xs
xsm
sm
md
lg

คลังตีปี๊บเก็บภาษีชา-กาแฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเล็งหารือแนวทางจัดเก็บภาษีเพิ่มภายในสัปดาห์นี้ เน้นภาษีสรรพสามิต ม็อบชา-กาแฟ ค้าน แฉยังไม่เริ่ม ถูกกดราคาแล้ว

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือถึงแนวทางการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐบาล หลังจากที่คาดว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ภาษีต่ำกว่าเป้า 2 แสนล้านบาท เพื่อพิจารณาภาพรวมของการจัดเก็บรายได้ภาษีภาครัฐที่คงต้องพึ่งช่องทางรายได้ภาษีสรรพสามิตเป็นหลัก

“รัฐจะดูช่องทางทั้งหมดว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้มาจากช่องทางไหนและอย่างไร เพื่อชดเชยรายได้ที่รัฐจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้า ถ้าไม่พอก็ต้องคงต้องหาแหล่งเงินกู้ แต่ต้องดูว่าจะกู้จากไหน เท่าไหร่เพื่อสำหรับใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงกำลังพิจารณาแนวทางการนำเงินรายได้จากหวยบนดินที่มีอยู่ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ออกมาใช้ได้อย่างไร โดยไม่ให้ผิดกฎหมาย ซึ่งยังมีความคิดเห็นแตกต่างกัน เพราะบางส่วนเห็นว่าสามารถนำเงินดังกล่าวออกมาใช้ได้ทันที แต่บางส่วนเห็นว่าต้องออกกฎหมายก่อน แต่คงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภาษีนิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแน่นอน” นายประดิษฐ์ กล่าว

ด้านนพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะพิจารณาแนวทางการจัดเก็บรายได้ภาษีจากเครื่องดื่มสำเร็จรูปประเภทชา กาแฟ ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องดื่มน้ำอัดและเครื่องดื่มชูกำลังที่มีสารคาเฟอีนภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อราคาผลผลิตชาและกาแฟของเกษตรกร

“จากผลสำรวจพบว่ากาแฟกระป๋องสำเร็จรูปมีปริมาณสารคาเฟอีนสูงสุด ซึ่งมากกว่าน้ำอัดลม และเครื่องดื่มชุกำลัง จึงต้องพิจารณาถึงการจัดเก็บภาษีให้มีความเหมาะสม แต่ไม่ได้เป็นการจัดเก็บภาษีจากกาแฟสด จึงไม่น่าจะมีผลต่อราคารับซื้อกาแฟสดที่เกษตรกรเกรงว่าจะถูกกดราคาวัตถุดิบจากผู้ผลิต”รมช.คลัง กล่าว

ม็อบแฉยังไม่เริ่มก็ถูกกดราคาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมกาแฟและสหกรณ์ชาไทย จ.เชียงราย พร้อมตัวแทนกลุ่มเกษตรชาและกาแฟ กว่า 50 คน นำโดยนายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านนโยบายการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต สินค้าฟุ่มเฟือย และอ้างว่าจัดเป็นสินค้ากลุ่มที่ทำลายสุขภาพ โดยเฉพาะเครื่องดื่มสำเร็จรูปชาและกาแฟนั้น ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกชาและกาแฟทั้งระบบ

นายอนันต์ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาเก็บภาษีสินค้าเครื่องดื่มสำเร็จรูปประเภทชาและกาแฟ เพื่อชดเชยรายได้จากภาษีของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีส่วนนี้จะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟที่ต้องเพิ่มต้นทุนการค้า จนต้องกำหนดราคาขายต่อผู้บริโภคสูงขึ้น และในที่สุดเกษตรกรจะต้องถูกกดราคารับซื้อวัตถุดิบ สร้างความไม่เป็นธรรมแก่เกษตรกรผู้ปลูกชาและกาแฟ โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.เป็นต้นมา ที่ผลผลิตชาออกสู่ตลาดมากที่สุด แต่เกษตรกรกลับถูกกดราคารับซื้อต่ำลงจากเดิมกิโลกรัมละ 12-13 บาท มาอยู่ที่ 9 บาทแล้ว

“การที่รัฐบาลระบุว่า ชาและกาแฟเป็นเครื่องดื่มทำลายสุขภาพ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะคนบริโภคชามาช้านานมากแล้ว จึงยืนยันว่าชาและกาแฟไม่เป็นสินค้าที่ทำลายสุขภาพผู้บริโภค แต่หากการจัดพืชประเภทนี้อยู่ในสินค้าที่ทำลายสุขภาพ ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของพืชดังกล่าวลดลง รวมถึงอยากให้รัฐบาลชะลอการเปิดเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-เวียดนาม ที่จะมีการยกเว้นภาษีชาและกาแฟระหว่างกันด้วย เพราะจะทำให้ชาและกาแฟที่นำเข้ามาตีตลาดราคาชาและกาแฟในประเทศให้ตกต่ำลง และข้ออ้างที่รัฐบาลต้องการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 3 หมื่นล้านบาท ต้องศึกษาว่าจะคิดภาษีตามปริมาณคาเฟอีน หรือปริมาณบรรจุภัณฑ์ ส่วนผู้ประกอบการจะผลักภาระภาษีให้ผู้บริโภคหรือไม่ต้องทำให้เกิดความชัดเจน”นายอนันต์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 4 แสนไร่ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 5 หมื่นตันต่อปี สร้างรายได้ให้เกษตรกร 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน คิดเป็นรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อปี คิดเป็นมูลค่าในอุตสาหกรรมกาแฟทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท ส่วนพื้นที่ปลูกชาประมาณ 2 แสนไร่ สร้างรายได้ให้เกษตรกร 5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน
กำลังโหลดความคิดเห็น