นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ปรสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะเปิดศึก กล่าวหาคนอื่นไปทั่วโดยไม่ยอมรับความจริงว่าวิกฤติการณ์บ้านเมืองที่ยืดเยื้อ ยาวนานจนถึงวันนี้ เกิดจากความบ้าอำนาจ การทุจริตคอรัปชั่นอย่างมโหฬาร พยายามกินรวบประเทศไทย และสถาปนาตัวเองเป็นใหญ่ จนเป็นต้นเหตุของการรัฐประหารและการลุกขึ้นสู้ของกลุ่มพลังต่างๆ ที่เห็นว่าถ้าปล่อยระบอบทักษิณมีอำนาจต่อไปจะไม่เหลือประเทศไทยไว้ให้ลูกหลาน
นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ พตท.ทักษิณ แกล้งลืมและพยายามบิดเบือนต้นเหตุ แห่งปัญหาแต่กลับป้ายสีใส่ร้ายคนอื่น กลุ่มบุคคลที่ถูกพาดพิงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่เหนียมกับการโจมตีครั้งนี้ ต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชนว่าอะไรเป็นอะไร โดยเฉพาะการรัฐประหาร 19 กันยายนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงปลายเหตุของปัญหาเพราะต้นเหตุคือระบอบทักษิณนั่นเอง
นายสุริยะใส กล่าวว่า บุคคลระดับสูงทั้งองคมนตรี ผู้พากษา และคนอื่นๆ ต้องมีกลไกที่จะชี้แจงความจริงกับประชาชนเพื่อไม่ให้สังคมตกหลุมพรางของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะรัฐบาลต้องมีกลไกตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ไม่ใช่ต่างคน ต่างพูดจนดูเหมือนแข่งกันเอาตัวรอด
นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้ายังอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้ถือว่าตามหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ หลายช่วงตัว อย่าลืมว่าในขณะนี้ความสำเร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ และขบวนการ เสื้อแดงก็คือยกระดับจากความพ่ายในสภามาเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศไปแล้ว เพราะสามารถดึงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นจำเลยของสังคมไปได้ระดับหนึ่งแล้ว แม้ พ.ต.ท.ทักษิน จะระบุศัตรูทางการเมืองเป็นองคมนตรีบางคนแต่โดยนัยยะนั้นต้องการให้ทุกสายตาของสังคมพุ่งเป้าตั้งคำถามถึงความชอบธรรมเหมาะสมของสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะการปราศรัยขยายความของแกนนำ นปช.นั้นชัดเจนว่ากำลังขยายความโจมตีสถาบันอย่างรุนแรง โดยพยายามย้ำถึงความเลวร้าย ของระบอบอำมาตยาธิปไตย
นายสุริยะใส กล่าวถึงจุดยืนของพันธมิตรฯว่า แกนนำให้ความสนใจและจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการคุกคามสถาบันเบื้องสูงนั้นอาจเป็นเหตุผลที่พันธมิตรฯ จะต้องหารือเพื่อกำหนดท่าทีเป็นกรณีพิเศษเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อม เคลื่อนไหวตลอดเวลา
ส่วนบทบาทของ พล.อ พัลลภ ปิ่นมณี ในขณะนี้นั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่พันธมิตรฯ รักษาระยะห่างในช่วงการต่อสู้เพราะเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ท่านรู้จักดีแต่ท่านเลือกที่จะไม่พูดถึงแค่นี้สังคมก็ตัดสินใจแล้วว่าใครธาตุแท้เป็นอย่างไร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบฯ ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าหนักใจ เพราะการชุมนุมตลอด 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่าไม่พอใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรีนั้น ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ต้องไปถามนายเนวินเอง แต่โดยส่วนตัวตนคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะพล.อ.เปรม เป็นประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งมีเพียงคนเดียวในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าประชาชนจะเดินทางมาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้น หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนอยากให้ประชาชน ออกมาช็อปปี้งงานโอทอป ประชาชนจะได้มีรอยยิ้ม ไม่ต้องดูแต่ข่าวเสื้อเหลือง เสื้อแดง ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้จะไม่มีผลให้ยุบสภา เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยุบสภา เพราะการยุบ หรือไม่ยุบสภานั้นอยู่ที่อำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว มาถามตนคงไม่มีประโยชน์ และตนก็เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้มีการกำชับให้ส.ส.ลงพื้นที่เพื่อ เตรียมการเลือกตั้งหรือยัง นายชวรัตน์ กล่าวว่า ส.ส.ลงพื้นที่เป็นเรื่องปกติไม่เกี่ยวกับการหาเสียง และตนก็ก็มีนโยบายที่ให้ ส.ส.ลงพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมปกป้องสถาบัน
นายชวรัตน์ กล่าวว่ารู้สึกหนักใจหากมีการชุมนุมยืดเยื้อ ส่วนการประชุม ครม.ในวันที่ 31 มี.ค.จะมีการย้ายสถานที่หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เพราะทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ยังไม่ได้มีการแจ้งมา แต่ตนเชื่อว่าจะต้องมีการ ประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯแน่นอน เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะ ครม.จะไม่กลาย เป็น ครม.นกขมิ้น ที่ต้องไปประชุมที่อื่นที่ไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาล นายชวรัตน์ กล่าวว่า เพราะยังไม่มีการประสานจาก สลค.
นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากมี ครม. นกขมิ้นจริง ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการประชุม เป็นครม.สัญจร
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ( มท.2 ) กล่าวว่า เชื่อว่าการชุมนุม คงจะไม่ยืดเยื้อ เพราะประชาชนรู้ดีว่าประเทศมีปัญหาเรื่องความแดกแยก ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ตนเชื่อว่าผู้ที่ได้ฟังจะมีวิจารณญาณ ในการตัดสิน เพราะขณะนี้ประเทศชาติกำลังลุกเป็นไฟ ควรที่จะเอาน้ำมาดับ อย่าเอา เชื้อเพลิงมาเติมให้ไฟแรงขึ้น และหากมีการชุมนุมที่ยืดเยื้อยิ่งจะส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการลงทุน
ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การเมืองจะส่งผล อย่างไร นายบุญจง กล่าวว่า นายเนวิน เป็น 111 ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่ไม่เคยออกมาแสดงความเห็น ทางการเมือง เมื่อถามย้ำว่า การที่ นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไท ยแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ระบุว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตี พล.อ.เปรมนั้น นายเนวิน ไม่เห็นด้วยและเห็นว่า เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป นายบุญจง กล่าวว่า อันนั้น นายปัญญา พูด แต่นายบุญจง ยืนยันว่าไม่มี เพราะนายเนวิน ไม่เคยพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเกินไปหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเกินไปหรือไม่ แต่เมื่อระบุถึงใคร บุคคลนั้นก็ควร ที่จะออกมาชี้แจง หรือดำเนินการฟ้องร้องหากทำให้เกิดความเสียหาย
นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรงมหาดไทย กล่าวถึงการวอร์รูม สถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ศูนย์ปฏิบัติการกะทรวงมหาดไทย ได้รายงาน ความเคลื่อนไหว ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี การรายงานตัวเลขเพิ่มเติม เพราะผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางมาจากใน กทม. และปริมณฑล จากการติดตามการชุมนุมนั้น ตนได้รับรายงานว่าในการชุมนุมวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรกนั้น มีผู้ชุมนุมเยอะที่สุด ประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ส่วนในวันถัดมาจะเหลือประมาณ 2 หมื่นคนในช่วงเย็น ซึ่งในช่วงเช้ามีผู้ชุมนุม 1,500 คน เท่านั้น
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดงและแนะนำแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลและวิถีแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นเพียงการเสนอวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น หรือวิชา อีซี 101 ที่นักศึกษาระดับ ปริญญาตรีทุกคนจำเป็นต้องเรียนไม่มีอะไรแปลกใหม่
นายเทพไท กล่าวว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุความสำเร็จของตนเองที่ผ่านมา นั้น อยากให้กลับไปมองความล้มเหลวของตัวเองตอนเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง เช่นการปล่อยกู้ นาคารเอ็กซิมแบงค์ ให้กับพม่า โครงการรถแท็กซี่เอื้ออาทร ที่กำลังร่วมตัวกันประท้วงและยืนข้อเสนอให้รัฐบาลปัจจุบันแก้ไข โครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการอีลิทการ์ด ตลอดถึงโครงการแอร์พอตลิงค์ ที่กำลังจะเปิดบริการในขณะนี้ ล่วนแล้วเป็นโครงการล้มเหลวเป็นภาระให้รัฐบาลชุดนี้ต้องสะสางแก้ไขต่อไป
ส่วนการพูดถึงการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิ์พูดในแนวทาง3 จังหวัดอีกต่อไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เริ่มต้นมาจากการทำงานของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น การเสนอแก้ปัญหาดังกล่าวจึงขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ต่างจากคนหัวล้านที่มาเสนอน้ำยาปลูกผม ซึ่งไม่มีใครหลงเชื่อไปซื้อมา
นายเทพไท กล่าวต่อว่าสำหรับการปลุกระดมมวลชนของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเรียกร้องให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ต้องเนียมอายให้เปิดตัวออกมาต่อสู่ร่วมกับเสื้อแดง เรียกร้องใหคนบ้าน 111 เข้าร่วมการชุมนุม ร่วมถึงการปรากฎตัวของ นายสมชายบ วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในเวทีปราศัยที่ผ่านมา เป็นการปรากฎชัดว่า ม๊อบคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย คือกลุ่มเดียวกัน ซึ่งต่อไปนี้ ก็จะเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ม๊อบพรรคเพื่อไทยใส่เสื้อแดง
ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปลุกระดมทั่วประเทศให้ลุกขึ้นต่อสู่เรียกร้องประชาธิปไตยหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องยุทธวิถี สอดคล้องกับแผนตากสิน ที่ได้รับการเปิดโปงมาก่อนหน้านี้ ถ่าเป็นเช่นนั้นจริงๆการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็จะพัฒนาไปถึงเป้าหมายสูงสุดของแผนตากสินนั้นคือเป้าหมายให้เกิดสงครามประชาชน
นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ พตท.ทักษิณ แกล้งลืมและพยายามบิดเบือนต้นเหตุ แห่งปัญหาแต่กลับป้ายสีใส่ร้ายคนอื่น กลุ่มบุคคลที่ถูกพาดพิงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่เหนียมกับการโจมตีครั้งนี้ ต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชนว่าอะไรเป็นอะไร โดยเฉพาะการรัฐประหาร 19 กันยายนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงปลายเหตุของปัญหาเพราะต้นเหตุคือระบอบทักษิณนั่นเอง
นายสุริยะใส กล่าวว่า บุคคลระดับสูงทั้งองคมนตรี ผู้พากษา และคนอื่นๆ ต้องมีกลไกที่จะชี้แจงความจริงกับประชาชนเพื่อไม่ให้สังคมตกหลุมพรางของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะรัฐบาลต้องมีกลไกตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ไม่ใช่ต่างคน ต่างพูดจนดูเหมือนแข่งกันเอาตัวรอด
นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้ายังอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้ถือว่าตามหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ หลายช่วงตัว อย่าลืมว่าในขณะนี้ความสำเร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ และขบวนการ เสื้อแดงก็คือยกระดับจากความพ่ายในสภามาเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศไปแล้ว เพราะสามารถดึงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นจำเลยของสังคมไปได้ระดับหนึ่งแล้ว แม้ พ.ต.ท.ทักษิน จะระบุศัตรูทางการเมืองเป็นองคมนตรีบางคนแต่โดยนัยยะนั้นต้องการให้ทุกสายตาของสังคมพุ่งเป้าตั้งคำถามถึงความชอบธรรมเหมาะสมของสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะการปราศรัยขยายความของแกนนำ นปช.นั้นชัดเจนว่ากำลังขยายความโจมตีสถาบันอย่างรุนแรง โดยพยายามย้ำถึงความเลวร้าย ของระบอบอำมาตยาธิปไตย
นายสุริยะใส กล่าวถึงจุดยืนของพันธมิตรฯว่า แกนนำให้ความสนใจและจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการคุกคามสถาบันเบื้องสูงนั้นอาจเป็นเหตุผลที่พันธมิตรฯ จะต้องหารือเพื่อกำหนดท่าทีเป็นกรณีพิเศษเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อม เคลื่อนไหวตลอดเวลา
ส่วนบทบาทของ พล.อ พัลลภ ปิ่นมณี ในขณะนี้นั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่พันธมิตรฯ รักษาระยะห่างในช่วงการต่อสู้เพราะเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ท่านรู้จักดีแต่ท่านเลือกที่จะไม่พูดถึงแค่นี้สังคมก็ตัดสินใจแล้วว่าใครธาตุแท้เป็นอย่างไร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบฯ ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าหนักใจ เพราะการชุมนุมตลอด 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่าไม่พอใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรีนั้น ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ต้องไปถามนายเนวินเอง แต่โดยส่วนตัวตนคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะพล.อ.เปรม เป็นประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งมีเพียงคนเดียวในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าประชาชนจะเดินทางมาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้น หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนอยากให้ประชาชน ออกมาช็อปปี้งงานโอทอป ประชาชนจะได้มีรอยยิ้ม ไม่ต้องดูแต่ข่าวเสื้อเหลือง เสื้อแดง ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้จะไม่มีผลให้ยุบสภา เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยุบสภา เพราะการยุบ หรือไม่ยุบสภานั้นอยู่ที่อำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว มาถามตนคงไม่มีประโยชน์ และตนก็เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้มีการกำชับให้ส.ส.ลงพื้นที่เพื่อ เตรียมการเลือกตั้งหรือยัง นายชวรัตน์ กล่าวว่า ส.ส.ลงพื้นที่เป็นเรื่องปกติไม่เกี่ยวกับการหาเสียง และตนก็ก็มีนโยบายที่ให้ ส.ส.ลงพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมปกป้องสถาบัน
นายชวรัตน์ กล่าวว่ารู้สึกหนักใจหากมีการชุมนุมยืดเยื้อ ส่วนการประชุม ครม.ในวันที่ 31 มี.ค.จะมีการย้ายสถานที่หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เพราะทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ยังไม่ได้มีการแจ้งมา แต่ตนเชื่อว่าจะต้องมีการ ประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯแน่นอน เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะ ครม.จะไม่กลาย เป็น ครม.นกขมิ้น ที่ต้องไปประชุมที่อื่นที่ไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาล นายชวรัตน์ กล่าวว่า เพราะยังไม่มีการประสานจาก สลค.
นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากมี ครม. นกขมิ้นจริง ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการประชุม เป็นครม.สัญจร
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ( มท.2 ) กล่าวว่า เชื่อว่าการชุมนุม คงจะไม่ยืดเยื้อ เพราะประชาชนรู้ดีว่าประเทศมีปัญหาเรื่องความแดกแยก ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ตนเชื่อว่าผู้ที่ได้ฟังจะมีวิจารณญาณ ในการตัดสิน เพราะขณะนี้ประเทศชาติกำลังลุกเป็นไฟ ควรที่จะเอาน้ำมาดับ อย่าเอา เชื้อเพลิงมาเติมให้ไฟแรงขึ้น และหากมีการชุมนุมที่ยืดเยื้อยิ่งจะส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการลงทุน
ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การเมืองจะส่งผล อย่างไร นายบุญจง กล่าวว่า นายเนวิน เป็น 111 ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่ไม่เคยออกมาแสดงความเห็น ทางการเมือง เมื่อถามย้ำว่า การที่ นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไท ยแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ระบุว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตี พล.อ.เปรมนั้น นายเนวิน ไม่เห็นด้วยและเห็นว่า เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป นายบุญจง กล่าวว่า อันนั้น นายปัญญา พูด แต่นายบุญจง ยืนยันว่าไม่มี เพราะนายเนวิน ไม่เคยพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเกินไปหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเกินไปหรือไม่ แต่เมื่อระบุถึงใคร บุคคลนั้นก็ควร ที่จะออกมาชี้แจง หรือดำเนินการฟ้องร้องหากทำให้เกิดความเสียหาย
นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรงมหาดไทย กล่าวถึงการวอร์รูม สถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ศูนย์ปฏิบัติการกะทรวงมหาดไทย ได้รายงาน ความเคลื่อนไหว ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี การรายงานตัวเลขเพิ่มเติม เพราะผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางมาจากใน กทม. และปริมณฑล จากการติดตามการชุมนุมนั้น ตนได้รับรายงานว่าในการชุมนุมวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรกนั้น มีผู้ชุมนุมเยอะที่สุด ประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ส่วนในวันถัดมาจะเหลือประมาณ 2 หมื่นคนในช่วงเย็น ซึ่งในช่วงเช้ามีผู้ชุมนุม 1,500 คน เท่านั้น
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดงและแนะนำแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลและวิถีแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นเพียงการเสนอวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น หรือวิชา อีซี 101 ที่นักศึกษาระดับ ปริญญาตรีทุกคนจำเป็นต้องเรียนไม่มีอะไรแปลกใหม่
นายเทพไท กล่าวว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุความสำเร็จของตนเองที่ผ่านมา นั้น อยากให้กลับไปมองความล้มเหลวของตัวเองตอนเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง เช่นการปล่อยกู้ นาคารเอ็กซิมแบงค์ ให้กับพม่า โครงการรถแท็กซี่เอื้ออาทร ที่กำลังร่วมตัวกันประท้วงและยืนข้อเสนอให้รัฐบาลปัจจุบันแก้ไข โครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการอีลิทการ์ด ตลอดถึงโครงการแอร์พอตลิงค์ ที่กำลังจะเปิดบริการในขณะนี้ ล่วนแล้วเป็นโครงการล้มเหลวเป็นภาระให้รัฐบาลชุดนี้ต้องสะสางแก้ไขต่อไป
ส่วนการพูดถึงการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิ์พูดในแนวทาง3 จังหวัดอีกต่อไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เริ่มต้นมาจากการทำงานของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น การเสนอแก้ปัญหาดังกล่าวจึงขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ต่างจากคนหัวล้านที่มาเสนอน้ำยาปลูกผม ซึ่งไม่มีใครหลงเชื่อไปซื้อมา
นายเทพไท กล่าวต่อว่าสำหรับการปลุกระดมมวลชนของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเรียกร้องให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ต้องเนียมอายให้เปิดตัวออกมาต่อสู่ร่วมกับเสื้อแดง เรียกร้องใหคนบ้าน 111 เข้าร่วมการชุมนุม ร่วมถึงการปรากฎตัวของ นายสมชายบ วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในเวทีปราศัยที่ผ่านมา เป็นการปรากฎชัดว่า ม๊อบคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย คือกลุ่มเดียวกัน ซึ่งต่อไปนี้ ก็จะเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ม๊อบพรรคเพื่อไทยใส่เสื้อแดง
ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปลุกระดมทั่วประเทศให้ลุกขึ้นต่อสู่เรียกร้องประชาธิปไตยหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องยุทธวิถี สอดคล้องกับแผนตากสิน ที่ได้รับการเปิดโปงมาก่อนหน้านี้ ถ่าเป็นเช่นนั้นจริงๆการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็จะพัฒนาไปถึงเป้าหมายสูงสุดของแผนตากสินนั้นคือเป้าหมายให้เกิดสงครามประชาชน