xs
xsm
sm
md
lg

นปก.เหิมขู่ปิดศาลรธน.เพ้อหนักตั้งปธน.แม้วสมชายดิ้นสู้ยุบพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “สมชาย” ไม่สนใจบ้านเมืองวิกฤติ หลบฉากไปขอพรองค์พระธาตุพนมท่ามกลางการต้อนรับกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมประกาศกร้าวขอสู้คดียุบพรรคพรรคประชาชน นปช.จาบจ้วงศาลรธน.ไม่หยุด ด้านนปช.ระดมพลยึดลานคนเมือง แย้มเตรียมขวางไม่ให้ศาลประชุม กทม.ผวาสั่งเก็บเอกสารสำคัญหนี พร้อมสั่งปิดโรงเรียนเขตพระนคร 11 แห่ง ขณะที่ส.ส.ทาสพลังแม้วศรีสะเกษ-บุรีรัมย์-หนองคาย-ร้อยเอ็ดขู่ระดมคนต้านรัฐประหาร ส่วนกลุ่มเสื้อแดงเชียงรายบ้าไม่สิ้นสุด ถึงขั้นเพ้อแยกตัวตั้ง “สาธารณรัฐล้านนาประชาธิปไตย” ตั้ง “แม้ว” เป็นประธานาธิบดี
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ว่า บรรยากาศที่บ้านพักส่วนตัวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตลอดช่วงเช้าวานนี้ (30 พ.ย.) เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ได้พักอยู่ภายในบ้าน และไม่มีการเปิดเผยว่าเดินทางไปที่ใด อย่างไรก็ตามบริเวณโดยรอบยังคงมีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ตามกำหนดเดิมเวลา 10.00 น. (30พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีมีภารกิจจะเป็นประธานการประชุมติดตามและจัดเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียน ซัมมิท ครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงกลางเดือนธันวาคม และจะมีการเดินทางไปตรวจดูความพร้อมสถานที่ ที่จะใช้จัดการประชุมและต้อนรับผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุม ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด
จากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางโดยเครื่องบินเล็กของวิทยุการบินมายังท่าอากาศยานนครพนม เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับของส่วนราชการจังหวัด และชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปไหว้องค์พระธาตุพนม ที่ อ.พระธาตุพนม ว่า ตั้งใจจะมาไหว้องค์พระธาตุพนมนานแล้ว ครั้งนี้เพิ่งมีโอกาส ซึ่งถือว่าเป็นการมาเยี่ยมเยียนราษฎรตามปกติ แม้จะมีเหตุการณ์ไม่ปกติที่กรุงเทพฯ รวมถึงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สองพื้นที่คือที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งก็มีผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ตอบว่ามาขอพรใดองค์พระธาตุพนม แต่ตอบข้อถามเรื่องศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดียุบพรรคพลังประชาชน วันที่ 2 ธ.ค.นี้ว่า ได้ให้ทีมงานร่างหนังสือเพื่อยื่นต่อศาลเพื่อขอต่อสู้คดี โดยจะขอชี้แจงทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ด้านนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตร เปิดเผยว่า ผู้ติดตามนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แจ้งทางโทรศัพท์ว่า หลังเดินทางมาสักการะพระธาตุพนมแล้วจะเดินทางมายังอุดรธานี โดยเครื่องบิน ซึ่งนายกฯบอกว่าจะมาขอทานข้าวเย็นด้วย และพักค้างคืนที่ จ.อุดรธานีที่โรงแรมเจริญศรี โฮเต็ล ส่วนวันนี้ (1 ธ.ค.) จะทำอะไรบ้างต้องคุยกันก่อน

**ตู่เหิมฉะศาลรธน.-ส่อหมิ่นเบื้องสูง
วานนี้ (30 พ.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน หนึ่งในแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การตัดสินคดียุบพรรคของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนเข้าใจ แต่จะต้องไม่ใช้วิธีการแบบรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ส่วนตัวยังเชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตัดสินคดียุบพรรคก่อนวันที่ 4 ธันวาคม เนื่องจากต้องการนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา มากลบกระแสไม่ให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีโอกาสได้มีคำวินิจฉัยหรือไม่

**ไม่สนขอเดินหน้าบริหารประเทศ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงข่าวสถานการณ์การเมืองไทยหลังจากพันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมืองและทำเนียบฯว่า รัฐบาลได้ประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการปฏิบัติตามลำดับที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้นด้วย แต่วันนี้พันธมิตรฯที่กระทำการละเมิดกฎหมายต่างๆและแสดงออกชัดว่า กำลังต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกรูปแบบ และวันนี้สังคมเรียกร้องให้พันธมิตรฯยุติการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ที่ปราศจากอาวุธแล้ว แต่ภาพที่ปรากฏอย่างน้อยที่สุดพันธมิตรฯมีอาวุธคือไม้และท่อนเหล็กครบมือ จนทำให้ตำรวจพบความลำบากในการทำงานและทำอะไรไม่ได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอเรียนว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และได้คุยกับผู้รับผิดชอบสถานการณ์และมอบนโยบายด้วย ส่วนการบริหารราชการแผ่นดินด้านอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขการชุมนุมนั้น รัฐบาลไม่ได้หยุดกการทำงานและยังเดินหน้าต่อไป วันที่ 1 ธ.ค.จะมีการประชุมเศรษฐกิจ ส่วนการทำบุญประเทศตามกำหนดการเดิมนั้นยังคงมีอยู่ แต่ไม่รู้ว่านายกฯจะลงมาเป็นประธานได้หรือไม่ วันที่ 2 ธ.ค. จะมีการประชุมครม.โดยน่าจะเป็นการประชุมครม.สัญจรที่ยังไม่ได้กำหนดสถานที่ ส่วนกำหนดการต่างๆของนายกฯในช่วงต้นเดือนธ.ค.เช่น การเป็นประธานข้าราชการถวายสัตย์ปฏิญาณฯ การร่วมพระราชพิธีสวนสนามฯนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะนายกฯต้องดูสถานการณ์รายวันก่อน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายกฯย้ำว่าให้ใช้นโยบายสันติวิธีและขอให้ตำรวจปฏิบัติภายใต้กฎหมายตามหลักสากลแต่ต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้นโดยต้องมีการเจรจาควบคู่กัน ซึ่งหวังว่าน่าจะประสบผลและเข้าใจว่าวันนี้จะมีการเจรจาระหว่างตำรวจ - แกนนำพันธมิตรฯ จึงขอให้แกนนำพันธมิตรฯคำนึงถึงสวัสดิภาพและชีวิตของประชาชนที่มาชุมนุม โดยขอให้ร่วมมือกับตำรวจในการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการเข้าถึงจุดเกิดเหตุในสถานที่ชุมนุมด้วยเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ รัฐบาลไม่ได้แสวงหาหรือต้องการชัยชนะ หากมันเกิดขึ้นก็ขอมอบให้คนไทย เหตุที่รัฐบาลยังไม่ยุบสภาหรือลาออก เพราะว่าแม้รัฐบาลไม่ต้องการชัยชนะ แต่ประเทศจะมอบชัยชนะให้พันธมิตรฯไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นบรรทัดฐานนอกรีตในระบบการเมืองไทยและเป็นวงจรอุบาทว์ในการชิงอำนาจ
“การยุบพรรคก็คล้ายว่าจะเร็วทันใจใครบางคนบางกลุ่ม ในความเห็นส่วนตัวของผมขอเรียนไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องวิเคราะห์และประเมินใดๆ เพราะโดนยุบพรรค 100 เปอร์เซ็นต์ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะย้ายไปอยู่พรรคใดก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ศาลรัฐธรรมนูญอาจสร้างความเคลือบแคลงสงสัยในการพิจารณาคดี และอาจสร้างความไม่พอใจและไม่ยอมรับกระบวนการ เพราะพรรคยื่นขอให้ตรวจสอบพยานหลักฐานแต่ศาลก็ไม่รับฟังคำชี้แจง ผมขอฝากไปยังบุคคลที่ขึ้นทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมต้องศรัทธาคำว่ายุติธรรมอย่างแท้จริงและมอบให้ประชาชนทุกกลุ่มโดยเท่าเทียม ไม่เช่นนั้นปัญหาบ้านเมืองจะไม่จบ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

**เสื้อแดงรวมตัวชุมนุมลานคนเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีการนัดรวมพลชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงเย็นวานนี้ (30 พ.ย.) ปรากฏว่าตั้งแต่เวลา 11.30 น.มีการจัดตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ หันหลังให้วัดสุทัศน์ฯ และผู้ชุมนุมที่พร้อมใจกันสวมเสื้อแดง ด้านหลังสกรีน ข้อความ “truth today” หรือความจริงวันนี้ เริ่มทยอยเดินทางมาเพื่อฟังการปราศรัยของแกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น. แต่เนื่องจากอากาศร้อนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องอาศัยนั่งหลบแดดบริเวณใต้ร่มไม้
ขณะเดียวกันก็เริ่มมีร้านค้านำสินค้าต่างๆ มาตั้งขายบริเวณโดยรอบ อาทิ เสื้อสีแดง หนังสือ ตีนตบ อุปกรณ์ตบมือรูปหัวใจสีขาวและสีแดง และวีซีดีการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการใช้เครื่องขยายเสียง เปิดวีซีดีดังกล่าวให้กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมชมก่อนการปราศรัยบนเวทีจะเริ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ กทม.ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่เทศกิจ จากสำนักเทศกิจ ประมาณ 50 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 6 ประมาณ 1 กองร้อย มาดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบ และมีการปิดประตูทางเข้าออกด้านหน้าศาลาว่าการ กทม.แล้ว เพื่อป้องกันเหตุไม่ปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ด้านใน โดยเหลือทางเข้าออกด้านหลังไว้เพียงทางเดียวเท่านั้น

**ลั่นชุมนุมยืดเยื้อ
เมื่อเวลา 16.00 น.มีประชาชนสวมเสื้อแดงทยอยเข้าร่วมเป็นจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ลานคนเมือง ขณะที่แกนนำประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน เข้าร่วมชุมนุม
นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ของนปช.เพื่อต่อต้านการต้านรัฐประหารซ่อนรูป ไม่ว่าจะเป็นการทำรัฐประหารจากทหาร และศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคดียุบพรรคนั้นถือว่ารวบรัดเกินไป ดังนั้น จึงเชื่อว่า พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ 100 % ซึ่งถือว่า เป็นรัฐประหารซ่อนรูป
"กลุ่มผู้ชุมนุม จะปักหลักชุมนุมที่ลานคนเมืองยาวไปเรื่อยๆ โดยอาจเว้นวันที่ 5 ธ.ค.นี้ หากมีผู้ชุมนุมมาก ก็อาจจะขยายวง ไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย"
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการพิจารณาคดียุบพรรค ของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ โดยยืนยันว่า กลุ่มนปช.จะไม่เคลื่อนขบวนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน แต่แม้ว่า เราจะไม่ไป ก็เชื่อว่า จะมีประชาชนส่วนหนึ่ง ที่จะเคลื่อนไปอยู่ดี
นายตุพร กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กลุ่มนปช.พร้อมอยู่แล้ว แต่คงต้องดูจังหวะเวลาและสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการนัดหมายกันแต่อย่างใด
"ยืนยันว่านปช. ไม่บุกเข้าไปยึดศาลาว่าการกทม.ของให้กทม.สบายใจได้ สิ่งที่พันธมิตรฯทำ เราไม่ทำตามแน่" นายจตุพร กล่าวและว่า ในส่วนปัญหามือที่สาม ไม่เป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและการ์ดดูแลอยู่แล้ว เชื่อว่า จะสามารถดูแลสถานการณ์ได้
ขณะที่นายวีระขึ้นเวทีปราศรัยยืนยันว่า ทุกคนอยู่ชุมนุมด้วยกันจนกว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ทหาร ตำรวจได้ตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ความสงบสุขเกิดขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญของการชุมนุมคือการมาคัดค้านการรัฐประหารซ่อนรูป
นายมานิตย์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า จะปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญมายุบได้อย่างไร เพราะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 โดยคนของ คมช. ดังนั้นจะต้องไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปทำงานได้

**ปลัดกทม.สั่งเก็บเอกสารสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. ได้ร่วมหารือกับหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อประเมินถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่ลานคนเมือง เมื่อเวลา 12.00 น. ได้มีคำสั่งเป็นการภายในแจ้งให้ข้าราชการ กทม.ทุกหน่วยเข้ามาเก็บเอกสารสำคัญภายในศาลาว่าการ กทม.ออกไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ทั้งนี้ หากกลุ่ม นปช.มีการบุกยึดศาลาว่าการ กทม.ก็เตรียมที่จะอพยพย้ายที่ทำงานไปยังสถานที่ปลอดภัยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในการประเมินสถานการณ์ดังกล่าวมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทางผู้บริหารเกรงว่าหากมีผู้ชุมนุมจำนวนเกินกว่า 10,000 คน และการชุมนุมมีการยืดเยื้อประชาชนที่มาร่วมชุมนุมอาจจะเข้ามายึดศาลาว่าการ กทม.เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัย ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมการเก็บเอกสารทางราชการที่สำคัญ เตรียมขนย้ายอีกครั้งหากมีคำสั่งอย่างเป็นทางการจากปลัด กทม.
         
**กทม.ปิด 11 ร.ร.ย่านพระนคร
นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าว่าในวันนี้  (1 ธ.ค.) ได้มีคำสั่งให้ปิดโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 11 โรงเรียน ในพื้นที่เขตพระนคร ซึ่งเป็นพื้นที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนขบวนของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะมาปักหลักชุมนุมในบริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.  ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน
สำหรับโรงเรียน 11 แห่ง  ประกอบด้วย โรงเรียนราชบพิตร โรงเรียนวัดตรีทศเทพ โรงเรียนวัดพระเชตุพน โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม โรงเรียนวัดมหรรณพ์ โรงเรียนวัดมหาธาตุ โรงเรียนวัดราชนัดดา โรงเรียนวัดราชบูรณะ โรงเรียนวัดสุทัศน์ โรงเรียนวัดใหม่อมตรส และโรงเรียนวัดอินทรวิหาร โดยหลังจากนี้ กทม.และสำนักงานเขตพระนคร จะติดตามและประเมินผลต่อไป .

**พปช.ศรีสะเกษต้อนชาวบ้านต้านปฏิวัติ
วานนี้ (30 พ.ย. )ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร โรงแรมเกษสิริ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ หัวหน้ากลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน และ ส.ส.พรรคพลังประชาชนศรีสะเกษ ประกอบด้วย นายปวีณ แซ่จึง , นายธีระ ไตรสรณกุล , นายวิวัฒชัย โหรตะไวศยะ , นายธเนศ เครือรัตน์ , นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ และ นายกล่ำคาน ปาทาน ได้เรียกประชุมด่วนแกนนำหรือหัวคะแนนสมาชิกพรรคพลังประชาชนทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ เรื่อง “เราจะสู้อย่างไรเมื่อประชาธิปไตยถูกคุกคาม (ต่อต้านการรัฐประหาร)” เพื่อซักซ้อมความเข้าใจแนวทาง ในการขับเคลื่อนต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในขณะนี้
ทั้งนี้ มีตัวแทนสมาชิกพรรคพลังประชาชนจากทั้ง 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 200 คน มาร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก ซึ่งบรรดา ส.ส.พรรคพปช. ทุกคนได้ชี้แจงให้แกนนำสมาชิกพรรคได้ทราบถึงสถานการณ์ กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า อยากถามว่าทำไมผบ.เหล่าทัพจึงไม่ออกมาป้องกันและจัดการกับกลุ่มคนที่ยึดสนามบิน เพราะ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย นักการเมืองเป็นผู้กำกับนโยบาย เมื่อมีคนไปยึดสนามบิน ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติวันละ 100,000 -200,000 ล้านบาท ถ้าบุคคลเหล่านี้ไม่ป้องกัน ไม่มีการหาข่าวลับ ข่าวกรองที่จะป้องกันสนามบินทั้งหมดได้ กลุ่มบุคคลเหล่านี้สมควรที่จะกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนอยู่ต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้มีความเกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีคนให้ท้าย เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
“เป็นเรื่องที่น่าสงสัย ผบ.ทบ.กำลังเล่นเกมกับพันธมิตรฯ หรือเปล่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาประกาศวจะมีทหารออกมาวันนั้นวันนี้ หรือว่าเรื่องจะเรียบร้อยในวันนั้นวันนี้ ถ้า ผบ.ทบ.ยังนิ่งเฉยอยู่เช่นนี้ ไม่ดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ อาจเป็นไปได้ว่า ผบ.ทบ.อาจจะไปให้ท้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ เหิมเกริมไม่เกรงกลัว” ร.ท.กุเทพ กล่าว

** ส.ส.แก๊ง“ยี้ห้อย”แถลงต้านรัฐประหาร
ที่จ.บุรีรัมย์ กลุ่มคนเสื้อแดง กว่า 300 คน ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหัวคะแนนนักการเมือง นำโดย กลุ่ม ส.ส. บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน (พปช.) ของ นายเนวิน ชิดชอบ ประกอบด้วย นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ,นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล , นายรังสิกร ทิมาตฤกะ และ นายมนต์ชัย ชาติวัฒนศิริ ได้ร่วมกันออกมาแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงแรมวงษ์ทอง เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ในนามกลุ่ม “พลังเสื้อแดงบุรีรัมย์ ต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร” ว่า จะร่วมกันต่อต้านการปฎิวัติรัฐประหารในทุกรูปแบบ พร้อมประกาศจุดยืนให้การสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย ในการบริหารและปกครองประเทศเท่านั้น พร้อมทั้งได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนกลุ่มเสื้อแดงแต่ละตำบล ที่มาร่วมแถลงได้แสดงความคิดเห็นและเจตนารมณ์ที่มาร่วมแถลงต่อต้านการปฏิวัติในครั้งนี้ด้วย

**เสื้อแดงเชียงรายเพี้ยน
แยกตั้ง “สาธารณรัฐ” ยก “แม้ว” ปธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.เชียงราย บรรดานักการเมืองเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีการติดต่อประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดการประชุมเพื่อแก้วิกฤต หากถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้ยุบพรรคคดีซื้อเสียงหลังวันที่ 2 ธ.ค.นี้ล่าสุด มีรายงานว่า กลุ่ม ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือ และแนวร่วมเสื้อแดงได้มีการหารือกันถึงขั้นที่มีการเตรียมการตั้งชื่อประเทศเอาไว้ก่อน หากว่าพรรคถูกยุบ และถูกรุกหนักจากทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)-ทางการเมือง และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกลายเป็นผู้ต้องโทษในคดีอื่นๆ เพิ่มเติม จนไม่สามารถกลับเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างถาวร เพราะไม่มีอำนาจรัฐและการเมืองคอยช่วยเหลืออีกโดย ส.ส.คนหนึ่งในภาคเหนือเสนอให้ใช้ชื่อว่า “สาธารณรัฐล้านนาประชาธิปไตย” ส่วนฐานเสียงสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ให้แยกไปปกครองเป็นอีกประเทศหนึ่งแต่มีลักษณะเป็นพันธมิตรกัน รวมทั้งมีการพูดสำทับกับพ่อค้า-แม่ค้า ที่รับแจกเสื้อแดง ว่า ให้ช่วยกันหาทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมา เพื่อให้เป็นประธานาธิบดีให้ได้
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังเป็นการพูดคุยกันเบื้องต้นในนักการเมืองในขั้วพรรคพลังประชาชน รวมทั้งกลุ่มม็อบคนเสื้อแดงที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะเกรงว่าเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองมากกว่าเดิม รวมทั้งส่วนใหญ่ยังคงรักและเคารพในสถาบันเบื้องสูง

**ชมรมคนรักอุดรพร้อมลุยพันธมิตรฯ
ส่วน ที่บริเวณลานหน้าหน่วยบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี สวนสาธารณะหนองประจักษ์ วันเดียวกันนี้ ชมรมคนรักอุดรได้รวมตัวกันใส่เสื้อสีแดงต่อต้านพันธมิตรฯ ที่บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ โดมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน ใน จ.อุดรธานีทั้ง 9 คน นำโดย นายอนันต์ ศรีพันธ์ นายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว แกนนำชมรมคนรักอุดร
นายขวัญชัย ไพรพนา กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางลง กทม.เพื่อจัดการกับพันธมิตรฯ เอง หลังจากที่รัฐบาลนิ่งเฉยไม่จัดการทำอะไร ในเมื่อรัฐบาลจัดการกับกลุ่มม็อบไม่ได้ กลุ่มคนเสื้อแดงที่ปกป้องประชาธิปไตยจะลุยเอง โดยจะเดินทางลง กทม.พร้อมด้วยสมาชิกชมรมคนรักอุดรโดยได้เตรียมรถบัสไว้จำนวน 50 คันแล้ว ในส่วนบั้งไฟที่จะเตรียมไปถล่มพันธมิตรฯ ขณะนี้ได้จัดเตรียมแล้วเสร็จประมาณ 50 บั้งโดยพร้อมที่จะถล่มเต็มที่หากพันธมิตรฯไม่รีบออกจากสนามบินและทำเนียบรัฐบาล

**นปก.หนองคายยื่นหนังสือต้านรัฐประหาร
ด้านจ.หนองคาย ได้มีกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มผู้รักชาติรักประชาธิปไตย จังหวัดหนองคาย นำโดย ส.ส.หนองคาย พรรคพลังประชาชน 5 คน ประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรี พงศ์พันธ์ สุนทรชัย, นายยุทธพงศ์ แสงศรี, นายไตรรงค์ ติธรรม, นายเชิดพงษ์ ราชป้องขันธ์, นายสมคิด บาลไธสงค์ ได้นำชาวบ้านประมาณ 150 คน นั่งรถกระบะแห่ไปตามถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลเมืองหนองคาย
พร้อมป้ายข้อความ “ชาวหนองคายต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ” “ประชาธิปไตยถูกทำลายชาวหนองคายยอมไม่ได้” โดยมีรถตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ขับนำขบวนอย่างเอิกเกริก ก่อนจะพากันไปยังศาลากลางจังหวัดหนองคาย ยื่นหนังสือแถลงการณ์ของกลุ่มผู้รักชาติรักประชาธิปไตย จ.+หนองคาย ฉบับที่ 1 ต่อ นายชัยวัตน์ รัฐขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เพื่อส่งมอบต่อไปยังกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ในลำดับต่อไป

เหตุจะนำกระแสพระราชดำรัสมากลบกระแสไม่ให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น