ททท.เล็งตลาดตะวันออกกลางเป็นที่พึ่งโกยนักท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ระบุเจอพิษเศรษฐกิจน้อยที่สุด พร้อมกระทุ้งเอกชน เร่งจัดแพกเกจทัวร์เสนอขาย ชูประเทศไทยเป็นฮอลิเดย์เดสติเนชั่น หาดทรายชายทะเล และความเป็นเสรีเหนือคู่แข่งขัน หวังจับกลุ่มครอบครัวและเอ็กแพก ตั้งเป้าปีนี้ 2.4 แสนคน รายได้ กว่าหมื่นล้านบาท
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าทางการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้บริษัททัวร์เร่งจัดทำแพกเกจนำเที่ยว พร้อมสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวออกไปนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวในตลาดตะวันออกกลาง เนื่องจากตลาดดังกล่าวเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ จึงทำให้ยังมีกำลังซื้ออยู่มาก
ประกอบกับที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากตลาดตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยเติบโตปีละ 20% โดยปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 2 แสนคน เติบโต 9% สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันที่ 4.4-4.6 พันบาท สูงกว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่จะอยู่ประมาณ 4.1 พันบาทต่อคนต่อวัน อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดตะวันออกกลาง ททท.ตั้งเป้าหมายในปีนี้ไว้ที่ 2.4 แสนคน
ทางด้านนายธวัชชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป ททท. กล่าวว่า ตลาดตะวันออกกลางมี 3 ประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ได้แก่ โอมาน อิหร่าน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ต้องการให้ผู้ประกอบการไทยนำเสนอ ได้แก่ ชายหาด ธรรมชาติ เมดิคัลทัวร์ และสินค้าที่แสดงถึงความเป็นไทย เช่น ศิลปวัฒนธรรม โดย ททท.มีเป้าหมายนำเสนอประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางให้เป็น ฮอลิดย์เดสติเนชั่น หรือ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย หลักคือ กลุ่มครอบครัว คนทำงาน และเอ็กซแพก(ต่างชาติที่ทำงานในตะวันออกกลาง) เป็นหลัก
สำหรับฤดูกาลที่จะนำเสนอให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจะเน้นช่วงกรีนซีซั่น (มิ.ย.-ส.ค.) เพราะเป็นฤดูฝนอากาศเย็นสบาย
“ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ชาวตะวันออกกลางนิยมที่จะเดินทางเข้ามา เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อบ้าน เพราะมีความเป็นเสรี มีสินค้าทางการท่องเที่ยวหลากหลาย เห็นได้จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากตะวันออกลางเข้ามาประเทศไทย ขณะนี้มีกว่า 43 เที่ยวต่อสัปดาห์ จากก่อนหน้านั้นมีเพียง 20 เที่ยวต่อสัปดาห์ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีดีมานด์จำนวนมากขึ้น” นายธวัชชัย กล่าว
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าทางการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้บริษัททัวร์เร่งจัดทำแพกเกจนำเที่ยว พร้อมสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวออกไปนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวในตลาดตะวันออกกลาง เนื่องจากตลาดดังกล่าวเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ จึงทำให้ยังมีกำลังซื้ออยู่มาก
ประกอบกับที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากตลาดตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยเติบโตปีละ 20% โดยปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 2 แสนคน เติบโต 9% สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันที่ 4.4-4.6 พันบาท สูงกว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่จะอยู่ประมาณ 4.1 พันบาทต่อคนต่อวัน อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดตะวันออกกลาง ททท.ตั้งเป้าหมายในปีนี้ไว้ที่ 2.4 แสนคน
ทางด้านนายธวัชชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป ททท. กล่าวว่า ตลาดตะวันออกกลางมี 3 ประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ได้แก่ โอมาน อิหร่าน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ต้องการให้ผู้ประกอบการไทยนำเสนอ ได้แก่ ชายหาด ธรรมชาติ เมดิคัลทัวร์ และสินค้าที่แสดงถึงความเป็นไทย เช่น ศิลปวัฒนธรรม โดย ททท.มีเป้าหมายนำเสนอประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางให้เป็น ฮอลิดย์เดสติเนชั่น หรือ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย หลักคือ กลุ่มครอบครัว คนทำงาน และเอ็กซแพก(ต่างชาติที่ทำงานในตะวันออกกลาง) เป็นหลัก
สำหรับฤดูกาลที่จะนำเสนอให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจะเน้นช่วงกรีนซีซั่น (มิ.ย.-ส.ค.) เพราะเป็นฤดูฝนอากาศเย็นสบาย
“ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ชาวตะวันออกกลางนิยมที่จะเดินทางเข้ามา เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อบ้าน เพราะมีความเป็นเสรี มีสินค้าทางการท่องเที่ยวหลากหลาย เห็นได้จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากตะวันออกลางเข้ามาประเทศไทย ขณะนี้มีกว่า 43 เที่ยวต่อสัปดาห์ จากก่อนหน้านั้นมีเพียง 20 เที่ยวต่อสัปดาห์ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีดีมานด์จำนวนมากขึ้น” นายธวัชชัย กล่าว