเซีย สินค้าทางการท่องเที่ยวที่ตลาดนี้ชื่นชอบ ได้แก่ หาดทราย ชายทะเล ชอปปิ้ง ไนท์ไลฟ์ ซึ่ง ททท.มีแผนนำเสนอเดสติเนชั่นใหม่ๆให้ เช่น เกาะช้าง ภูเก็ต หัวหิน”
กำลังโหลดความคิดเห็น