xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นผันผวนลุ้นม็อบเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นไทยผันผวนสุดๆ ปรับตัวขึ้น-ลงหลายรอบตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยแตะระดับสูงสุด 449.68 จุด ก่อนจะปิดที่ 442.56 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.48 จุด หลังจากปรับตัวนักลงทุนหวั่นม็อบ “ไข่แม้ว” จุดชนวนความรุนแรงจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย วานนี้ (7 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนลบและแดนลบ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้น้ำหนักต่อถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมใหญ่ เพื่อขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

โดยดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในภาคเช้า และมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องกดดันให้ดัชนีปรับลงแตะระดับต่ำสุดที่ 441.50 จุด ก่อนจะปรับขึ้นยืนเหนือแดนบวกหลังจากเปิดการซื้อขายในช่วงบ่าย และไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 449.68 จุด จนกระทั้งช่วงสุดท้ายของการซื้อขายได้มีแรงเทขายออกมาอีกระลอก และทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงปิดที่ 442.56 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.48 จุด หรือคิดเป็น 0.78% มูลค่าการซื้อขายรวม 13,353.16 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิรวม 1,332.20 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 351.63 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 980.57 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ราคาปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือคิดเป็น 2.56% มูลค่าการซื้อขาย 1,171.03 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิดที่ 160 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.23% มูลค่าการซื้อขาย 1,144.18 ล้านบาท และบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาปิดที่ 96.50 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 3.02% มูลค่าการซื้อขาย 961.61 ล้านบาท

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ช่วงบ่ายนักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลจากสถานการณ์การเมืองที่ทวีความร้อนแรงขึ้น จากกรณีที่เข้าขัดขวางขบวนของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.) ที่พัทยา จ. ชลบุรี

“ปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงต้นสัปดาห์นี้ เกิดจากความกังวลเรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 8 เม.ย. นี้ และคาดว่าจะยืดเยื้อจนนำไปสู่ความรุนแรง ดังนั้นนักลงทุนต้องจับตาดูบทสรุปของสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาในช่วงใกล้ปิดการซื้อขาย ทำให้นักลงทุนไม่กล้าถือหุ้นนาน เพราะความไม่ชัดเจนของการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น”

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยนั้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน บวกกันสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน เป็นแรงกดดันที่สำคัญตลาดตลาดหุ้นไทย ดังนั้นในระยะสั้นๆ นักลงทุนควรเลือกหาช่องทางการลงทุนและขายทำกำไรเมื่อมีโอกาส ประเมินแนวรับที่ 441 จุด แนวต้านที่ 444 จุด

นาวสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) หรือ DBS กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ มีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ จากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย. นี้อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลลบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นนักลงทุนจะต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประเมินแนวรับตลอดสัปดาห์ที่ 420-410 จุด แนวต้านที่ 450-460 จุด

นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันซ่า กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวน โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบจากประเด็นหลักของความกังวลทางการเมืองที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงและบานปลาย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศได้มีการประเมินว่าภาคธนาคารยังคงได้รับผลกระทบจากการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงที่มากเกินไป และยอดหนี้เสียจะเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมระหว่างฝ่ายเสื้อแดงกับกลุ่มเชียร์ประธานองคมนตรี รวมถึงการสร้างสถานการณ์ต่างๆ

“หากรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม จับกุมแกนนำ หรือประกาศใช้พ.ร.บ.ฉุกเฉินจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างชาติโยกเงินออกจากตลาดหุ้นไทยยาว และฉุดให้ดัชนีฯดิ่งลงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 400 จุด ดังนั้นนักลงทุนควรชะลอการลงทุนรอดูอยู่นอกตลาด โดยแนวรับอยู่ที่ 400 จุด แนวต้าน 445 จุด”
กำลังโหลดความคิดเห็น