พาต้าเตรียมถกสมาชิกในอาเซียน แนะให้เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเดียวกัน หวังสร้างภูมิคุ้มกัน แก้ผลกระทบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ยาหอมมาตรการยกเว้นวีซ่าของประเทศไทยเป็นเรื่องดี เชื่อช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยได้ ด้าน "พรศิริ" พร้อมนั่งประธานพาต้า เม.ย.นี้ มั่นใจช่วยกู้ภาพลักษณ์ประเทศและชูบทบาทไทยในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เวทีนานาชาติได้รับรู้
นายเกรกอรี่ เอ.ดัฟเฟล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(พาต้า) เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับประเทศสมาชิกในอาเซียนให้หันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวกันในหมู่ประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะประเทศที่มีพรมแดนติดกันหรือใกล้กัน เช่น ไทย-ลาว, ไทย-เวียดนาม , ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งนี้เพราะจากภาวะเศรษฐกิจโลก ได้มีผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล ที่เดินทางมาจากยุโรป อเมริกา ลดจำนวนลง ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาท่องเที่ยวในระยะทางที่ใกล้ขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ดังนั้น ถ้ามีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่ใกล้กันนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ จัดแพกเกจท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
สำหรับกรณีประเทศไทย จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวทุกชาติ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 5 มี.ค.-4 พ.ค. 52 นับเป็นเรื่องที่ดี เชื่อว่ามาตรการนี้จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะไทยถือเป็นเดสติเนชั่นที่น่าท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆในโลก ที่นักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางเข้ามา เมื่อมีมาตราการที่น่าสนใจทำให้เขาได้มาเที่ยวได้ในราคาที่ถูกลง เชื่อว่านักท่องเที่ยวน่าจะตัดสินใจเลือกประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการพาต้า คนที่ 13 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.52-31มี.ค.53 รวมเวลา 1 ปี หลังจากพ้นตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.ในปลายเดือนนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่าตำแหน่งประธานกรรมการพาต้า ครั้งแรกของประเทศไทยนี้ จะมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมีความก้าวหน้ามากขึ้น สอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะมีตัวแทนประเทศไทยได้เข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ด้านการส่งเสริมการและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยภารกิจแรกที่จะเร่งดำเนินการหลังรับตำแหน่ง คือ เร่งผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวกันภายในภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น นำเสนอความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค การแสดงออกถึงท่าทีประเทศไทยในการแก้ปัญหาท่องเที่ยวและปัญหาอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวไทย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดแก่ประเทศไทยและเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ
อย่างไรก็ตามองค์กรพาต้าก่อตั้งมา 56 ปี จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สมาชิกพาต้าประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรต่างๆในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 1,000 หน่วยงาน จาก 74 ประเทศ ในที่นี้สมาชิกที่เป็นหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ 46 ประเทศ
นายเกรกอรี่ เอ.ดัฟเฟล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(พาต้า) เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับประเทศสมาชิกในอาเซียนให้หันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวกันในหมู่ประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะประเทศที่มีพรมแดนติดกันหรือใกล้กัน เช่น ไทย-ลาว, ไทย-เวียดนาม , ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งนี้เพราะจากภาวะเศรษฐกิจโลก ได้มีผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล ที่เดินทางมาจากยุโรป อเมริกา ลดจำนวนลง ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาท่องเที่ยวในระยะทางที่ใกล้ขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ดังนั้น ถ้ามีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่ใกล้กันนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ จัดแพกเกจท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
สำหรับกรณีประเทศไทย จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวทุกชาติ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 5 มี.ค.-4 พ.ค. 52 นับเป็นเรื่องที่ดี เชื่อว่ามาตรการนี้จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะไทยถือเป็นเดสติเนชั่นที่น่าท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆในโลก ที่นักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางเข้ามา เมื่อมีมาตราการที่น่าสนใจทำให้เขาได้มาเที่ยวได้ในราคาที่ถูกลง เชื่อว่านักท่องเที่ยวน่าจะตัดสินใจเลือกประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการพาต้า คนที่ 13 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.52-31มี.ค.53 รวมเวลา 1 ปี หลังจากพ้นตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.ในปลายเดือนนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่าตำแหน่งประธานกรรมการพาต้า ครั้งแรกของประเทศไทยนี้ จะมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมีความก้าวหน้ามากขึ้น สอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะมีตัวแทนประเทศไทยได้เข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ด้านการส่งเสริมการและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยภารกิจแรกที่จะเร่งดำเนินการหลังรับตำแหน่ง คือ เร่งผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวกันภายในภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น นำเสนอความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค การแสดงออกถึงท่าทีประเทศไทยในการแก้ปัญหาท่องเที่ยวและปัญหาอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวไทย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดแก่ประเทศไทยและเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ
อย่างไรก็ตามองค์กรพาต้าก่อตั้งมา 56 ปี จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สมาชิกพาต้าประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรต่างๆในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 1,000 หน่วยงาน จาก 74 ประเทศ ในที่นี้สมาชิกที่เป็นหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ 46 ประเทศ