ASTVผู้จัดการรายวัน – “พรศิริ” ใจดีสู้ชงแผนของบฉุกเฉินกระตุ้นตลาดท่องเที่ยววงเงิน 1,900 ล้านบาท ส่งเรื่องถึง “ชุมพล” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมเสนอฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน 4 เดือน หวังกระตุ้นตลาดคนจีนให้คึกคักรับช่วงตรุษจีนและสงกรานต์ ระบุยอมรับเรื่องต้องผ่านที่ประชุมบอร์ด ททท.ก่อน ซึ่งกำหนดประชุม 15 ม.ค.นี้ แต่หวั่นยืดเยื้อ เหตุยังไร้เงาประธานบอร์ดคนใหม่ จึงโยกงบประจำมาใช้ก่อน
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวแบบเร่งด่วน เพื่อเสนอต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้พิจารณาและใช้เป็นข้อมูลในการนำเสนอของบพิเศษฉุกเฉิน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวงเงิน 1,900 ล้านบาท อีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น เพราะว่า แผนงานดังกล่าว จะต้องรอการนำเสนอต่อที่ประชุมของคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ด) เพื่อขอความเห็นชอบจากบอร์ดก่อนจึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไปได้
ทั้งนี้การประชุมบอร์ด ททท.ครั้งต่อไปนั้น ได้กำหนดให้มีขึ้นแล้วในวันที่ 15 มกราคม 2552 แต่ปัญหามีอยู่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีประธานบอร์ด ททท. เป็นทางการแต่อย่างใด เนื่องจากว่านายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอดร์ดคนเดิมได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดททท.เป็นที่เรียบร้อยไปแล้วเมื่อไม่นานนี้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ จึงต้องรอให้มีการแต่งตั้งประธานบอร์ดททท.คนใหม่เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถกำหนดการประชุมที่แน่นอนได้อีกครั้ง ทำให้ขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า การประชุมบอร์ด ททท. ที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น จะสามารถประชุมทันหรือไม่หรือต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอให้มีประธานบอร์ดก่อน
นางพรศิริ กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะติดปัญหาดังกล่าวก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามากไปกว่านี้ ททท. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้เริ่มดำเนินการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวทันทีที่เหตุการณ์บ้านเมืองของประเทศสงบลง โดยแผนงานคือ การโยกเงินจากงบประมาณประจำที่มีอยู่ออกไปใช้ก่อน จึงไม่น่าจะกระทบต่อการทำงานตามแผนที่กำหนดเอาไว้และเชื่อว่า การเบิกจ่ายงบฉุกเฉินที่กำลังจะเสนอขอนี้ คาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว
สำหรับตลาดแรกที่ททท.คาดว่าจะเริ่มดำเนินการคือ ประเทศจีน เป็นลำดับแรก และ จะขยายไปประเทศเป้าหมายอื่นๆ ในย่านเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ตามลำดับต่อไป ซึ่งล่าสุดยังได้นำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ด้วยว่า ขอให้นายชุมพลเสนอต่อที่ประชุม ครม.ด้วยว่า ขอให้รัฐบาลสั่งยกเลิกเก็บค่าวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นการชั่วคราว ไว้ก่อนเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน คือ จากเดือนมกราคม-เมษายน 2552 เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้มากขึ้น ซึ่งททท.มั่นใจว่าเมื่อมีการกระตุ้นตลาดมากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลดีต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นด้วย ดีกว่าการที่ไม่กระตุ้นตลาดเลย
อย่างไรก็ตาม วงเงินงบฉุกเฉิน 1,900 ล้านบาท ที่ ททท.จะเสนอขอเป็นงบกระตุ้นตลาดพิเศษนี้ แบ่งการใช้จ่ายเป็น สำหรับประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ 400 ล้านบาท ,โฆษณาในต่างประเทศ 500 ล้านบาท , จัดแฟมทริป เชิญสื่อและบริษัททัวร์จากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทย 200 ล้านบาท ,ทำโปรโมชั่นผ่านระบบออนไลน์ 100 ล้านบาท ,ใช้ประชาสัมพันธ์และโฆษณาภายในประเทศ 300 ล้านบาท, งบจัดกิจกรรมพิเศษในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยว และ ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 200 ล้านบาท และ ร่วมกับพันธมิตร เช่น บริษัทนำเที่ยว สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร จัดกิจกรรมกระตุ้นไทยเที่ยวไทย 200 ล้านบาท
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวแบบเร่งด่วน เพื่อเสนอต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้พิจารณาและใช้เป็นข้อมูลในการนำเสนอของบพิเศษฉุกเฉิน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวงเงิน 1,900 ล้านบาท อีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น เพราะว่า แผนงานดังกล่าว จะต้องรอการนำเสนอต่อที่ประชุมของคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ด) เพื่อขอความเห็นชอบจากบอร์ดก่อนจึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไปได้
ทั้งนี้การประชุมบอร์ด ททท.ครั้งต่อไปนั้น ได้กำหนดให้มีขึ้นแล้วในวันที่ 15 มกราคม 2552 แต่ปัญหามีอยู่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีประธานบอร์ด ททท. เป็นทางการแต่อย่างใด เนื่องจากว่านายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอดร์ดคนเดิมได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดททท.เป็นที่เรียบร้อยไปแล้วเมื่อไม่นานนี้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ จึงต้องรอให้มีการแต่งตั้งประธานบอร์ดททท.คนใหม่เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถกำหนดการประชุมที่แน่นอนได้อีกครั้ง ทำให้ขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า การประชุมบอร์ด ททท. ที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น จะสามารถประชุมทันหรือไม่หรือต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอให้มีประธานบอร์ดก่อน
นางพรศิริ กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะติดปัญหาดังกล่าวก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามากไปกว่านี้ ททท. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้เริ่มดำเนินการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวทันทีที่เหตุการณ์บ้านเมืองของประเทศสงบลง โดยแผนงานคือ การโยกเงินจากงบประมาณประจำที่มีอยู่ออกไปใช้ก่อน จึงไม่น่าจะกระทบต่อการทำงานตามแผนที่กำหนดเอาไว้และเชื่อว่า การเบิกจ่ายงบฉุกเฉินที่กำลังจะเสนอขอนี้ คาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว
สำหรับตลาดแรกที่ททท.คาดว่าจะเริ่มดำเนินการคือ ประเทศจีน เป็นลำดับแรก และ จะขยายไปประเทศเป้าหมายอื่นๆ ในย่านเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ตามลำดับต่อไป ซึ่งล่าสุดยังได้นำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ด้วยว่า ขอให้นายชุมพลเสนอต่อที่ประชุม ครม.ด้วยว่า ขอให้รัฐบาลสั่งยกเลิกเก็บค่าวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นการชั่วคราว ไว้ก่อนเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน คือ จากเดือนมกราคม-เมษายน 2552 เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้มากขึ้น ซึ่งททท.มั่นใจว่าเมื่อมีการกระตุ้นตลาดมากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลดีต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นด้วย ดีกว่าการที่ไม่กระตุ้นตลาดเลย
อย่างไรก็ตาม วงเงินงบฉุกเฉิน 1,900 ล้านบาท ที่ ททท.จะเสนอขอเป็นงบกระตุ้นตลาดพิเศษนี้ แบ่งการใช้จ่ายเป็น สำหรับประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ 400 ล้านบาท ,โฆษณาในต่างประเทศ 500 ล้านบาท , จัดแฟมทริป เชิญสื่อและบริษัททัวร์จากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทย 200 ล้านบาท ,ทำโปรโมชั่นผ่านระบบออนไลน์ 100 ล้านบาท ,ใช้ประชาสัมพันธ์และโฆษณาภายในประเทศ 300 ล้านบาท, งบจัดกิจกรรมพิเศษในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยว และ ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 200 ล้านบาท และ ร่วมกับพันธมิตร เช่น บริษัทนำเที่ยว สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร จัดกิจกรรมกระตุ้นไทยเที่ยวไทย 200 ล้านบาท