ในท่ามกลางความแตกแยกทางความคิดและความขัดแย้งทางการเมืองได้ขยายตัวลุกลามจนกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างรุนแรง นายเนวิน ชิดชอบ ก็ได้เปิดตัวเปิดใจครั้งสำคัญพร้อมน้ำตา ยึดพื้นที่สื่อและครองใจคนได้อย่างกว้างขวาง
ในวันนี้มังกรการเมือง เนวิน ชิดชอบ ผงาดฟ้าเต็มภาคภูมิแล้ว แม้ว่าจะยังคงติดบ่วงชนักต้องห้ามการใช้สิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่ชนักดังกล่าวก็หาได้จำกัดหรือปิดกั้นประกายมังกรการเมืองอย่างเนวิน ชิดชอบ ได้เลย
การเปิดใจดังกล่าวทำให้คนไทยจำนวนมากมีความหวังว่าสถานการณ์ที่วิกฤตซึ่งกำลังเกิดขึ้นและขยายตัวไปอย่างกว้างขวางอาจจะได้รับการเยียวยาแก้ไขให้ความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมืองได้อีกครั้งหนึ่ง
นับตั้งแต่รัฐบาลชุดที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา สถานการณ์บ้านเมืองได้เกิดความแตกแยก ความขัดแย้ง และทวีความรุนแรงขึ้นโดยลำดับ ทั้งขยายพื้นที่ความขัดแย้งแตกแยกออกไปอย่างกว้างขวางกว่า 40 จังหวัด
กำลังจะใกล้เคียงกับพื้นที่เขตแดงเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเมื่อปลายศตวรรษที่แล้ว และระงับสลายไปด้วยนโยบาย 66/2523 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ทำให้ทั่วประเทศได้กลับคืนสู่ความสงบสุขและสันติอีกครั้งหนึ่ง
ทว่ารัฐบาลหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 มิได้ดำเนินการใดๆ ในทางที่จะฟื้นคืนความสงบสุขให้กับประเทศไทย ปล่อยให้สถานการณ์บานปลายขยายตัวจนกำลังใกล้จะเกิดเป็นสงครามกลางเมืองทุกทีแล้ว
ในพลันที่มีการพลิกผันขั้วการเมืองและพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่พากันให้กำลังใจด้วยความหวังว่ารัฐบาลนี้จะสามารถนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประเทศชาติได้
ทุกคนเชื่อถือคำพูดในเชิงปฏิญญาประชาคมที่นายกรัฐมนตรีหนุ่มรูปงามคนใหม่ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชาติไทยว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะนำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคน จะเคารพและรักษากฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ จะไม่ให้มีการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงขึ้นในบ้านเมืองอีก
แต่วันแล้ววันเล่าก็ไม่ปรากฏว่ามีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมใดๆ ให้เห็นเด่นชัด วันเวลาส่วนใหญ่ผ่านไปด้วยการพร่ำรำพันเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การปรองดอง และการให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
เป็นคำพูดที่ดูระรื่นหู แต่ไม่มีเนื้อหาทางการปฏิบัติแม้แต่น้อย เพราะยังคงปล่อยให้มีการใช้สื่อมวลชนสารพัดชนิดในการสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนในการปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อเพื่อการทำสงครามแตกหักเพื่อล้มระบอบอมาตยาธิปไตยและเพื่อล้างประเทศไทย รวมทั้งการสร้างรัฐไทยใหม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ทั้งสื่อของรัฐ สื่อเอกชน พากันโหมประโคมข่าวอยู่แต่เรื่องพรรคเพื่อไทย เรื่องคนเสื้อแดง เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และความไม่เข้าท่าของรัฐบาล ไม่มีข่าวคราวที่ดีงามหรือเป็นความหวังของชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
การเคลื่อนไหวที่ย่ำยีกฎหมายทำร้ายประชาชน ข่มขู่คุกคามประชาชน และกระทบต่อความสงบในการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนยังคงเกิดขึ้นโดยทั่วไป โดยที่ไม่มีการหยุดยั้งหรือป้องกันแก้ไขใดๆ เลย
เกิดปรากฏการณ์ที่คนบางกลุ่มอยู่เหนือกฎหมายและทำอะไรก็ไม่ผิดเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
กระทั่งบรรดารัฐมนตรี แม้นายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ตามปกติสุข กระทั่งหวุดหวิดจะถูกทำอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยที่หาคนผิดใดๆ ไม่ได้ ก็ได้เกิดขึ้น และทำลายความเชื่อถือประเทศไทยอย่างย่อยยับไปแล้ว
ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของความวิตกและความกังวล ความเครียดและความชะงักงันในการประกอบสัมมาอาชีพ จนผู้คนสิ้นหวัง
เพราะคนทั้งปวงย่อมรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหากบ้านเมืองไม่เป็นปกติสุข และขื่อแปบ้านเมืองถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจใดๆ และไม่ต้องพูดถึงความเชื่อถือใดๆ กันอีกแล้ว
นี่คือสถานการณ์และบรรยากาศที่ปกคลุมประเทศไทยอยู่ โดยที่ไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ และไม่มีผู้ใดแสดงความกล้าหาญที่จะนำบ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุข
ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่อาจทนดูดายได้อีกต่อไป จึงพากันรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นหย่อมพร้อมลุกขึ้นสู้ และส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการแก้ไขให้เกิดความสงบในบ้านเมือง
ให้ทำหน้าที่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ตามอำนาจหน้าที่
ก่อเกิดสภาพประหนึ่งดังเชื้อไฟที่ถูกวางสุมไว้ทุกหัวระแหงทั่วบ้านเมืองของเราในปัจจุบันนี้ รอวันเวลาที่ประกายไฟใดประกายไฟหนึ่งถูกจุดหรือกระเด็นไปถูก ก็พร้อมจะไหม้ลุกลามเผาผลาญบ้านเมืองและทุกภาคส่วนจนพินาศย่อยยับ
ในสถานการณ์อย่างนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ก็ได้เปิดตัวเปิดใจแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างองอาจกล้าหาญ และแจ่มชัดในทุกประเด็นปัญหา
เนวินชี้ให้เห็นว่าปัญหาทั้งหมดที่บังเกิดขึ้นในประเทศไทยในยามนี้เกิดขึ้นจากคนคนเดียวที่เห็นแก่ตัวและใช้ประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เป็นเครื่องมือ
เนวินชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เขาไม่สามารถร่วมเวรร่วมกรรมกับคนคนเดียวนั้นได้อีกต่อไป เขายอมหักหลังเพื่อน หักหลังพวก และหักหลังพรรค หมายพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต เนวินกล่าวว่าหากใครทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องข้ามศพเขาไปก่อน
เนวินระบุอีกว่าคนคนเดียวนั้นได้หักหลังนายสมัคร สุนทรเวช จนยับเยินในยามแก่ ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ว่า คนรอบข้างของคนคนเดียวนั้นล้วนเป็นคนชั่วช้าเลวทราม
เนวินกล่าวเปิดความในใจด้วยน้ำตาที่ก่อให้เกิดความสะเทือนใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย
การเปิดใจครั้งนี้ของเนวิน ชิดชอบ ถูกกาล ถูกสถานการณ์ และถูกใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่กำลังหมดหวังและเอือมระอากับความหน่อมแน้มเฉื่อยชาล้าหลังไม่เอาไหนที่ทำให้ประเทศเสี่ยงภัยต่อความพินาศย่อยยับอย่างยิ่ง
ถึงกับสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ต้องยอมรับว่าการแสดงจุดยืนและท่าทีดังกล่าวของเนวินในครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของเนวินดูดีขึ้นกว่าครึ่ง พร้อมตั้งความหวังว่าส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนั้นวันเวลาจะพิสูจน์ และหากพิสูจน์ได้ คนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะสนับสนุน
สิ่งที่เนวินพูดในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยออกจากปากของบรรดาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เลยแม้แต่คนเดียว
แต่สิ่งที่เนวินพูดในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เนวินเพิ่งพูด เพราะเนวินเคยพูดมาก่อนหน้านี้ เป็นแต่พูดกับคนวงในว่าตัวเขานั้นเป็นคนจริงใจ คบใครคบจริง ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อนาย แต่มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่อาจยอมรับได้นั่นคือการใช้เขาไปชนกับธงมหาราช
อานิสงส์จากคำพูดที่แม้พูดกับคนวงในได้คุ้มครองเนวินในยามวิกฤตให้รอดปลอดภัยได้เสมอ เพราะสายลมที่พัดพลิ้วแผ่วโผยไร้สภาพนั้นพัดพาคำพูดเหล่านี้ให้ได้ยินถึงฟ้า ฟ้าย่อมมีตา สวรรค์ย่อมมีใจ
และในยามคับขันของการชิงอำนาจทางการเมือง เนวิน ชิดชอบ ก็ได้ปฏิบัติพิสูจน์คำพูดของตนแต่คราก่อนนั้นอีกครั้งหนึ่ง พลิกผันตัวเองมาร่วมไม้ร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองใหม่ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
ถามว่าที่เขียนมาอย่างนี้ไม่เป็นการเชียร์นายเนวิน ชิดชอบ ดอกหรือ? ก็ต้องตอบว่าใช่ วันนี้ต้องเชียร์นายเนวิน ชิดชอบ เพราะคำพูดและการปฏิบัติดังกล่าวนั้นมันกำลังทำให้เนวิน ชิดชอบ เป็นคนใหม่ขึ้นในวันนี้ และได้แต่หวังใจว่าเนวิน ชิดชอบ จะยึดมั่นในคำพูดและสนองคุณแผ่นดิน ทำการทั้งปวงโดยถือเอาประโยชน์สุขของมหาชนเป็นที่ตั้งให้เป็นผลสำเร็จ
สิ่งที่เนวินจะต้องระมัดระวังสังวรในวันนี้เห็นจะมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น และเมื่อเชียร์กันแล้วก็จะต้องฝากคำเตือนเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันกายใจไว้ในวันข้างหน้าว่า “ขออย่าให้วิญญาณลิโป้มาเข้าสิง” เท่านั้น การทั้งปวงก็จักสำเร็จดังปรารถนา
อัน “จิวฉอง” องครักษ์ผู้พิทักษ์เทพแห่งความซื่อสัตย์ “กวนอู” ที่ผู้คนนับถือทั้งบ้านทั้งเมือง และถูกวาดรูปปรากฏเคียงข้างเทพ “กวนอู” อยู่เบื้องขวานั้น ก็เคยเป็นโจรป่าที่เที่ยวตีชิงวิ่งราวชาวบ้านไม่ใช่หรือ?
ในวันนี้มังกรการเมือง เนวิน ชิดชอบ ผงาดฟ้าเต็มภาคภูมิแล้ว แม้ว่าจะยังคงติดบ่วงชนักต้องห้ามการใช้สิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่ชนักดังกล่าวก็หาได้จำกัดหรือปิดกั้นประกายมังกรการเมืองอย่างเนวิน ชิดชอบ ได้เลย
การเปิดใจดังกล่าวทำให้คนไทยจำนวนมากมีความหวังว่าสถานการณ์ที่วิกฤตซึ่งกำลังเกิดขึ้นและขยายตัวไปอย่างกว้างขวางอาจจะได้รับการเยียวยาแก้ไขให้ความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมืองได้อีกครั้งหนึ่ง
นับตั้งแต่รัฐบาลชุดที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา สถานการณ์บ้านเมืองได้เกิดความแตกแยก ความขัดแย้ง และทวีความรุนแรงขึ้นโดยลำดับ ทั้งขยายพื้นที่ความขัดแย้งแตกแยกออกไปอย่างกว้างขวางกว่า 40 จังหวัด
กำลังจะใกล้เคียงกับพื้นที่เขตแดงเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเมื่อปลายศตวรรษที่แล้ว และระงับสลายไปด้วยนโยบาย 66/2523 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ทำให้ทั่วประเทศได้กลับคืนสู่ความสงบสุขและสันติอีกครั้งหนึ่ง
ทว่ารัฐบาลหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 มิได้ดำเนินการใดๆ ในทางที่จะฟื้นคืนความสงบสุขให้กับประเทศไทย ปล่อยให้สถานการณ์บานปลายขยายตัวจนกำลังใกล้จะเกิดเป็นสงครามกลางเมืองทุกทีแล้ว
ในพลันที่มีการพลิกผันขั้วการเมืองและพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่พากันให้กำลังใจด้วยความหวังว่ารัฐบาลนี้จะสามารถนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประเทศชาติได้
ทุกคนเชื่อถือคำพูดในเชิงปฏิญญาประชาคมที่นายกรัฐมนตรีหนุ่มรูปงามคนใหม่ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชาติไทยว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะนำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคน จะเคารพและรักษากฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ จะไม่ให้มีการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงขึ้นในบ้านเมืองอีก
แต่วันแล้ววันเล่าก็ไม่ปรากฏว่ามีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมใดๆ ให้เห็นเด่นชัด วันเวลาส่วนใหญ่ผ่านไปด้วยการพร่ำรำพันเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การปรองดอง และการให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
เป็นคำพูดที่ดูระรื่นหู แต่ไม่มีเนื้อหาทางการปฏิบัติแม้แต่น้อย เพราะยังคงปล่อยให้มีการใช้สื่อมวลชนสารพัดชนิดในการสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนในการปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อเพื่อการทำสงครามแตกหักเพื่อล้มระบอบอมาตยาธิปไตยและเพื่อล้างประเทศไทย รวมทั้งการสร้างรัฐไทยใหม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ทั้งสื่อของรัฐ สื่อเอกชน พากันโหมประโคมข่าวอยู่แต่เรื่องพรรคเพื่อไทย เรื่องคนเสื้อแดง เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และความไม่เข้าท่าของรัฐบาล ไม่มีข่าวคราวที่ดีงามหรือเป็นความหวังของชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
การเคลื่อนไหวที่ย่ำยีกฎหมายทำร้ายประชาชน ข่มขู่คุกคามประชาชน และกระทบต่อความสงบในการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนยังคงเกิดขึ้นโดยทั่วไป โดยที่ไม่มีการหยุดยั้งหรือป้องกันแก้ไขใดๆ เลย
เกิดปรากฏการณ์ที่คนบางกลุ่มอยู่เหนือกฎหมายและทำอะไรก็ไม่ผิดเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
กระทั่งบรรดารัฐมนตรี แม้นายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ตามปกติสุข กระทั่งหวุดหวิดจะถูกทำอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยที่หาคนผิดใดๆ ไม่ได้ ก็ได้เกิดขึ้น และทำลายความเชื่อถือประเทศไทยอย่างย่อยยับไปแล้ว
ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของความวิตกและความกังวล ความเครียดและความชะงักงันในการประกอบสัมมาอาชีพ จนผู้คนสิ้นหวัง
เพราะคนทั้งปวงย่อมรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหากบ้านเมืองไม่เป็นปกติสุข และขื่อแปบ้านเมืองถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจใดๆ และไม่ต้องพูดถึงความเชื่อถือใดๆ กันอีกแล้ว
นี่คือสถานการณ์และบรรยากาศที่ปกคลุมประเทศไทยอยู่ โดยที่ไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ และไม่มีผู้ใดแสดงความกล้าหาญที่จะนำบ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุข
ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่อาจทนดูดายได้อีกต่อไป จึงพากันรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นหย่อมพร้อมลุกขึ้นสู้ และส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการแก้ไขให้เกิดความสงบในบ้านเมือง
ให้ทำหน้าที่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ตามอำนาจหน้าที่
ก่อเกิดสภาพประหนึ่งดังเชื้อไฟที่ถูกวางสุมไว้ทุกหัวระแหงทั่วบ้านเมืองของเราในปัจจุบันนี้ รอวันเวลาที่ประกายไฟใดประกายไฟหนึ่งถูกจุดหรือกระเด็นไปถูก ก็พร้อมจะไหม้ลุกลามเผาผลาญบ้านเมืองและทุกภาคส่วนจนพินาศย่อยยับ
ในสถานการณ์อย่างนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ก็ได้เปิดตัวเปิดใจแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างองอาจกล้าหาญ และแจ่มชัดในทุกประเด็นปัญหา
เนวินชี้ให้เห็นว่าปัญหาทั้งหมดที่บังเกิดขึ้นในประเทศไทยในยามนี้เกิดขึ้นจากคนคนเดียวที่เห็นแก่ตัวและใช้ประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เป็นเครื่องมือ
เนวินชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เขาไม่สามารถร่วมเวรร่วมกรรมกับคนคนเดียวนั้นได้อีกต่อไป เขายอมหักหลังเพื่อน หักหลังพวก และหักหลังพรรค หมายพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต เนวินกล่าวว่าหากใครทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องข้ามศพเขาไปก่อน
เนวินระบุอีกว่าคนคนเดียวนั้นได้หักหลังนายสมัคร สุนทรเวช จนยับเยินในยามแก่ ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ว่า คนรอบข้างของคนคนเดียวนั้นล้วนเป็นคนชั่วช้าเลวทราม
เนวินกล่าวเปิดความในใจด้วยน้ำตาที่ก่อให้เกิดความสะเทือนใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย
การเปิดใจครั้งนี้ของเนวิน ชิดชอบ ถูกกาล ถูกสถานการณ์ และถูกใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่กำลังหมดหวังและเอือมระอากับความหน่อมแน้มเฉื่อยชาล้าหลังไม่เอาไหนที่ทำให้ประเทศเสี่ยงภัยต่อความพินาศย่อยยับอย่างยิ่ง
ถึงกับสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ต้องยอมรับว่าการแสดงจุดยืนและท่าทีดังกล่าวของเนวินในครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของเนวินดูดีขึ้นกว่าครึ่ง พร้อมตั้งความหวังว่าส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนั้นวันเวลาจะพิสูจน์ และหากพิสูจน์ได้ คนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะสนับสนุน
สิ่งที่เนวินพูดในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยออกจากปากของบรรดาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เลยแม้แต่คนเดียว
แต่สิ่งที่เนวินพูดในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เนวินเพิ่งพูด เพราะเนวินเคยพูดมาก่อนหน้านี้ เป็นแต่พูดกับคนวงในว่าตัวเขานั้นเป็นคนจริงใจ คบใครคบจริง ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อนาย แต่มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่อาจยอมรับได้นั่นคือการใช้เขาไปชนกับธงมหาราช
อานิสงส์จากคำพูดที่แม้พูดกับคนวงในได้คุ้มครองเนวินในยามวิกฤตให้รอดปลอดภัยได้เสมอ เพราะสายลมที่พัดพลิ้วแผ่วโผยไร้สภาพนั้นพัดพาคำพูดเหล่านี้ให้ได้ยินถึงฟ้า ฟ้าย่อมมีตา สวรรค์ย่อมมีใจ
และในยามคับขันของการชิงอำนาจทางการเมือง เนวิน ชิดชอบ ก็ได้ปฏิบัติพิสูจน์คำพูดของตนแต่คราก่อนนั้นอีกครั้งหนึ่ง พลิกผันตัวเองมาร่วมไม้ร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองใหม่ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
ถามว่าที่เขียนมาอย่างนี้ไม่เป็นการเชียร์นายเนวิน ชิดชอบ ดอกหรือ? ก็ต้องตอบว่าใช่ วันนี้ต้องเชียร์นายเนวิน ชิดชอบ เพราะคำพูดและการปฏิบัติดังกล่าวนั้นมันกำลังทำให้เนวิน ชิดชอบ เป็นคนใหม่ขึ้นในวันนี้ และได้แต่หวังใจว่าเนวิน ชิดชอบ จะยึดมั่นในคำพูดและสนองคุณแผ่นดิน ทำการทั้งปวงโดยถือเอาประโยชน์สุขของมหาชนเป็นที่ตั้งให้เป็นผลสำเร็จ
สิ่งที่เนวินจะต้องระมัดระวังสังวรในวันนี้เห็นจะมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น และเมื่อเชียร์กันแล้วก็จะต้องฝากคำเตือนเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันกายใจไว้ในวันข้างหน้าว่า “ขออย่าให้วิญญาณลิโป้มาเข้าสิง” เท่านั้น การทั้งปวงก็จักสำเร็จดังปรารถนา
อัน “จิวฉอง” องครักษ์ผู้พิทักษ์เทพแห่งความซื่อสัตย์ “กวนอู” ที่ผู้คนนับถือทั้งบ้านทั้งเมือง และถูกวาดรูปปรากฏเคียงข้างเทพ “กวนอู” อยู่เบื้องขวานั้น ก็เคยเป็นโจรป่าที่เที่ยวตีชิงวิ่งราวชาวบ้านไม่ใช่หรือ?