ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สมาคมฯ ท่องเที่ยวเมืองพ่อขุนฯ เตรียมยกทีมร่วมงาน “คุนหมิงแฟร์” กลางเดือนนี้ กรุยทางดึงนักท่องเที่ยวจีนตอนใต้เข้าไทยผ่านชายแดนเชียงราย ตั้งเป้าเฉพาะกลุ่มถือพาสปอร์ตในหยุนหนันแค่ 1% พร้อมเสนอกระทรวงท่องเที่ยวฯตั้ง One Stop Service ด้านท่องเที่ยวนำร่อง ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บริการนักท่องเที่ยวจุดเดียว แยกจากช่องทางสินค้าเข้า-ออก
นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19-24 เมษายน สมาคมฯจะนำคณะไปร่วมเปิดบูทท่องเที่ยวในงาน “คุนหมิงแฟร์” ที่นครคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโควตาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อกรุยทางดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้ เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น
เขามองว่า นักท่องเที่ยวจีนมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมหาศาล เบื้องต้นเฉพาะกลุ่มคนในเขตมณฑลหยุนหนัน 60 กว่าล้านคน ประเมินคร่าวๆ มีกลุ่มที่ถือพาสปอร์ตอยู่แล้ว ไม่น่าจะน้อยกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้หากสามารถดึงเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพียง 1% หรืออาจจะประมาณ 1 ล้านคน ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
ทั้งนี้ หากทำได้ 1 ล้านคน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าประเทศไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ตามอัตราการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน ที่อยู่ในระดับประมาณ 3,000 กว่าบาท/คน/วัน หากมีระยะเวลาการเที่ยวเฉลี่ย 7 วัน นั่นหมายถึงจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
“ไม่จำเป็นต้องผลักดันเรื่อง Entry Exit Permit หรือเอกสารแทนหนังสือผ่านแดนสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ ที่ตกลงกัน เพราะติดปัญหาเรื่องความมั่นคงอยู่ แต่ขอให้มุ่งเฉพาะกลุ่มที่ถือพาสปอร์ตเป็นหลักเท่านั้น ก็ถือว่าเพียงพอแล้วในระยะแรกนี้”
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมีแนวคิดที่จะพยายามผลักดันให้แหล่งท่องเที่ยวใน GMS และสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ให้บรรจุในโปรแกรมทัวร์หลัก ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เดินทางเข้ามา ผ่านทางประเทศไทย ซึ่งในแง่ของศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว ถือว่า มีเพียงพออยู่แล้ว ขาดเพียงการโปรโมตที่จริงจังเท่านั้น
นายสมเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า และเมื่อเร็วๆ นี้สมาคมฯยังได้ทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการท่องเที่ยวเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ขึ้นในแต่ละด่านของจังหวัดเชียงราย ทั้งแม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ โดยแยกออกจากช่องทางการนำเข้า-ส่งออกสินค้า เป็นโปรเจกต์นำร่อง
โดย One Stop Service ท่องเที่ยวนี้ จะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากร, ตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ รวมทั้งสรรพากร ที่จะเข้ามาทำหน้าที่จัดเก็บภาษีแก้ปัญหา “ทัวร์ 0 เหรียญ” และองค์กรเอกชน ที่จะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมตรวจสอบปัญหาต่างๆ ของนักท่องเที่ยว เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตัดสินใจ เพราะกลุ่มภาคเอกชนจะมีข้อมูลเรื่องกลเม็ดต่างๆ ในแวดวงเดียวกัน
ล่าสุด กระทรวงฯ ได้สั่งให้ ททท.ภาคเหนือเขต 2 เชียงราย ดำเนินการศึกษารายละเอียด เพื่อเป็นเป็นโครงการนำร่องแล้ว หากทำได้สำเร็จก็จะนำไปเป็นต้นแบบสำหรับด้านอื่น ๆ ต่อไปทั่วประเทศได้
นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19-24 เมษายน สมาคมฯจะนำคณะไปร่วมเปิดบูทท่องเที่ยวในงาน “คุนหมิงแฟร์” ที่นครคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโควตาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อกรุยทางดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้ เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น
เขามองว่า นักท่องเที่ยวจีนมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมหาศาล เบื้องต้นเฉพาะกลุ่มคนในเขตมณฑลหยุนหนัน 60 กว่าล้านคน ประเมินคร่าวๆ มีกลุ่มที่ถือพาสปอร์ตอยู่แล้ว ไม่น่าจะน้อยกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้หากสามารถดึงเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพียง 1% หรืออาจจะประมาณ 1 ล้านคน ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
ทั้งนี้ หากทำได้ 1 ล้านคน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าประเทศไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ตามอัตราการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน ที่อยู่ในระดับประมาณ 3,000 กว่าบาท/คน/วัน หากมีระยะเวลาการเที่ยวเฉลี่ย 7 วัน นั่นหมายถึงจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
“ไม่จำเป็นต้องผลักดันเรื่อง Entry Exit Permit หรือเอกสารแทนหนังสือผ่านแดนสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ ที่ตกลงกัน เพราะติดปัญหาเรื่องความมั่นคงอยู่ แต่ขอให้มุ่งเฉพาะกลุ่มที่ถือพาสปอร์ตเป็นหลักเท่านั้น ก็ถือว่าเพียงพอแล้วในระยะแรกนี้”
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมีแนวคิดที่จะพยายามผลักดันให้แหล่งท่องเที่ยวใน GMS และสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ให้บรรจุในโปรแกรมทัวร์หลัก ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เดินทางเข้ามา ผ่านทางประเทศไทย ซึ่งในแง่ของศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว ถือว่า มีเพียงพออยู่แล้ว ขาดเพียงการโปรโมตที่จริงจังเท่านั้น
นายสมเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า และเมื่อเร็วๆ นี้สมาคมฯยังได้ทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการท่องเที่ยวเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ขึ้นในแต่ละด่านของจังหวัดเชียงราย ทั้งแม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ โดยแยกออกจากช่องทางการนำเข้า-ส่งออกสินค้า เป็นโปรเจกต์นำร่อง
โดย One Stop Service ท่องเที่ยวนี้ จะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากร, ตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ รวมทั้งสรรพากร ที่จะเข้ามาทำหน้าที่จัดเก็บภาษีแก้ปัญหา “ทัวร์ 0 เหรียญ” และองค์กรเอกชน ที่จะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมตรวจสอบปัญหาต่างๆ ของนักท่องเที่ยว เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตัดสินใจ เพราะกลุ่มภาคเอกชนจะมีข้อมูลเรื่องกลเม็ดต่างๆ ในแวดวงเดียวกัน
ล่าสุด กระทรวงฯ ได้สั่งให้ ททท.ภาคเหนือเขต 2 เชียงราย ดำเนินการศึกษารายละเอียด เพื่อเป็นเป็นโครงการนำร่องแล้ว หากทำได้สำเร็จก็จะนำไปเป็นต้นแบบสำหรับด้านอื่น ๆ ต่อไปทั่วประเทศได้
