xs
xsm
sm
md
lg

ล้มองคมนตรีทั้งคณะ!ใบเสร็จยืนยันแนวคิดแกนนำเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: คำนูณ สิทธิสมาน

ผมเคยเขียน ณ ที่นี้มาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2551รวมทั้งนำไปเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาคำอภิปรายครั้งญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในวุฒิสภาช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุรทรเวชแล้วว่าแนวความคิดหลักของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นน่ะไม่เห็นด้วยกับการคงอยู่ของคณะองคมนตรีชุดปัจจุบัน

ใบเสร็จอยู่ที่ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เข้าชื่อกันภายใต้การริเริ่มของ นพ.เหวง โตจิราการและนายจรัล ดิษฐาอภิชัย ที่ยื่นต่อประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 ที่ไปลอกรัฐธรรมนูญ 2540 มาใส่ไว้ทั้งหมด...

ยกเว้นเพียงมาตราเดียว!

คือบทเฉพาะกาลที่รับรองการคงอยู่ของคณะองคมนตรีชุดปัจจุบัน!!


ควรทำความเข้าใจหลักการกันสักนิด

ปกติเวลามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือแก้ไขใหม่ทั้งฉบับ ในส่วนบทเฉพาะกาลเขาจะรับรองการมีอยู่และการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ก่อนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เริ่มตั้งแต่คณะองคมนตรี ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรี

รัฐธรรมนูญ 2550 บัญญัติไว้ในมาตรา 292 ความว่า...

“ให้คณะองคมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะองคมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้”

ไม่ใช่เรื่องใหม่เนื้อหาใหม่หรือถ้อยคำใหม่อะไรเลย หากจะกล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญ 2550 เป็นระบอบที่เรียกว่าอมาตยาธิปไตยนะ เพราะเป็นเนื้อหาและถ้อยคำที่บัญญัติไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 แล้ว คณะผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จงใจที่จะหลงลืมมาตรานี้ทั้งมาตรา แล้วไม่ใส่บทบัญญัติทำนองเดียวกันนี้เข้าไปแทน อันจะทำให้ฐานภาพของคณะองคมนตรีชุดที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่มีปัญหาทันที หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญยกฉบับ

รัฐธรรมนูญ 2540 บัญญัติรับรองคณะองคมนตรีที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับไว้ในมาตรา 314

พวกเขาอ้างว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ดีเลิศ แต่กลับจงใจหลงลืมมาตรา 314 เพียง 1 มาตรา

มาตรา 314 รัฐธรรมนูญ 2540 บัญญัติไว้ด้วยข้อความเดียวกับมาตรา 292 รัฐธรรมนูญ 2550 ที่ผมยกมาและเน้นด้วยตัวโตๆ ข้างต้น

หันไปดูบทเฉพาะกาลใหม่ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับอดีตทหารป่าดาวแดงทั้งสองให้ทั่ว ก็ไม่มีการรับรองคณะองคมนตรีครับ!

ผลคืออะไร?

ผลก็คือ ถ้าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็คงเดินหน้าไปแล้ว และถ้าสำเร็จออกมา ก็หมายความว่าคณะองคมนตรีคณะปัจจุบันที่มาจากการแต่งตั้งตามพระพระราชอัธยาศรัยของพระมหากษัตริย์ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ

คณะองคมนตรีที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ เป็นประธาน จะเป็นองค์กรนอกรัฐธรรมนูญทันที

หรืออย่างน้อย – ก็มีปัญหามีประเด็นให้ต้องตีความ!

ต่อไป “ถ้า” จะมีการแต่งตั้งคณะองคมนตรีใหม่ ก็ต้องเริ่มต้นที่ตำแหน่งประธานองคมนตรีก่อน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2550 บัญญัติไว้ในมาตรา 13 และร่างรัฐธรรมนูญฉบับอดีตทหารป่าดาวแดงทั้งสองยังคงไว้ด้วยเนื้อหาเดียวกัน

แม้ว่าวรรคแรกจะบัญญัติว่าให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย แต่วรรคสองนี่ซิครับสำคัญและน่าคิด....

“ให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ....”

นักการเมืองในพรรคเครือข่ายของพวกเขาที่เชื่อกันว่าจะชนะเลือกตั้งเข้ามา หลังยุบสภา จะมีบทบาทสูงทันที

ย้อนไปดูรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ในอดีต ก็จะพบว่ามาตราแรกของบทเฉพาะกาลเขาจะบัญญัติรับรองการมีอยู่และการปฏิบัติหน้าที่ของคณะองคมนตรีทั้งสิ้น

รัฐธรรมนูญ 2540 อยู่ในมาตรา 314

รัฐธรรมนูญ 2534 อยู่ในมาตรา 214

และรัฐธรรมนูญ 2521 อยู่ในมาตรา 197

2 อดีตทหารป่าสวมหมวกเขียวประดับตราดาวแดงสัญลักษณ์คอมมิวนิสต์ในอดีตนามเหวง โตจิราการและจรัล ดิษฐาอภิชัย จะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น หรือไม่เป็นไปตามที่ผมตีความ ก็พอได้ครับ แต่น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนเพียงใด วันเวลาเมื่อปีกว่าอาจจะไม่ชัด แต่วันนี้ชัดขึ้นแล้วใช่ไหม

รวมทั้งพลพรรค ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เคยเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในทำนองเดียวกัน ก็ปฏิเสธได้ครับ แต่จะน่าเชื่อแค่ไหนประชาชนที่มีปัญญาจะเป็นผู้ตัดสิน

จะบอกว่าให้ไปแก้ไขในชั้นแปรญัตติวาระ 2 – 3 ก็เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นนัก

เพราะมันเห็น “ธาตุแท้” อย่าง “ล่อนจ้อน” แล้ว!

ทุกคนมีสิทธิที่จะไม่ชอบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ชอบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และล่าสุดต้องไม่ชอบ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ แต่ไม่ว่าใครก็ตามไม่มีสิทธิที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญโดยมีวาระซ่อนเร้นไม่รับรองคณะองคมนตรีที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์เป็นประธานได้

แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งก็ทำไปแล้ว แม้จะยังไม่สำเร็จ

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2 อดีตทหารป่าคอมมิวนิสต์ที่มีเนื้อหาไม่มีบทบัญญัติรับรองคณะองคมนตรีชุดปัจจุบันนี้ยังคงบรรจุอยู่ในวาระ “เรื่องด่วนที่ 1” ในการประชุมร่วมกันของ 2 สภา

ถึงวาระประชุมคราใดก็เป็นอันต้องถกกันสภาแทบล่มทุกครั้งว่าจะพิจารณาไปตามวาระหรือเลื่อนเรื่องที่บรรจุใหม่ขึ้นมาพิจารณาก่อน

เสียเวลาไม่ต่ำกว่า 1 – 2 ชั่วโมงทุกครั้งไป

ใครจะคิดอย่างไรไม่รู้ แต่ผมชอบสถานการณ์ปัจจุบันครับ เพราะมันทำให้ทุกคนแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาชัดเจน ไม่แอบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป

เรื่องที่หวังฟลุก “ล้มองคมนตรีทั้งคณะ” เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น

ยังมีอีกหลายเรื่องที่เมื่อเวลาผ่านไป ตัวตนของคนหลายคนแสดงออกมาชัดเจนขึ้น จนบางคน “ล่อนจ้อน” ไปเลย

น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้มัวแต่เสียเวลาเปลี่ยนโลโกช่อง 11 เขียนหอยสังข์อยู่ 3 เดือนโดยไม่ทำหน้าที่นำความจริงออกมาล้างความเท็จนำความสว่างออกมาไล่ความมืดเลย !!
กำลังโหลดความคิดเห็น