xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวสูญ1.2แสนล.จี้รัฐบาลยุติชุมนุมด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – 8 สมาคมท่องเที่ยวสุดทนม็อบเสื้อแดงป่วนเมือง ทำธุรกิจท่องเที่ยวเจ๊งระนาว ออกโรงเรียงหน้ากระดานฉะถ้ายังไม่รีบยุติการชุมนุมโดยเร็ว ตลาดท่องเที่ยวไทยปีนี้สูญ1.2แสนล้านบาทแน่ ไม่เว้นทั้งตลาดยุโรปและเอเชีย ด้านตลาดจีนเผย ยอดจองทัวร์ช่วงวันแรงงานยังเงียบ ขีดเส้นตาย 20 เม.ย.นี้ถ้าไม่มีถือว่าจบ เตือนสติผู้ชุมนุมว่าทำเพื่อใครกันแน่ ด้าน "ชุมพล" เอาตำแหน่งเดิมพันงานนี้รัฐไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หอการค้าเรียกร้องรัฐบาลยุติการชุมนุมให้เร็วที่สุด

วานนี้ (9 เม.ย.) แถลงสถานการณ์ปัจจุบันทำงายการท่องเที่ยวเมืองไทย ของสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือเฟสต้า ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจาก 8 สมาคมท่องเที่ยวได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) สมาคมท่องเที่ยวเชิญอนุรักษ์และผจญภัย(ทีต้า)  สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน และสมาคมผู้ประกอบการขนส่ง นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมแอตต้า กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีจุดยืนที่ชัดเจนที่เราไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เราต้องการตั้งหน้าตั้งตาประกอบธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ  แต่ขณะนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองได้ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างมาก จนตั้งตัวไม่ติด จึงต้องการขอร้องผู้ที่เกี่ยวข้องให้ควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบ
ทั้งนี้เพราะหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ซึ่งล้วนเป็นตลาดหลักของประเทศไทยนั้นมีความอ่อนไหวเรื่องการชุมนุมเป็นอย่างมาก เพราะเขากังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน หากภาพการชุมนุมมีความรุนแรง โดยเฉพาะ ภาพของการเข้าทำร้ายรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีนั้น แม้แต่ชาวยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าใจเรื่องการชุมนุมภายใต้ระบบประชาธิปไตย ก็ยังเกิดความไม่มั่นใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากภาพการชุมนุมที่เกิดขึ้น ล่าสุดนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ จากประเทศในแถบเอเชีย ที่จะเดินทางเข้ามาจัดประชุมสัมมนาในประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายนนี้ ได้แจ้งยกเลิกการเดินทางมาบ้างแล้ว เพราะเขาเกิดความไม่มั่นใจ เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจระดับผู้บริหาร ย่อมต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ จึงต้องการฝากบอกไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า หากรักประเทศชาติจริง รักองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ขอให้ยุติการชุมนุม เพราะประเทศบอบช้ำเยอะแล้ว   ให้คิดดูว่าสิ่งที่ทำนี้แท้จริงทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
****ฉะม็อบเสื้อแดงป่วนสูญแสนล้าน
สำหรับตลาดยุโรป ช่วงนี้ยังถือเป็นโลว์ซีซั่น ปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามีจำนวนน้อย แต่หากสถานการณ์การชุมนุมของม็อบเสื้อแดงยืดเยื้อไปถึงเดือนพฤษภาคมศกนี้  โดยยังมีไม่ภาพของความสมานฉันท์ออกมาให้เห็นนั้น เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดยุโรปให้เดินทางมาลดลงไม่ต่ำกว่า 50% จากที่เคยคาดไว้ว่าจะหายไปแค่ 20% ส่วนตลาดเอเชียซึ่งเป็นความหวังจะลดลง 40-50% รวมแล้วเสียนักท่องเที่ยวไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน มูลค่าความเสียหาย 120,000 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อขณะนี้ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ปัญหาที่หนักสุดของประเทศไทยที่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวคือการเมืองภายในประเทศ ซึ่งหากยืดเยื้อไปถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทนำเที่ยวในยุโรปจะเริ่มจัดโปรแกรมทัวร์เพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางช่วงปลายปี  ประเทศไทยยังไม่มีภาพแห่งความสมานฉันท์ออกมาให้เห็น บริษัทนำเที่ยวก็จะไม่นำเสนอประเทศไทยให้แก่ลูกค้าแน่ เพราะเขาไม่มั่นใจในความปลอดภัย  โดยจะหันไปนำเสนอประเทศอื่นทดแทน” นายอภิชาติ กล่าว
***เมย์เดย์เงียบยอดจองตลาดจีนวูบ
ทางด้านนายศิษฎิวัชร  ชีวรัตนพร  นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า ผลกระทบจากม็อบเสื้อแดง จะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดจีนปีนี้หายไปเป็นมูลค่านับหมื่นล้านบาท  เห็นได้จากการที่ชาวจีนเริ่มชะลอตัดสินใจซื้อทัวร์เข้ามาประเทศไทยแล้ว  ทั้งที่จีนถือเป็นตลาดความหวังของประเทศไทยที่จะกลับมาเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในย่านเอเชีย เนื่องจากรัฐบาลจีนสนับสนุนให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย  นอกจากนั้นผลจากการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยกันคึกคักมากขึ้น แต่เมื่อมีเหตุความวุ่นวายทางการเมือง การทำร้ายรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี เขาก็ขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย
“บริษัททัวร์ในประเทศจีนเขาบอกว่า เขากลัวเมืองไทย ลงทุนทำตลาดไปมาก แต่พอถึงเวลาจะเดินทางมาเที่ยวก็เกิดเหตุความไม่สงบ  ทั้งที่เขานำเงินมาให้ประเทศไทย แต่ทำไมคนไทยจึงไม่รักประเทศอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ตาม ช่วงสงกรานต์ กลุ่มชาวจีนที่เดินทางมากับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ยังคงเดินทางมา โดยอยู่ที่ประมาณ 50 ลำ จากปีก่อนๆ จะมีประมาณ 100-200 ลำ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงวันแรงงาน 1 พ.ค. ของทุกปี  หรือเมย์เดย์ ซึ่งเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ชาวจีนจะเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก แต่ขณะนี้ยังไม่มียอดจองเข้ามาเลย  โดยบริษัทนำเที่ยวของจีนแจ้งว่า ขอรอดูสถานการณ์ประเทศไทยก่อน ซึ่งหากถึงวันที่ 20 เม.ย.แล้วยังไม่มียอดจองล่วงหน้าเข้ามาแสดงว่า ปีนี้คงหมดหวังรับนักท่องเที่ยวจีนช่วงเมย์เดย์แน่นอน
ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่มาในช่วงเวลาดังกล่าว เช่น ผลกระทบจากเศรษฐกิจ , รัฐบาลจีนลดวันหยุดจาก 5 วัน เหลือเพียง 3 วัน เพื่อต้องการให้ชาวจีนเที่ยวในประเทศ แต่ที่สำคัญสุด คือเขาไม่มั่นใจประเทศจึงไม่เดินทางเข้ามา  
****หวั่นประชุมขนาดใหญ่ปลายปียกเลิก
ด้านนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า มีความกังวลว่าสถานการณ์การชุมนุมจะยืดเยื้อ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่าที่เราได้คิดกันเอาไว้  จะมีคนตกงานเพิ่มขึ้น เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถประคองธุรกิจไว้ต่อไปได้ ขณะเดียวกัน จะได้เห็นการยกเลิกการจัดประชุมขนาดใหญ่ที่กำหนดจะจัดขึ้นในปลายปีนี้ ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้จำนวนมาก
ทั้งนี้ที่กังวลมากที่สุด คือ 2 งานประชุมใหญ่ ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมฯสิริกิติ์ ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมงานละไม่ต่ำกว่า 6-7 พันคน นอกจากนั้น การจัดประชุมสมาชิกไลอ้อนที่พัทยา ที่กำหนดจัดช่วงปลายปี ก็อาจยกเลิกไปจัดที่ประเทศอื่นได้
****“ชุมพล”ยันรัฐไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน*****
ทางด้านนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจภาคเอกชนท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลักดันมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการมาโดยตลอด โดยส่วนตัวก็มีความกังวลไม่น้อยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะทำลายบรรยากาศของการท่องเที่ยว ซึ่งทางออกที่ดีที่สุด คือต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน ไม่ใช่แก้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง การออกมาแสดงจุดยืนและบอกกล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อย ผู้ชุมนุมอยู่จะได้หยุดคิดได้บ้างว่า ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อ รุนแรง ผลกระทบก็จะเกิดแก้หน้าที่การงานและธุรกิจของผู้ชุมนุมเช่นกัน เพราะเศรษฐกิจอยู่ไม่ได้ คนก็อยู่ไม่ได้
อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่า แม้จะมีการชุมนุม แต่จะไม่มีการปิดสนามบิน และไม่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแน่นอน แต่หากมีตนจะขอยื่นหนังสือลาจากตำแหน่งทันที

***หอการค้าเรียกร้องรัฐบาลยุติการชุมนุม
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการปิดถนนหลายจุดในกรุงเทพฯว่าจะลุกลามบานปลาย ซึ่งภาพการชุมนุมขณะนี้ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสายตาความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนและนักท่องเที่ยวไปแล้ว แม้ขณะนี้จะยังไม่ขยายไปจนถึงขั้นปิดสนามบิน ท่าเรือ ก็ตาม แต่ทางหอการค้าไทยคงยังไม่มีท่าทีเพิ่มเติมออกมา ต้องรอประเมินสถานการณ์อีก 2 วันว่าจะลุกลามบานปลายไปกว่านี้หรือไม่
“รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาให้การชุมนุมยุติเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจส่งกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในด้านอื่น เช่นภาคการส่งออก หากให้มีการปิดถนนยาวนาน อาจทำการขนส่งสินค้าทางรถบรรทุกมีปัญหาตามมาในอนาคต” นายพรศิลป์กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น