ASTVผู้จัดการรายวัน – “ชุมพล” ไฟเขียวเปิดทางทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ ของบปี 53 เพิ่ม อ้างถ้าจำเป็นและประชาชนได้ประโยชน์ ด้าน สพท.ตีปีก เล็งเพิ่มอีก 20 % ขณะที่ททท.ยัน 9.4 พันล้านเพียงพอ จับตาตลาดจีน พ.ค.นี้ยังไม่ฟื้น
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุมเตรียมจัดทำงบประมาณประจำปี 2553 ได้แจ้งทุกหน่วยงานของกระทรวงฯและรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในความดูแลว่า ต้องการให้ของบเพิ่มจากปีก่อนมากๆ โดยเฉพาะหากเห็นว่าโครงการนั้นๆ มีความจำเป็น มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และประชาชน เช่น งบการสร้างศูนย์พัฒนาการกีฬา ก็ให้เสนอขอมาได้เต็มที่ หรือ งบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการตลาด ที่ต้องทำงานเชิงรุกดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้มากที่สุดในยุคที่การแข่งขันรุนแรง
ดังนั้นวงเงินงบประมาณปี 2553 ที่ ททท.เสนอขอมา 9.4 พันล้านบาทนั้นมองว่ายังน้อยไปเมื่อเทียบกับภาระกิจที่จะต้องดำเนินการต่อ ขั้นต่ำต้องหมื่นล้านบาทขึ้นไปตามความเหมาะสม ดังนั้นจึงให้แต่ละหน่วยงานกลับไปพิจารณาตัวเลขงบประมาณอีกครั้งก่อนนำกลับมาเสนอในวันที่ 6 มี.ค.52ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มี.ค.52
“ท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นเม็ดเงินมหาศาล ในสถานการณ์ที่ท่องเที่ยวเกิดภาวะวิกฤตรัฐต้องยอมทุ่มงบประมาณเพื่อให้ตลาดฟื้นกลับมาโดยเร็ว แม้จะต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาก็ตาม เพราะเมื่อภาคเอกชนฟื้น รัฐก็จะมีครายได้จากการจัดเก็บภาษีเช่นกัน ดังนั้นการกู้เงินจึงไม่ใช้เรื่องสูญเปล่า ดังนั้นตัวเลขที่รัฐบาลจะกู้ 2 แสนล้านจึงน้อยไป เมื่อเทียบกับวิกฤตเศรษบกิจของประเทศ ต้องกู้เป็นล้านล้านบาท จึงเพียงพอกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ อย่าไปเสียดาย หรือสร้างเงื่อนไขการใช้เงินให้มากมายนัก เพราะจะทำให้งานสะดุด” นายชุมพล กล่าว
ด้านนางธนิฎฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) กล่าวว่าปี 2553 สพท. ยื่นของบ 500 ล้านบาท โดยจะใช้ในสว่นของกิจการภาพยนตร์ราว 70 ล้านบาท อีก 300 ล้านบาท จะให้พัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม มีทั้งส่วที่เป็นเฟส 2 และ ส่วนที่จะเริ่มต้นใหม่อีกราว 3-5 แหล่ง ดังนั้น หากสามารถของบได้เพิ่มก็จะปรับเพิ่มอีก 20% จากตัวเลขเดิม
ขณะที่ในส่วนของ ททท. นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า วงเงินงบปี 2553 ที่ขอไป 9.4 พันล้าน น่าจะพอกับการทำงาน เพราะเราได้คำนวณเรื่องความเสี่ยงไว้ด้วยแล้ว ซึ่งความจริงอยากขอ 1 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามนายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนขณะนี้อยู่ระหว่างรอการเมืองไทยให้ชัดเจน เพราะ คนจีนยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดยอดจองชาร์เตอร์ไฟล์มีแล้ว 20 ลำ เดินทางมาในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดยางของชาวจีน ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนที่มียอดจองถึง 50ส่วนบนของฟอร์ม
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุมเตรียมจัดทำงบประมาณประจำปี 2553 ได้แจ้งทุกหน่วยงานของกระทรวงฯและรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในความดูแลว่า ต้องการให้ของบเพิ่มจากปีก่อนมากๆ โดยเฉพาะหากเห็นว่าโครงการนั้นๆ มีความจำเป็น มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และประชาชน เช่น งบการสร้างศูนย์พัฒนาการกีฬา ก็ให้เสนอขอมาได้เต็มที่ หรือ งบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการตลาด ที่ต้องทำงานเชิงรุกดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้มากที่สุดในยุคที่การแข่งขันรุนแรง
ดังนั้นวงเงินงบประมาณปี 2553 ที่ ททท.เสนอขอมา 9.4 พันล้านบาทนั้นมองว่ายังน้อยไปเมื่อเทียบกับภาระกิจที่จะต้องดำเนินการต่อ ขั้นต่ำต้องหมื่นล้านบาทขึ้นไปตามความเหมาะสม ดังนั้นจึงให้แต่ละหน่วยงานกลับไปพิจารณาตัวเลขงบประมาณอีกครั้งก่อนนำกลับมาเสนอในวันที่ 6 มี.ค.52ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มี.ค.52
“ท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นเม็ดเงินมหาศาล ในสถานการณ์ที่ท่องเที่ยวเกิดภาวะวิกฤตรัฐต้องยอมทุ่มงบประมาณเพื่อให้ตลาดฟื้นกลับมาโดยเร็ว แม้จะต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาก็ตาม เพราะเมื่อภาคเอกชนฟื้น รัฐก็จะมีครายได้จากการจัดเก็บภาษีเช่นกัน ดังนั้นการกู้เงินจึงไม่ใช้เรื่องสูญเปล่า ดังนั้นตัวเลขที่รัฐบาลจะกู้ 2 แสนล้านจึงน้อยไป เมื่อเทียบกับวิกฤตเศรษบกิจของประเทศ ต้องกู้เป็นล้านล้านบาท จึงเพียงพอกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ อย่าไปเสียดาย หรือสร้างเงื่อนไขการใช้เงินให้มากมายนัก เพราะจะทำให้งานสะดุด” นายชุมพล กล่าว
ด้านนางธนิฎฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) กล่าวว่าปี 2553 สพท. ยื่นของบ 500 ล้านบาท โดยจะใช้ในสว่นของกิจการภาพยนตร์ราว 70 ล้านบาท อีก 300 ล้านบาท จะให้พัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม มีทั้งส่วที่เป็นเฟส 2 และ ส่วนที่จะเริ่มต้นใหม่อีกราว 3-5 แหล่ง ดังนั้น หากสามารถของบได้เพิ่มก็จะปรับเพิ่มอีก 20% จากตัวเลขเดิม
ขณะที่ในส่วนของ ททท. นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า วงเงินงบปี 2553 ที่ขอไป 9.4 พันล้าน น่าจะพอกับการทำงาน เพราะเราได้คำนวณเรื่องความเสี่ยงไว้ด้วยแล้ว ซึ่งความจริงอยากขอ 1 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามนายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนขณะนี้อยู่ระหว่างรอการเมืองไทยให้ชัดเจน เพราะ คนจีนยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดยอดจองชาร์เตอร์ไฟล์มีแล้ว 20 ลำ เดินทางมาในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดยางของชาวจีน ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนที่มียอดจองถึง 50ส่วนบนของฟอร์ม