ภาครัฐลุยแผนการตลาดเร่งฟื้นการท่องเที่ยวพัทยา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาจับมือไรมอนแลนด์จัดเสวนา "แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา" เร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว เผยเตรียมลุยแผนงานจัดทำเรื่องการตลาดท่องเที่ยวทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ชี้ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้านไรม่อนแลนด์เตรียมผุดโครงการที่พักอาศัยในเมืองพัทยาต่อกลางปีหน้า มองศักยภาพเมืองพัทยาและภาคตะวันออกยังมีความเติบโตสูง

วันที่ 27 มี.ค.52 ที่โรงแรมอมารี โอเชี่ยนทาวเวอร์ พัทยา จ.ชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาเป็นประธานเปิดเสวนา "แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา" ซึ่งจัดโดยเมืองพัทยาและกลุ่มไรมอนแลนด์ โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นวิทยากรให้ความรู้ในแนวนโยบายและมาตรการรัฐบาลในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยา ท่ามกลางตัวแทนจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก และตัวแทนชุมชนของเมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมาทั่วประเทศประสบปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ แต่ประเทศพบว่าสถิติมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวนับได้ว่ามากที่สุดของประเทศ จากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกพบว่าประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่โดยไม่อาศัยการเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่ไม่น้อย ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีนตอนใต้ก็มีการเดินทางด้วยรถยนต์และอาศัยระบบขนส่งมวลชนต่างๆ เข้ามาทางจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเข้ามายังพื้นที่เมืองพัทยาซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีในส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่อาศัยการเดินทางแบบเดียวกันเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านจังหวัดทางภาคใต้ก่อนมาพักผ่อนยังเมืองพัทยา และมีสัญญาณชี้ให้เห็นว่าประเทศแถบอินโดจีนจะมีการเติบโตขึ้นด้วย ล่าสุดพบว่าเรือสำราญควีนส์แมรี่ซึ่งเป็นเรื่องท่องเที่ยวที่ใหญ่และแพงที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้บริการรวมถึงลูกเรือเกือบ 4,000 คนได้เข้าเทียบท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเข้ามาพักผ่อน และรับปากว่าปีหน้าจะเดินทางมาอีกเพราะมีความประทับใจแหล่งท่องเที่ยวแถบนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งพบว่าตลาดการท่องเที่ยวนอกเหนือจากความบันเทิงแล้ว รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวชย์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจะเป็นความน่าสนใจใหม่ที่ขะขับเคลื่อวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาไปได้

นายวีระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการในส่วนของการจัดทำแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยได้จัดทำในสว่นของภาคเหนือไปแล้วและในเดือนพฤษภาคม 2552 ที่จะถึงนี้ จะได้มีการจัดทำแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยวในส่วนของภาคตะวันออก และเดินหน้าตาภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเท่ยวของประเทศไทยให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น

จากข้อมูลการวิเคราะห์โอกาสทางการตลากของ ททท. ได้กำหนดกลยุทธ์และมาตรการทางการตลาดโดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่มตลาดดังนี้คือ 1.กลุ่มตลาดศักยภาพพร้อมเดินทาง เป้าหมายจะเป็นประเทศแถบสแกนดิเนเวีย อินเดีย รัสเซีย อินโดนีเซีย และบางประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ลักษณะของกลุ่มตลาดจะเป็นกลุ่มที่มีความรู้สึกด้านลบต่อประเทศไทยในเรื่องปัญหาการเมืองภายใน ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ โดยประเทศไทยยังได้รับความนิยม จึงควรหาแนวทางในการเสริมความมั่นใจสามารถนำไปสู่การขยายฐานตลาด

2.กลุ่มตลาดที่มีโอกาสกลับคืน เป้าหมายจะเป็นประเทศเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศษ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอแลนด์ สเปน อิตาลี สหรัฐอเมริการและตะวันออกกลาง ลักษณะของกลุ่มตลาดมิได้ลดความเชื่อมั่นตอ่ประเทศไทยและยังพึงพอใจแหล่งท่องเที่ยวในไทยเป็นอย่างมาก แต่มีความกังวลในรูปแบบการเผชิญหย้า ซึ่งทำลายภาพลักษณ์วคมาเป็นมิตรของคนไทย และด้วยการเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่มีปัญหา ประเทศไทยจึงต้องใช้โอกาสการคุ้มค่าเงินเป็นตัวดึงดูด จึงควรสร้างความเข้าใจเพื่อรักษาสถานะทางการตลาดเอาไว้

3.กลุ่มตลาดชะลอตัว เป้าหมายคือจีน สิงคโปร์ เวียดนาม และออสเตรเลีย ลักษณธตลาดเป็นกลุ่มตลาดที่ขาดความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยค่นข้างมาก ความรู้สึกไว้วางใจต่อความปลอดภัยในการเดินทางจึงลดลง ซึ่งประเทศไทยสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสโดยอาศัยความได้เปรียบเรื่องความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยกลยุทธ์ฟื้นความเชื่อมั่นและรักษาฐานตลาด

และ 4.กลุ่มตลาดหดตัว เป้าหมายเป็นญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน ลักษณะเป็นกลุ่มตลาดที่สูญเสียความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในระดับสูง มีความอ่อนไหวเรื่องความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐสูงมาก นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการผูกโยงระบบเศรษฐกิจกับสหรัฐอเมริกา และด้วยความเป็นตลาดใหญ่ของไทย จึงจำเป็นต้องเรียกศรัทธาคืน โดยคาดหวังเพียงเพื่อประคับประคองตลาด

ด้าน มร.เฮนรี่ ยัง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมืองพัทยายังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการลงทุนและเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เพราะมีความใกล้เคียงเขตนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดและสนามบิน จึงส่งผลให้ตลาดในจังหวัดภาคตะวันออกยังมีความเข้มแรแข็งสูงมาก

ที่ผ่านมาไรมอนแลนด์ได้ลงทุนในเรื่องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยามาแล้วซึ่งมีผลตอบรับค่อนข้างดี และโครงการนอทพอยต์ที่เปิดตัวไปเมื่อปี ค.ศ.2006 จะแล้วเสร็จประมาณสิ้นปีนี้ กลุ่มไรมอนแลนด์จะเดินหน้าโครงการต่อไปหลังจากปิดยอดขายซึ่งตั้งเอาไว้ประมาณช่วงกลางปีหน้า โดยจะลงทุนในโครงการที่ใช้ชื่อว่าดิ เอจ เพื่อเพิ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อต่อไป ทั้งนี้เมืองพัทยาดูแล้วคล้ายกับรัฐฟอริด้าของสหรัฐอเมริกาและอนาคตก็จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในมุมของนักลงทุน