xs
xsm
sm
md
lg

"หมัก"ผวาคุกขอเลื่อนศาล อ้างต้องไปร่วมประชุมUN

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-"หมัก" ยันประชุม "ครม.จรจัด" ที่อุดร เพราะเชื่อว่าจะไม่มีใครก่อกวนได้ หยามพลังนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เป็นแค่เป็นเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่ทั้งสถาบัน แต่ยังข้องใจว่า ทำไมคนดีมีความรู้ต่างมาหนุนพันธมิตรฯ ยันขอเลื่อนนัดศาลอุทธรณ์ ที่จะตัดสินคดีในหมิ่นประมาท ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ อ้างไปประชุมยูเอ็น และไม่หวั่นถูกยึดอำนาจระหว่างที่ไม่อยู่ ด้านหัวหน้ากุ๊ยเมืองอุดร ปลุกระดมลิ่วล้อผ่านวิทยุชุมชน คุยส่งสมุน 2 พันคน เฝ้าสนามบิน ขู่ตีทันทีหากพันธมิตรฯ ออกมาป่วนครม. ขณะที่แกนนำพันธมิตรฯ อุดร นัดแต่งดำประท้วง ส่วน ปชป. ขอให้งดประชุม เพราะจะเป็นการเติมเชื้อไฟ สร้างเงื่อนไขความรุนแรงของประชาชนทั้งสองฝ่าย ส่วน39กลุ่มอุตฯนัดถกผลกระทบการเมือง

เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (7ก.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถึง สาเหตุที่จะไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จ.อุดรธานี ว่า เพราะไปยืมสถานที่เขา และก็เสนอให้ไปสัญจรเสียเลย ไปในจังหวัดที่ไม่มีคนก่อกวน ถัดไปก็จะหาจังหวัดที่พร้อมจะเป็นได้

ส่วนกรณีที่มีนักเรียนนักศึกษา เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เป็นสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออก แต่เป็นเพียงคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งสถาบัน แต่ที่น่าตกใจ คือ มีนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย 3 คน แต่งเครื่องแบบมาร่วมประท้วงด้วย ทั้งที่อยู่เฉยๆ ก็คงไม่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามีทางออก

ส่วนที่มีข่าวว่า มีการรวบอำนาจจากกระทรวงต่างๆ รวมทั้งการเคลื่อนย้ายกำลังพลของทหาร มาอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมัคร กล่าวว่า เป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่สุดท้ายตนต้องมอบอำนาจดังกล่าวให้ผู้บัญชาการทหารบก แต่ข่าวที่ออกมากลับเป็นเรื่องนายกรัฐมนตรีขัดแย้งกับผู้บัญชาการทหารบก

"การออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 ฉบับเพิ่มเติมนั้น ถือเป็นแบบฉบับปกติ เนื่องจากข้อกฎหมายมีการกำหนดไว้อยู่แล้วชัดเจน สื่อไม่ฟังพาดหัวข่าวนายสมัคร รวบอำนาจ นายกประกาศลาออก จนต้องมาพูดกับประชาชนก่อนถึงวันอาทิตย์"

นอกจากนี้ นายสมัคร ยังได้ติงสื่อมวลชนว่า เป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ดูเหมือนว่ารุนแรงขึ้น เช่น มีข่าวว่าตนจะประกาศลาออกก่อนที่จะออกรายการวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อเช้าวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา หรือกรณีที่มีกลุ่มรัฐวิสาหกิจประกาศตัดน้ำ ตัดไฟ ทั้งที่สถานการณ์ไม่ได้รุนแรงอย่างนั้น ซึ่งตนจะไม่ยอมให้มีการสับโขกฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม อยากขอบคุณสื่อที่ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะความคิดของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน

**ยันไปประชุมยูเอ็นไม่สนถูกยึดอำนาจ
นายสมัคร กล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตนต้องไปเยือนญี่ปุ่น ก็ต้องทำหนังสือกราบบังคมทูลพระจักรพรรดิ์ว่า ขอเลื่อนไปก่อน ต่อจากนี้จะไปพูดที่สหประชาชาติ ในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ขณะที่ศาลอุทธรณ์นัดวันที่ 25 ก.ย. เช่นเดียวกัน เป็นคดีหมิ่นประมาท ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ติดตะราง 2 เดือน 2 ปี ไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนจะต้องสู้ถึงชั้นฎีกา ซึ่งตนได้ทำหนังสือขออนุญาตศาลแล้วว่า จะต้องไปปราศรัย ที่สหประชาชาติ เพื่อให้คนทั้งโลกเห็นว่า สถานการณ์บ้านเมือง มีแค่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น

ส่วนที่มีนักข่าวถามว่า ไม่กลัวสงครามกลางเมืองหรือ ตนก็บอกว่าจุดเท่าไรก็ไม่ติด เท่าไรเลือดก็ไม่นอง ทั้งนี้มีข่าวว่า เมื่อตนไปอยู่สหประชาชาติ ทางนี้จะยึดอำนาจ ก็แล้วแต่ แต่จะได้เป็นหน้าเป็นตา ว่าบ้านเมืองเป็นแบบนี้ นายกฯ ยังพูดในสหประชาชาติได้

“มีคนถามว่าไปสหประชาชาติ ไม่กลัวเป็นแบบอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้กลับประเทศ และไปไม่กลัวทหารปฏิวัติหรือ หากทหารปฏิวัติก็เสียรังวัด ทหารคิดว่า การประคับประคอง การไม่ปฏิวัติรักษาบ้านเมืองดีกว่าปฏิวัติ ที่ผ่านมามีนักข่าวถาม ไม่กลัวสงครามกลางเมืองหรือ จะมีสงครามการเมืองได้อย่างไร เมื่อพวกอยู่ทำเนียบฯ บอกอหิสา ทหาร ตำรวจ ถือแต่โล่ กระบอง ไม่มีอาวุธ จะจุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด ทำเท่าไหร่ เลือดก็ไม่นอง ออกซิบๆ พอมีบ้าง ผมจะไปสหประชาชาติ หากทางนี้ยึดอำนาจ ก็พิจารณาดูว่า สมควรหรือไม่ แต่หากผมอยู่เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นหน้าตาของประเทศไทย เชื่อว่าไม่มีจลาจล" นายสมัคร กล่าว

**ข้องใจคนมีความรู้อยู่ข้างพันธมิตรฯ
ในช่วงท้าย นายสมัคร ได้ตอบคำถาม ถึงกรณีที่มีคนเสนอให้นำนักวิชาการ มาช่วยงานรัฐบาล ว่า ตนทำงานตามมาตรฐานปกติ นักวิชาการไม่ต้องถูกชักชวนมาเป็นเครื่องมือของรัฐบาล นักวิชาการก็ให้อยู่ในส่วนของนักวิชาการ อย่างไรก็ตามสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่า ทำไมต้องเป็นแบบนี้ คนที่ออกมาชุมนุมเป็นใคร จากไหน อย่างไร และทำไมจึงไม่มีใครไปแตะต้อง

"ผมทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีผลประโยชน์ ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่เวลานี้มารับหน้าที่อยู่ ถ้ากระโดดหนีไป ไม่ได้หรอกครับ เพราะนี่ก็บ้านเมืองของผม สำคัญที่สุด สถาบันพระมหากษัตริย์ ผมจะต้องเป็นคนอยู่เฝ้าดูแลเรื่องนี้ เพราะผมชักสังหรณ์ใจ พวกที่ปลุกระดมกันทั้งหลายแสดงความจงรักภักดีผิดปกติ เพราะไปเหยียบย่ำคนอื่นที่เขาไม่แสดง ผมถือว่าเหยียบย่ำความรู้สึกของตำรวจ ทหาร ที่เขารักเทิดทูนสถาบันด้วยใจ" นายสมัครกล่าว

นายสมัคร ยังได้กล่าวติติงกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า คิดอย่างไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเสนอแนวคิดให้มี ส.ส.แต่งตั้งร้อยละ 70 และเลือกตั้งร้อยละ 30 ไม่รู้ว่าคิดแบบลัทธิอะไร ดังนั้น หากปล่อยให้พันธมิตรฯได้อำนาจรัฐไป อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง แต่ตนรู้สึกประหลาดใจ ที่สื่อมวลชน คนดี มีความรู้ไปยกย่องส่งเสริมพันธมิตรฯ และให้ตนพิจารณาตัวเอง บ้านเมืองนี้มันเกิดอะไรขึ้น

"ผมต้องดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมชักสังหรณ์ใจ คนที่ออกมาพูดว่าเทิดทูน แต่เหยียบย่ำคนที่รักพระราชวงศ์ด้วยใจ เอาความจงรักภักดีไปเหยียบย่ำคนอื่น คนพวกนี้คิดอย่างไม่เป็นประชาธิปไตย จะเอา 30 - 70 คิดอย่างประเทศอะไร ถ้าเกิดคนพวกนี้เห่อเหิม ได้อำนาจรัฐไป จะเกิดอะไรกับบ้านเมือง"

นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ฝนลูกเห็บตกในทำเนียบญ กรมอุตุฯว่า เป็นเรื่องปกติ ของสภาพอากาศ แต่ตนเห็นว่าไม่ปกติ เพราะตนอยู่มา 73 ปี ตนไม่เคยเห็นลูกเห็บตกในทำเนียบฯ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ได้เอาเครื่องบินใส่น้ำแข็งไปโปรย

**กุ๊ย"ขวัญชัย"ขู่ทำร้ายพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.อุดรธานี ถึงบรรยากาศโดยทั่วไปก่อนที่จะมีการประชุมครม.สัญจร ในวันพรุ่งนี้ว่า นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้ปลุกระดมผ่านสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร FM 97.50 ว่า ชมรมคนรักอุดร เตรียมสมาชิกชมรมประ 2,000 คน ไปเฝ้าสนามบินอุดรธานี ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ เพื่อรักษาสนามบินไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ มาต่อต้านการประชุม ครม.สัญจร หากพบกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาก่อกวน จะส่งให้สมาชิกชมรมคนรักอุดรทำร้ายร่างกายทันที

ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภารดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี และสนธิกำลังกับทหาร-ตำรวจตระเวนชายแดน-อส.-อพปร. เพื่อรับมือทั้ง 2 ฝ่ายที่อาจเกิดการปะทะกัน

**พธม.อุดรนัดแต่งดำประท้วงครม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมต้นคูณ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 ขอให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการประชุมครม.สัญจรที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ เพราะรัฐบาลนายสมัคร ขาดความชอบธรรมในการบริหารงานประเทศ และพร้อมจะนำประชาชนมาต่อต้านทุกรูปแบบ

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (7ก.ย.) หลังจากที่คณะกรรมการทำการปรึกษาหารือกันได้ข้อสรุปว่า ในวันที่ 9 ก.ย. ทางกลุ่มพันธมิตรอุดรจะใส่ชุดดำ เพื่อแสดงถึงการปฏิเสธการประชุม ครม สัญจรที่อุดรธานี เพราะเห็นว่า การที่นายสมัคร พร้อม ครม.มาประชุมที่อุดรธานีครั้งนี้ เป็นการประชุมที่มีวาระซ่อนเร้นแน่นอน เนื่องจาก จ.อุดรธานี เป็นฐานเสียงที่สำคัญ มี ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนครบทุกเขต

ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กล่าวถึงการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุดรธานี วันที่ 9 ก.ย.นี้ว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงว่าจะมีการปะทะกัน ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่าย ควรระวัง มีสติไว้บ้าง เพราะการปะทะกัน ไม่เกิดประโยชน์ การล้มตายก็ไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำสั่งมาจากนายกฯ ให้ไปประชุม ครม.สัญจร ก็ต้องไป

**ซัด"หมัก"หรือต้องให้เด็กอนุบาลมาไล่
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคไม่อยากมีการประชุมครม.สัญจร ที่อุดรธานี เพราะจะเป็นการเติมเชื้อไฟ เพื่อสร้างเงื่อนไขความรุนแรงของประชาชนทั้งสองฝ่าย จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้ยุติ

ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า ยังมีท่าที แข็งกร้าว เหมือนเดิม มีการโจมตีสื่อ ว่าเป็นผู้จุดชนวน กล่าวหาว่าสื่อเสนอข่าวฝ่ายเดียว ทำให้คนมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ขาดวิจารณญาณ จึงอยากขอให้ไปดูว่า ผู้ชุมนุม กับพันธมิตรฯ ต่างจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างไร

นายเทพไท กล่าวว่า วันนี้ผู้ชุมนุมขยายไปถึงนักเรียน นักศึกษา ถามว่านายกฯ จะรอให้เด็กประถม อนุบาล ออกมาก่อนหรืออย่างไร ถึงจะฟัง นายกฯ ยังพูดว่าอยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย และต้องเฝ้าดูสถาบันฯ เพราะมีลางสังหรณ์ว่าพันธมิตรฯ จะปลุกระดมแสดงความจงรักภักดี มีนัยอะไร ตนไม่อยากให้นายสมัคร ใช้สถาบันฯ มาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง

ทั้งนี้ การรักษาประชาธิปไตย การยุบสภา หรือลาออก ก็เป็นการรักษาประชาธิปไตย เช่นกัน ในอดีตมีนายกฯ 3 คน ที่เจอสถานการณ์น้อยกว่านายสมัครด้วยซ้ำ แต่ก็ลาออก คือ กรณีม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ลาออกเนื่องจากถูกกดดันว่า การเมืองในพรรคอ่อนแอ ก็ประกาศลาออก พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ก็ลาออกกลางสภา จากวิกฤติน้ำมัน และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากวิกฤติเศรษฐกิจ แม้จะมีผู้ชุมนุมต่อต้าน ไม่ถึงหมื่นคน

"ยุคนายสมัคร คนทั่วประเทศ ทุกสาขาอาชีพ แสดงออกว่าไม่เอานายสมัคร แต่นายสมัคร กลับห้อยพระมหาอุด ปิดหู ปิดตา ไม่ฟังใคร เอาตัวเป็นใหญ่ ผมขอให้ลดทิษฐิ เพื่อเห็นแก่ชาติ อย่าไปกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ แต่ต้องสำรวจตัวเองว่าบกพร่องตรงไหน ผู้ถูกวิจารณ์ต้องพึงสังวรณ์ ก่อนแสดงท่าทีแข็งกร้าว ได้ขอให้เลิก ครม.สัญจร เพราะเหมือน ครม.จรจัดมากกว่า ซึ่งจะสร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมาอีกข้อหนึ่ง นอกจากนี้ ขอถามพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังมีความสุขความยินดีที่จะร่วมรัฐบาลอยู่ หรืออยากจะกอดคอดูบ้านเมืองหายนะหรือ ขอให้พรรคร่วมฯ ฟังความเห็นประชาชนทั่วประเทศ เพี่อรักษาประชาธิปไตยไว้" นายเทพไทกล่าว

**39กลุ่มอุตฯนัดถกผลกระทบการเมือง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 9ก.ย. นี้ ส.อ.ท. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ตัวแทนสมาชิกทั้ง 39 กลุ่มอุตสาหกรรมและ ส.อ.ท. 74 จังหวัดเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังเกิดปัญหาความไม่สงบทางการเมืองโดยแต่ละกลุ่มจะรวบรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นมารายงานต่อที่ประชุมเพื่อที่เอกชนจะได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ผลกระทบนั้นบานปลาย

"การหารือครั้งนี้ก็คงจะเป็นการแสดงจุดยืนถึงทิศทางภาวะเศรษฐกิจหากปัญหายืดเยื้อแต่คงไม่เสนอรัฐบาลแต่จะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอย่างไรผ่านสื่อมวลชนเป็นสำคัญซึ่งอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็คงจะต้องช่วยกันในแง่ของเอกชนที่ผ่านมาก็ช่วยตัวเองมาตลอดอยู่แล้ว"นายสันติกล่าว

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองจากการรายงานเบื้องต้นมีหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหารจะไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลา นักธุรกิจต่างประเทศไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาเจรจาติดต่อธุรกิจในประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรการนำเข้าวัตถุดิบมีการจัดส่งล่าช้า ส่วนอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ฯลฯ ทั้งนี้หากเหตุการณ์ยืดเยื้อและยังมีการหยุดงานของสหภาพการท่าเรือจนทำให้การปิดท่าเรือมีปัญหาจะยิ่งกระทบการนำเข้าส่งออกอย่างมากสิ่งที่กังวลคือการส่งออกของประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 70% ของจีดีพีหากส่งออกเกิดปัญหาจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวลดลงได้

" หากการเมืองยังยืดเยื้อและมีการหยุดงานของแต่ละสหภาพ จะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมหลังคาและอุปกรณ์ แจ้งว่าจากการปิดสนามบินที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาวเพราะทำให้การก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ทต้องหยุดชะงัก วัสดุก่อสร้างขายได้น้อยลง โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้ทั้ง ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี"นายสันติกล่าว

**“สุชาติ”สั่งเน้นทุกพื้นที่ตั้งด่านสกัด
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. และระดับผู้บังคับการในพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสรุปผลการทำงานร่วมระหว่างทหารและตำรวจรวมถึงประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปักหลักชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้เน้นให้ทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานครตั้งด่านตรวจด่านสกัดเชื่อมโยงเครือข่ายเป็นใยแมงมุม ทั้งทางเชื่อมทางแยก เพื่อป้องกันมือที่ 3 ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น

ส่วนกำลังตำรวจในการดูแลนั้นยังคงใช้กำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 และจากกองบังคับการปราบปราม จำนวน 22 กองร้อย หรือ 3,300 นาย ปรับเปลี่ยนเป็น 3 ผลัดผลัดละ 8-10 ชั่วโมง ดูแลพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น